Entertainment

รถเมล์ เล่าชีวิตหลังแต่งงาน ต้องหอบหมอนตัวเองไป ไขข้อสงสัยไม่เปิดตัวลงโซเชียล

เพิ่งเข้าพิธีแต่งงานไปได้ไม่นาน สำหรับ รถเมล์ คะนึงนิจ ที่วันนี้จะมาเปิดใจถึงชีวิตหลังแต่งงาน กับสามีหนุ่มนอกวงการ บอล สุเมธ และเผยแพลนปั๊มทายาท พร้อมเปิดเส้นทางความรัก 3 ปี และไขข้อสงสัยถึงสาเหตุที่ไม่เคยโพสต์รูปคู่สามีหนุ่มตลอด 3 ปีที่คบกัน ในรายการ คุยแซ่บShow ที่มี บูม สุภาพร และ พีเค ปิยะวัฒน์ เป็นพิธีกร

1 รถเมล์ คะนึงนิจ 10

คบแฟน 3 ปี แต่งงานเร็วเกินไปหรือเปล่า ?

รถเมล์ : ไม่มีคำว่าเร็วสำหรับความรัก คือแต่ก่อนเราอาจจะคิดว่าคบแฟนเราต้องดูกันไปนาน ๆ แต่พออายุเยอะขึ้น เราเห็นจากเพื่อนว่าเวลามันไม่ใช่คำตอบว่าจะไปต่อกับเขาได้แค่ไหน รถเมล์แค่รู้สึกว่าแค่ 3 ปี สำหรับรถเมล์มันโอเคแล้ว แต่ถ้าถามว่าถ้ามันสั้นแล้วมันจะรู้สึกอย่างไร คือมันมีจุดที่พอเราอายุขึ้น คือเมื่อก่อนเราอาจจะเลือก ๆ ๆ ๆ คิดอะไรเยอะมาก ๆ และการคิดอะไรมาก ๆ บางครั้งมันก็ไม่ประสบความสำเร็จ ถ้าเราปล่อยให้มันสบายดูชิล ๆ มันอาจจะดีกับชีวิตมากกว่า และดูจากเพื่อนด้วย คือเพื่อนเจอกันแป๊บเดียวแล้วมันคลิก เขาก็ดูมีความสุขดี มันไม่เห็นเกี่ยวกับเวลาเลย

งานแต่งงานจัดทั้งแบบจีนและไทยใช่ไหม ?

รถเมล์ : คือรถเมล์ไม่ได้มีรดน้ำสังข์ มีแค่ยกน้ำชาแบบจีนและงานหมั้นปกติ

1 รถเมล์ คะนึงนิจ 2

ในงานแต่งเจ้าบ่าวร้องไห้ เขาร้องทำไม ?

รถเมล์ : คือต้องเท้าความกลับไปว่ารถเมล์กับพี่บอลเจอกันได้อย่างไร คือรถเมล์กับพี่บอลเจอกันได้เพราะเพื่อนแนะนำ เพื่อนรถเมล์เป็นเพื่อนกับน้องชายพี่บอล ดังนั้น รถเมล์จึงมีโอกาสรู้จักกับทั้ง 2 ฝ่าย คือมีคนของทางพี่บอลและเพื่อนของทางรถเมล์ที่ทำให้เราได้เจอกัน เผอิญว่าวันที่เราได้แต่งงานกัน น้องชายพี่บอลเขาไม่อยู่แล้ว ดังนั้น บางทีคนที่ดูเราอยู่ทางโทรทัศน์ หรือจากสื่อออนไลน์ต่าง ๆ นานา บางทีคุณไม่รู้พื้นเพที่มาที่ไปของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่ามันมีอะไร บางครั้งการที่คุณนำไปเปรียบเทียบกับคนอื่น

เช่น ที่ผ่านมาคุณอาจจะเจอคนนั้นคนนี้แล้วเห็นเจ้าบ่าวดีใจมากเลยที่ได้แต่งงานกับเจ้าสาว คือเขาดีใจมากอยู่แล้วที่ได้แต่งงานกับเรา อันนี้เป็นเรื่องปกติ ไม่งั้นเราจึงจัดงานแต่งงาน แต่ถ้าบางครั้งดูแล้วไม่เข้าใจ อย่างร้องไห้ งั้นรอดูอีก 3 เดือน อีก 3 ปี กลับมาดูใหม่ละกันว่าจะยังรักกันแบบนี้หรือเปล่า คือที่เรากับพี่บอลไม่ออกมาพูดอะไรเพราะเรารู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องที่เราต้องออกมาพูด บางครั้งมันเป็นเรื่องในครอบครัวเรา ทุกคนรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นก็จบ

1 รถเมล์ คะนึงนิจ 15

น้องชายเขาเสียนานหรือยัง ?

