Entertainment

ลงตัวที่คนละครึ่ง! ซาร่า เปิดใจน้ำตาคลอ ชี้แจงหลังไกล่เกลี่ย ไมค์ จบปมสิทธิ์เลี้ยงดูลูก

ได้ข้อสรุปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่นักร้อง-นักแสดงหนุ่มชื่อดัง ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล และ ซาร่า คาซิงกินี ได้มีการนัดไกล่เกลี่ยกันอีกครั้งที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางในวันนี้ (4 มี.ค.) จนกระทั่งได้ข้อยุติลงตัว หนุ่มไมค์ ได้สิทธิความเป็นพ่อโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว

โดยทาง ทนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช ทนายความของ ซาร่า ได้เปิดเผยว่า ทางซาร่าตกลงให้ ไมค์ เป็นบิดาโดยชอบด้วยกฏหมาย และ ซาร่า ขอเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว ก็คือสามารถกำหนดถิ่นที่อยู่ กำหนดสถานที่ศึกษา และกำหนดเรื่องอื่น ๆ เกี่ยวกับชีวิตของลูก และสามารถที่จะเป็นตัวแทนลูกได้โดยลำพัง ส่วนเรื่องของค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร ซาร่า เป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด โดนไมค์ไม่ต้องจ่ายนับจากวันนี้

ซาร่า8 1

ส่วนเรื่องค่าเทอมจะเป็นการรับผิดชอบร่วมกันคนละครึ่ง จนถึงชั้น ป.6 พอขึ้น ม.1 จะให้ ไมค์ และลูกปรึกษากันเรื่องของการเลือกสถานศึกษา โดนไมค์จะรับผิดชอบเรื่องค่าเรียนต่อจนจบในระดับปริญญาตรี รวมถึงรับผิดชอบในเรื่องของค่าเจ็บป่วยของลูกในส่วนของค่ารักษาพยาบาล ค่าประกันชีวิต โดย ไมค์ มีสิทธิ์ในการเจอลูกได้เดือนละ 2 ครั้ง แต่ต้องแจ้งล่วงหน้าเป็นเวลาประมาณ 5 วัน และต้องได้รับการยินยอมจากลูกด้วย

ในขณะที่ ซาร่า ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า จริง ๆ แล้วเป็นเรื่องของลูก ไม่ใช่การสรุปว่าใครแพ้หรือชนะ อยู่ที่ว่า ทั้งสองคนพร้อมที่จะรับผิดชอบลูก พร้อมที่จะดูแลลูก ให้ความรักกับลูกเท่าไหนกัน แค่นั้นมากกว่า ตนยอมรับว่าค่อนข้างเครียด เพราะเรื่องตรงนี้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์และกระทบกับลูก ก็รู้สึกไม่แฮปปี้ แต่วันนี้ก็ดี ถือว่าจบลงด้วยดี คือทุกอย่างมีการลงลายลักษณ์อักษรแล้ว

batch 141484214 454735552217087 1918110317486754437 n

หลังจากนี้ถ้าไมค์อยากมาพบลูกก็สามารถแจงกับทางตนได้เลย เป็นเรื่องที่ต้องคุยกันเอง เพราะคดีจบลงในวันนี้แล้ว ส่วนบรรยากาศไม่เป็นเหมือนเดิมอยู่แล้ว อย่างที่ทุกคนเห็นว่าปัญหามีมาตั้งนานแล้ว ก็หวังว่าทุกอย่างจะกลับมาดีขึ้น แต่ ณ วันนี้ก็ไม่ได้เหมือนเดิม จากนี้หาก ไมค์ จะพาลูกไปรับงาน ตนก็ไม่ได้ติด และไม่อยากให้ทุกคนยึดติดถึงเรื่องเก่า เพราะเป็นเรื่องที่ทนายต้องร่างขึ้นมาเพื่อประโยชน์สูงสุดของเด็ก ไม่ได้เกี่ยวกับตน ไม่ว่าจะเป็น 6 ข้อเรียกร้อง ทุกอย่างคือไกล่เกลี่ยปรับเปลี่ยนได้ตลอด

