เจ้าหน้าที่คุมกฎระเบียบด้านเวชภัณฑ์ยุโรป ยืนยัน ไม่มีตัวบ่งชี้ว่า วัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าเกี่ยวข้องกับการทำให้เกิดลิ่มเลือดแต่อย่างใด หลังชาติยุโรปพากันระงับใช้วัคซีนตัวนี้
บีบีซี รายงานว่า สำนักงานยาแห่งยุโรป (อีเอ็มเอ) ยืนยันเมื่อวานนี้ (11 มี.ค.) ว่า ไม่พบข้อบ่งชี้ว่า วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำให้เกิดลิ่มเลือด ในตัวผู้ที่ได้รับยา หลังจากที่ปลายประเทศในยุโรป ประกาศระงับการใช้วัคซีนตัวนี้ไว้ชั่วคราว
การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากที่ กระทรวงสาธารณสุขเดนมาร์ก ประกาศ ระงับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า เป็นการชั่วคราว จากรายงานว่า เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ในผู้ที่ได้รับวัคซีนบางราย
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า มีชายวัย 50 ปี เสียชีวิตในอิตาลี เพราะเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ในหลอดเลือดดำส่วนลึก (DVT) หลังได้รับวัคซีนตัวนี้ด้วย
นอกจากเดนมาร์กแล้ว ประเทศยุโรปที่พากันระงับใช้วัคซีนโควิด ของแอสตร้าเซนเนก้า รวมถึง นอร์เวย์ และไอซ์แลนด์ ขณะที่อิตาลี กับออสเตรีย หยุดใช้งานวัคซีนเพียงบางลอตเท่านั้น เพื่อป้องกันไว้ก่อน เช่นเดียวกัน เอสโตเนีย, ลัตเวีย, ลิทัวเนีย และลักเซมเบิร์ก
อย่างไรก็ตาม อีเอ็มเอ ยืนยันว่า ในขณะนี้ ยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่า การฉีดวัคซีนจะทำให้เกิดอาการเหล่านี้ และอาการดังกล่าว ไม่ได้อยู่ในรายการผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนชนิดนี้ ทั้งยังย้ำด้วยว่า ประโยชน์ของวัคซีนยังมีน้ำหนักมากกว่าความเสี่ยง และสามารถใช้วัคซีนตัวนี้ต่อไปได้ ในขณะที่การสืบสวนกรณีภาวะลิ่มเลือดอุตตันหลอดเลือดดำยังคงดำเนินต่อไป
อีเอ็มเอ เผยด้วยว่า ที่ผ่านมา พบกรณีเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดดำเพียง 30 รายเท่านั้น จากกลุ่มชาวยุโรป ที่ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ากว่า 5 ล้านคน ซึ่งเป็นอัตราที่ไม่ได้สูงไปกว่าจำนวนผู้ป่วยในกลุ่มคนทั่วไปเลย
ทั้งนี้ การระงับใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าของชาติยุโรป เกิดขึ้นในขณะที่โครงการฉีดวัคซีนของสหภาพยุโรปกำลังประสบปัญหาความล่าช้า เนื่องจากผู้ผลิตจัดส่งสินค้าให้ไม่ครบตามข้อตกลง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ยุ่งแล้ว! เดนมาร์กระงับฉีด ‘วัคซีนแอสตราเซนเนกา’ หลังพบเคส ‘ลิ่มเลือดอุดตัน’.
- เพิ่มอีกหนึ่ง! อียูไฟเขียว ฉีดวัคซีนโควิด ‘J&J’ อายุ 18 ปีขึ้นไป
- เจออีก! ญี่ปุ่นพบหญิง 9 ราย ‘แพ้รุนแรง’ หลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ของ ‘ไฟเซอร์’