รถเมล์ : เพิ่งต้นปีที่แล้ว คือเขารู้อยู่แล้ว คือพี่บอลขอแต่งงานแล้วแหละ เพียงแต่ว่าเขาอยู่ไม่ถึงวันแต่งงานของเรา ไม่ได้อยู่ไม่ได้เห็นงานแต่งงานนี้ด้วยกัน มันเป็นเรื่องเซนซิทีฟในครอบครัว ดังนั้นไม่สนุกที่คุณจะเขียนอะไรโดยไม่รู้

แต่ก็มีโมเมนต์ดี ๆ ที่เจ้าบ่าวบอกว่าอีก 20 ปี ให้รถเมล์มาดูละกันว่ารถเมล์จะเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก ?

รถเมล์ : จริง ๆ คือแบบนี้ พี่บอลเองตอนที่เรารู้จักกันแรก ๆ เขาก็ไม่กล้าเข้ามาแล้ว เพราะเขารู้สึกว่ารถเมล์เป็นดารา และเขาก็เป็นแค่คนธรรมดา เขาจะมาจีบดาราเขาจะจีบติดเหรอ แล้วน้องชายเขาก็เป็นคนพูดกับเขาเสมอ ๆ ว่า เฮียทำได้ เฮียเชื่อผม คือเขามีคนคอยเป็นกำลังใจอยู่ข้างหลังว่าให้ลองดู เพราะมันไม่มีอะไรแน่นอน พี่บอลเลยรู้สึกว่าเวลาที่เขาอ่านคอมเมนต์ว่าคุณเป็นผู้ชายที่โชคดีมากเลยที่มีโอกาสแต่งงานกับรถเมล์ เขาก็รู้สึกว่าอยากให้คนที่คอมเมนต์กลับมาถามใหม่ว่าอีก 20 ปี รถเมล์ก็จะเป็นคนที่โชคดีมากเหมือนกัน มันก็แค่นั้นเอง

1 รถเมล์ คะนึงนิจ 7

เขาเป็นคนโรแมนติกไหม ?

รถเมล์ : เขาไม่ได้เป็นคนโรแมนติก เขาเป็นคนที่เวลาจะพูดอะไรเขาต้องคิด และอะไรที่เขาพูดเขาต้องทำให้ได้แบบนั้น

แต่งงานมา 3 เดือนกว่า ชีวิตหลังแต่งเป็นอย่างไร ?

รถเมล์ : ก็เปลี่ยนที่เปลี่ยนทางในการอยู่ เพราะรถเมล์ย้ายไปอยู่กับเขา ดังนั้นเวลาที่เราเปลี่ยนที่นอน อย่างเราไปทำงานต่างจังหวัดมันก็ไม่เหมือนกัน คือพอเปลี่ยนที่นอนและมีคนมานอนด้วยข้าง ๆ เราก็จะไม่ชินกับมุมกับเตียง ทุกวันนี้รถเมล์ก็เอาหมอนที่เรานอนที่บ้านไปบ้านเขาด้วย คือคุณแม่รถเมล์จะกังวลมาก คือเขารู้ว่าถ้าหมอนสูงไปหรือต่ำไปเราจะนอนไม่ได้ คุณแม่ก็เลยบอกให้รถเมล์เอาหมอนของตัวเองไป พี่บอลก็ไม่ว่า

ได้ยินมาว่า 2-3 วันไม่หลับไม่นอน ?

รถเมล์ : มันไม่ชิน พอมันนอนปุ๊บด้วยแสงด้วยอะไร คือรถเมล์จะเป็นคนที่ชอบนอนห้องมืด แต่พี่บอลจะไม่ชอบนอนห้องมืด คือเขามีเหตุผล เขาบอกว่าเวลาเช้าตื่นมาเราจะไม่ตื่น เพราะมันมืด มันก็จะไม่รู้วันเวลา

1 รถเมล์ คะนึงนิจ 11

เราค้นพบเมื่อไหร่ว่าเขาชอบละเมอ ?