ยืนยันการกีดกัดไม่เคยเกิดขึ้น แม้ฝั่งนู้นจะพูดว่ามีการกีดกัน ซึ่งตนก็อยากขอหลักฐาน เพราะไม่มีทางเป็นไปได้ เนื่องจากโซเชียลของอีกฝ่ายและคนรอบข้าง ทั้งคุณลุง คุณพ่อ ก็ยังมีรูป มีการลงว่าได้เจอตลอด แต่ถ้าโควิดไม่ได้เจอลูก หรือตอนที่ตนท้องอยู่ คือโควิดมันปิด ประเทศมันปิด แล้วเจอลูกไม่ได้ มันเป็นสถานการณ์ของบ้านเมือง ไม่ใช่ความผิดตน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าจะเห็นอกเห็นใจกัน ณ โมเมนท์ที่ตอนนั้นตนกำลังท้องอยู่ด้วย คือไม่ได้กีดกีดแต่แค่ไม่ว่าง เพราะติดโควิด ลูกรู้อยู่แล้วว่าใครคือพ่อ ตนจะไปทำร้ายความรู้สึกลูกเพื่ออะไร การที่พ่อและแม่ทะเลาะกันไม่ใช่เรื่องที่จะไปใส่ลูก และจะห้ามไม่ให้พ่อลูกเจอกันเพื่ออะไร มันเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้วที่พ่อลูกรักกัน

batch 139578705 234351641490184 9198990696939855201 n

หลังจากนี้หากลูกโตขึ้นก็ต้องพูดตามความจริง เชื่อว่าลูกอยู่กับตนมาตลอด คงไม่ตัดสินแบบที่ข่าวเขียน เพราะความจริงในบ้านคือไม่ได้เป็นแบบนั้น ในฐานะของความรักเราไม่ประสบผลสำเร็จในชีวิต (น้ำตาคลอ) แต่ในมุมความเป็นแม่ตนเชื่อล้านเปอร์เซ็นต์ว่าตนไม่ได้เป็นแม่ที่เลวร้ายเหมือนที่ข่าวเขียน ตนไม่ใช่แม่ที่เอาลูกเป็นตัวประกัน รีดไถ ตั้งแง่ หรือกีดกัน ล้านเปอร์เซ็นต์ตนไม่ใช่แม่แบบนั้น ตนเชื่อว่าลูกรู้ว่าตนรักลูกมาก และอยากให้ลูกรักพ่อมากเหมือนที่เขารักแม่ ดังนั้นตนเชื่อมั่นว่าลูกจะต้องรู้ว่าที่ตนทำตรงนี้ ตนทำทุกอย่างเพื่อลูกจริง ๆ

ยอมรับที่ผ่านมารู้สึกเหนื่อย เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นตอนที่ตั้งท้อง ภาวะคนท้อง คลอดลูกแปปเดียวก็มีข่าวต่าง ๆ นานา และหลังจากนี้ภาระที่ต้องแบกค่าใช่จ่ายที่ค่อนข้างหนักหนา และด้วยข่าวที่ออกไปก็มีผลกระทบกับหน้าที่การงาน ตนมองว่าหลังจากนี้สิ่งที่ต้องรับผิดชอบนั้นค่อนข้างเยอะ ตนจะต้องขยัน อดทน เหมือนจะต้องมีเวลามากกว่านี้ ทั้งที่จะต้องอุปการะลูกของเรา และทั้งที่เลี้ยงดูอะไรต่าง ๆ นานา จึงอยากจะขอโอกาสให้ทุกคนเปิดใจ และเข้าใจตนมากกว่านี้

13 %E0%B8%8B%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%B2 9

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo