ราคาทองคำ ร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือน หลังจากผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐขยับขึ้นและเงินดอลลาร์แข็งค่า จับตาหลุด 1,650 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงต่ออีกยาว
ราคาทองคำในนิวยอร์กร่วงลงหลักเมื่อคืนที่ผานมา โดยทองคำตลาดล่วงหน้า(COMEX) ร่วงลง 20.5 ดอลลาร์ หรือ 1.21% ปิดที่ 1,678 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากปัจจัยเดิม คือ อัตราอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ อายุ 10 ปี ที่พุ่งขึ้นเหลือ 1.6% อีกครั้ง และค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
ทองคำในตลาดสปอต ร่วงลง 1.1% อยู่ที่ 1,681.41 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากดิ่งลงต่ำสุดที่ 1,676.10 ดอลลาร์/ออนซ์ นับเป็นจุดต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2563 ขณะที่ทองคำ COMEX ร่วงแตะ 1,676.10 ดอลลาร์ ลดลง 1.2% ปิดที่ 1,678 ดอลลาร์/ออนซ์ ต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2563
เทรเดอร์กล่าวว่าตลาดทองคำกำลังเผชิญกับแรงกดดัน จากทิศทางเศรษฐกิจฟื้นตัวและเงินเฟ้อสูงขึ้น โดยเฉพาะจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ที่กำลังจะออกมา แต่ก็จะทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร อายุ 10 ปีปรับตัวสูงขึ้นด้วย
“ในระยะสั้น ๆ ราคาทองคำน่าจะซื้อขายที่ระดับ 1,650-1,700 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่หากเคลื่อนลงต่ำกว่า 1,650 ดอลลาร์ จะทำให้มีแรงเทขายออกมามากขึ้น แนวโน้มจะลงต่อ”
แนวโน้มขาลงสะท้อนได้จากการถือครอง SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุนทองคำใหญ่สุดของโลก ทำให้ราคาร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
อ่านข่าวเพิ่มเติม:
- จับตาทิศทางราคาทองคำ “ร่วง หรือ รุ่ง”? หลังกองทุน ETF ทั่วโลกเริ่มเทขายหนัก
- ทำไมทองคำร่วงหนัก เมื่อผลตอบแทนพันธบัตรขึ้น จะมีโอกาสฟื้นไหม?
- ‘วายแอลจี’ สั่งจับตาราคาทอง! เตือนหากหลุด 1,700 ดอลลาร์เสี่ยงปรับฐาน