รถเมล์ : คือเราละเมอก่อนถึงรู้ คือพี่บอลพูดบอกว่า ลงเลย ปากน้ำเลย เราก็สงสัยว่าปากน้ำคืออะไร คือบ้านรถเมล์ทำรถเมล์ แล้วสาย 25 จะเป็นปากน้ำ-ท่าช้าง ซึ่งวันแต่งงานที่เราจัดกัน หนูเอารถเมล์ไป แล้วในสมองเราคงจำว่าเป็นสายปากน้ำ เวลานอนก็เอาไปละเมอ อย่างตอนถ่ายละครก็เป็น เวลานอนก็จะพูดอะไรก็ไม่รู้ เขาก็บอกว่าไม่เคยมีคนที่มานอนด้วยแล้วอยู่ดี ๆ ละเมอขึ้นมา พอเช้าเขาก็เอามือมาจับหน้าผาก จับคอ แล้วถามเราว่าไม่สบายหรือเปล่ารถเมล์ เพราะเมื่อคืนเธอเพ้อ เหมือนเธอพูดอะไรก็ไม่รู้ แล้วก็เป็นแบบนี้ติดกัน 2 วัน พี่บอลเริ่มชิน แล้วตัวรถเมล์ก็เป็นคนหลับสนิทก็จะไม่ค่อยรู้เรื่อง จนมีอยู่คืนหนึ่งเราลุกไปเข้าห้องน้ำ เขาก็ละเมอพูดอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่รถเมล์ถ่ายคลิปไว้และก็ถ่ายรูปด้วย มันก็เป็นเรื่องขำ ๆ กัน ตอนนี้ก็ปรับตัว ลงตัวแล้ว

เราทำหน้าที่ศรีภรรยาทำอาหารให้สามีไหม ?

รถเมล์ : ก็ทำเหมือนกัน ทำหน้าที่โทร. ไปสั่งแล้วเราก็จัดแจงใส่จานเรียบร้อย รถเมล์เป็นสายเตรียม แต่เขาก็รู้ จริง ๆ แล้วรถเมล์เป็นคนทำอาหารได้ ทำขนมได้ แต่ใช้เวลาเตรียมนาน ดังนั้นถ้าทำอาหารเราต้องมีเวลาว่างแล้วทำ ส่วนพี่บอลก็ทำบ้าง เพราะตอนที่เขาไปเรียนเมืองนอกเขาก็จะทำอาหาร เขาก็จะทำได้

1 รถเมล์ คะนึงนิจ 4

เห็นว่าศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ จะไม่ค่อยรับงานเพื่อให้เวลากับสามี ?

รถเมล์ : ก็มีบ้าง คือเราทำเอง คือเขาอาจจะไม่ติดเราเท่าไหร่ แต่เรามีโมเมนต์ที่อยากจะอยู่ด้วย คือเขาทำงานจันทร์ถึงศุกร์ เขาเวิร์กฟอร์มโฮมอันนี้เรารู้ แต่เรารู้สึกว่า ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ควรจะมีวันใดวันหนึ่งที่เราควรจะมีโอกาสได้ไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยกัน คือส่วนใหญ่พี่บอลจะเป็นคนที่ชอบปลูกต้นไม้มาก ก็เลยทำให้เราติดมาด้วย คือถ้าเราว่างเราก็จะขับรถไปนครปฐมไปดูต้นไม้กัน แล้วก็ชอบไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ของแต่งบ้าน คือชีวิตที่เราทำกันอยู่ก็จะประมาณนี้

แล้วเวลาที่เราไปทำพิธีกรที่ต่างจังหวัดเขาไปไหม ?

รถเมล์ : ก็มีที่ไปด้วย ไม่งั้นจะไม่มีเวลาอยู่ด้วยกัน คือถ้าเราไปถ่ายงานเสาร์-อาทิตย์ แล้วพี่บอลหยุดงานเขาก็จะไปด้วย

ถ้าหมดโควิดอยากไปไหนกับบอล ?

