ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (4 มี.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยนักลงทุนรอฟังถ้อยแถลง ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เกี่ยวกับผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ที่ทะยานสูงขึ้น ขณะข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่า การฟื้นตัวในตลาดแรงงาน ยังไม่สดใสมากนัก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 31,285.26 จุด ปรับขึ้น 15.17 จุด หรือ 0.05% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,820.91 จุด เพิ่มขึ้น 1.19 จุด หรือ 0.03% และดัชนีแนสแด็กที่ 12,954.15 จุด ลดลง 43.60 จุด หรือ 0.34%
ตลาดจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ เพื่อดูท่าทีของเขา ที่มีต่อผลตอบแทนพันธบัตรที่กำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึง ภาวะตลาดแรงงานสหรัฐ ก่อนที่เฟดจะประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 16-17 มีนาคมนี้
ก่อนหน้านี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่ที่ระดับ 745,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 750,000 ราย ทั้งยังได้ปรับเพิ่มตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ สู่ระดับ 736,000 ราย จากเดิมรายงานที่ระดับ 730,000 ราย
ส่วนจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องลดลง 124,000 ราย แตะระดับ 4.3 ล้านราย สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในวันพรุ่งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 210,000 ตำแหน่งในเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 49,000 ตำแหน่งในเดือนมกราคม
ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังคงดีดตัวขึ้นในวันนี้
การซื้อขายในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทได้แรงหนุนจากความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในสหรัฐ หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนเปิดเผยว่า ชาวอเมริกันที่เป็นผู้ใหญ่จะได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทุกคนภายในสิ้นเดือนพ.ค. ซึ่งเร็วกว่ากำหนดถึง 2 เดือน โดยการฉีดวัคซีนในวงกว้างจะช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวขึ้น
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงจับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ โดยสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติให้ความเห็นชอบต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของวุฒิสภา ก่อนที่จะส่งให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนลงนามรับรองเป็นกฎหมาย
นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ คาดว่า กระบวนการอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะเสร็จสิ้นก่อนวันที่ 15 มี.ค. ซึ่งเป็นวันที่มาตรการช่วยเหลือผู้ว่างงานที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จะหมดอายุลง