รถเมล์ : แอฟริกาใต้ เพราะเป็นจุดหมายที่เราอยากไปด้วยกันอยู่แล้ว อยากไปตั้งแต่ยังไม่มีแพลนแต่งงาน แต่เป็นอีกหนึ่งจุดที่อยากไปดูสัตว์ คือรถเมล์เป็นคนชอบไปดูสัตว์ พี่บอลก็จะบอกว่า งั้นเราไปดูของจริงกันเลยดีกว่า คือมีอยู่วันหนึ่งรถเมล์เคยไปญี่ปุ่นแล้วเข้าไปในสวนสัตว์ แล้วไปเจอน้องเสือขาว แล้วเดินอยู่ในที่เดิม ๆ คือรถเมล์ดูอยู่ 10 นาที แล้วหันไปบอกเขาว่าหนูสงสารมัน คือความรู้สึกเรา รถเมล์จะชอบดูสัตว์ที่สวนสัตว์หรือไม่ก็ดูปลาที่อควาเรียม แต่พี่บอลจะไม่ชอบดูอะไรแบบนี้ เขาชอบดูของจริง คือถ้าอยากดูปลาก็ไปดำน้ำ คือเขาไม่อยากให้สัตว์ไปอยู่ในที่ที่ไม่ใช่ที่ของเขา ถ้าอยากไปก็พุ่งไปเลยที่แอฟริกาจะพาไป รถเมล์ไม่เคยไป แต่เขาไปมาแล้ว

1 รถเมล์ คะนึงนิจ 6

มีแพลนมีลูกไหม ?

รถเมล์ : มี เพราะว่าเรารู้ว่าในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นคุณแม่พี่บอล หรือคุณแม่รถเมล์ เขาก็คงอยากมีหลาน เพราะว่าที่บ้านยังไม่มีใครมีหลาน คือถ้ามีหลานเขาก็น่าจะกระชุ่มกระชวยหัวใจ เรื่องลูก รถเมล์ว่าพี่บอลเฉย ๆ เขาไม่ได้ซีเรียส แต่ถ้าจะมีต้องแพลนชัดเจนนิดหนึ่ง ซึ่งอาจจะไม่ใช่เร็ว ๆ นี้ คือเราก็ต้องแพลนเรื่องงานด้วย แต่ถ้าวันหนึ่งเราท้องขึ้นมาก็ไม่เป็นไร เราก็แฮปปี้ เราก็มีความสุขดี ใจเราพร้อมอยู่แล้ว ที่แพลนไว้ก็น่าจะมีสัก 2 คน แต่แม่รถเมล์อยากให้มีลูกปีขาล

ถ้ามีจะเลือกวิธีไหน ?

รถเมล์ : คือเราอยากมีแบบธรรมชาติก่อน แต่ถ้าไม่มีค่อยว่ากัน คือจริง ๆ สมัยนี้พอแต่งงานแล้วมีเบบี๋มันมีปัจจัยมากมาย การปรึกษาคุณหมอก่อนมันไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะรถเมล์กับพี่บอลปรึกษาหมอไม่ใช่เรื่องแปลก คือเราก็ต้องเช็กเพื่อความพร้อม ตอนนี้เราก็เช็กหมดแล้ว ก็ไม่มีปัญหาอะไรทั้ง 2 คน

เห็นว่าตอนจีบกันก็ต้องมีคนไปเป็นเพื่อน ?

รถเมล์ : ใช่ อย่างรถเมล์ก็จะมีเพื่อนไปด้วย ญาติพี่น้องไปด้วย ส่วนพี่บอลก็มีน้องไปด้วย มีเพื่อนไปด้วย เพราะเพื่อนเราก็รู้จักกับพี่บอล รู้จักกับน้องพี่บอลอยู่แล้ว เขาเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน ที่แรกก็ไปทานอาหารที่พารากอนกันปกติ กินข้าวเสร็จแล้วแยกย้าย

1 รถเมล์ คะนึงนิจ 20

ตอนเห็นครั้งแรกรู้ไหมว่าเขาจะจีบ ?

รถเมล์ : รู้ เพราะเพื่อนบอกชัดเจนว่าให้เจอกัน แต่ไม่รู้ว่าพี่บอลจะเป็นคาแรกเตอร์เข้าหาเลเวลไหน พอได้เจอกันก็ทำให้เรารู้สึกว่าพี่บอลเป็นคนนิ่ง ๆ ถ้าไม่รู้จักกัน แต่เผอิญว่าน้องพี่บอลเป็นคนคุยเก่งและคุยสนุก มันก็เลยทำให้การกินข้าววันนั้นดูสนุก เพราะเขาก็จะคุยเล่นมุกหยอดไปมา ส่วนโปรไฟล์รถเมล์ไม่ต้องเช็กเลยเพื่อนเช็กให้หมด

เพื่อนว่าอย่างไร ?

รถเมล์ : พี่บอลชอบแซวว่านึกว่าพี่ไปสอบโทเฟล คือเพื่อนรถเมล์ไปกัน 3 คน แล้วไปนั่งคุยกับพี่บอลก่อน ก็ถามหมดเลยว่าพี่บอลทำอะไร เป็นอย่างไร ผู้หญิงสเปกเป็นอย่างไร คือเพื่อนเช็กให้หมด ทุกอย่าง แล้วเพื่อนบอกว่า ฉันว่าคนนี้แหละที่เหมาะกับเธอ นี่คือเหตุผลของเพื่อน เพราะเพื่อนจะรู้จักนิสัย และเราก็สุขทุกข์มาด้วยกัน เขาจะรู้ว่าเราชอบแบบไหน คือชีวิตประจำวันใกล้เคียงกันน่าจะไปด้วยกันได้ เขาเลยแนะนำให้รู้จักกัน

เขาจีบอย่างไร ?

รถเมล์ : ก็คุยกันไปเรื่อย ๆ ส่งข้อความมาหา แต่ไม่ค่อยจะมีโทรศัพท์มาเท่าไหร่ แรก ๆ เขาจะมีความเกร็ง

1 รถเมล์ คะนึงนิจ 5

ก่อนจะเจอบอล โสดหลายปีไหม ?

รถเมล์ : ก็นาน เพราะมันเป็นช่วงชีวิตที่มีคนผ่านเข้ามาแต่มันทำไมไม่ใช่สักที คือมีอยู่ช่วงหนึ่งที่รู้สึกว่าชีวิตฉันยังไม่รู้ว่าจะเจออะไร เราก็ต้องมีความตั้งหลักนิดหนึ่ง ก็ใช้ชีวิตตัวเองไป มีออกกำลังกาย และก็ทำงาน แต่มีช่วงหนึ่งที่ออกกำลังกายหนักมาก ที่ผ่านมาก็มีคนมาจีบตลอด แต่ส่วนใหญ่เป็นคนนอกวงการ ไม่เคยมีคนในวงการมาจีบรถเมล์

คุยกันนานขนาดไหนกว่าจะตกลงเป็นแฟนกัน ?

รถเมล์ : หลายเดือนอยู่ น่าจะมี 4-5 เดือน คือหลังจากนั้น 2 เดือนแล้วก็จะมีไปกินข้าวกัน แต่ก็จะเป็นกินข้าวชิล ๆ ที่ไม่จำเป็นว่าจะต้องนั่งนาน ๆ คือมันเขิน

ในความรักครั้งนี้ใครเป็นผู้นำ ?

รถเมล์ : ก็ผลัดกัน แต่พี่บอลจะค่อนข้างมีแนวคิดต่างจากรถเมล์บ้าง คือเวลาทำงานเขาจะเป๊ะอยู่แล้ว อย่างเวลาทำธุรกิจพี่บอลก็จะมีสเต็ปว่าต้องทำอย่างไร แต่สำหรับรถเมล์เองจะเป็นสายลองผิดลองถูก เราก็จะได้พี่บอลมาเป็นคนสอนในเรื่องนี้

1 รถเมล์ คะนึงนิจ 17

เหตุผลอะไรที่ทำให้เป็นแฟน ?

รถเมล์ : คือเขาขอชัดเจนว่าเป็นแฟนกันนะ แล้วตลอดระยะเวลาที่คุยกันมาหลายเดือนรถเมล์ก็รู้สึกว่ารถเมล์สบายใจ ดูเป็นตัวของตัวเอง ไม่เป็นปัญหา แล้วก็แฮปปี้ดี พอเขาขอเป็นแฟน เราก็ตอบว่า อืม แค่นั้น

นานไหมกว่าจะพาไปหาครอบครัว ?

รถเมล์ : ครอบครัวรู้ตั้งแต่แรก จริง ๆ คุณแม่เป็นคนหนึ่งที่เวลาเรามีเรื่องอะไรเราจะเล่าให้เขาฟัง นี่จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการที่จะรู้จักใคร ตอนที่บอกคุณแม่ คุณแม่ก็จะรู้เลยว่าเพื่อนแนะนำให้ ตั้งแต่ต้น ถามว่าเขาโอเคไหม คือคุณแม่จะดูจากสิ่งที่รถเมล์เป็นมากกว่า ว่าวันนี้ลูกดูมีความสุขหรือเปล่า ถ้าลูกมีความสุข แสดงว่าผู้ชายคนนี้โอเค ส่วนฝั่งนั้นเขาก็พารถเมล์ไปเจอคุณพ่อคุณแม่เขา แต่จำไม่ได้ว่านานแค่ไหนถึงไปเจอ เพราะว่าบ้านพี่บอลเป็นครอบครัวใหญ่ อยู่กันเยอะ และเป็นครอบครัวคนจีน พี่น้องคุณแม่เยอะ ซึ่งรถเมล์โชคดีที่มีโอกาสไปเจอครอบครัวพี่บอล ซึ่งเขาน่ารักมาก เขาให้การต้อนรับเป็นอย่างดี

มีทริปวัดใจพา 2 ครอบครัวไปเจอกัน ?

รถเมล์ : คือครอบครัวของเรา 2 คนไม่เคยเจอกันมาก่อน ตอนนั้นรถเมล์ต้องไปทำงาน ไปถ่ายรายการต่างจังหวัด รู้สึกว่าจะเป็นที่ภูเก็ต เราก็ปรึกษาพี่บอลว่าอยากให้มาเจอกัน รถเมล์ก็เลยชวนคุณแม่และน้องสาวคุณแม่ไป ส่วนพี่บอลก็ชวนคุณแม่และน้องสาวคุณแม่พี่บอลไป ก็ไปเที่ยว ตอนที่คุณแม่เจอกันก็ไม่มีอะไร ก็ทักทายกัน โชคดีที่คุณแม่พี่บอลจะเข้ากับคนง่าย ส่วนคุณแม่ของรถเมล์ พอมีน้องสาวไปด้วยมันก็เลยสบาย ๆ เวลาไปเที่ยวแม่จะแฮปปี้มาก เขาก็คุยกัน เท่าที่สังเกตเวลาไปเที่ยวเขาก็จะเที่ยวคล้าย ๆ กัน เขาก็เลยมีความสุขกับการไปเที่ยว เราก็เลยไม่กังวล ทุกอย่างก็ราบรื่น

1 รถเมล์ คะนึงนิจ 3

คบกันมาตั้งนานทำไมไม่เคยโพสต์ภาพคู่ ?

รถเมล์ : รถเมล์แค่รู้สึกว่าเราควรมีความมั่นใจ เราควรชัวร์แล้วค่อยลง สอง คือต้องดูด้วยว่าคนที่เรารู้จักนั้นเขาไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง ดังนั้นจะเอารูปเขาไปลงจะทำให้ชีวิตเขายากขึ้นหรือเปล่า คือเราชิน เพราะเราอยู่ในวงการบันเทิงเราก็แฮปปี้ แต่เขาทำงาน อยู่ดี ๆ มีหน้าเขาอยู่ในสื่อโซเชียลจะมีคนมองเขาไหม ดังนั้นเราต้องให้เกียรติส่วนนี้กับเขาก่อน

ทำไมรู้สึกว่ารถเมล์ระวังตัวในเรื่องความรัก ?

รถเมล์ : ระวังทุกเรื่องไม่ใช่แค่เรื่องความรัก รถเมล์เคยเสียใจกับความรักมาก่อน มากไหม ก็ประมาณหนึ่ง ก็เป็นแผลปกติ แต่เราจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรมากกว่า คือตั้งแต่เด็กความรักก็จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ มุมมองความรักก็จะเปลี่ยน พออายุเยอะขึ้นความรักก็อาจจะไม่ต้องมีอะไรมาก ในขณะที่แต่ก่อนเราจะมีสเปกทุกอย่าง พอโตขึ้นความคิดก็จะเปลี่ยนว่ามันไม่จำเป็นเลย สุดท้ายเราก็จะมีความสุข

ติดตามรับชมย้อนหลังได้ที่ YouTube Channel : Orange Mama

อ่านข่าวเพิ่มเติม

 

Avatar photo