Politics

แห้วอีกรอบ!! ‘เพนกวิน’ นอนคุกต่อ ศาลยกคำร้องประกันตัว

แห้วอีกรอบ!! “เพนกวิน” นอนคุกต่อ ศาลยกคำร้องประกันตัว หลังแม่เตรียมหลักทรัพย์จำนวน 1 ล้านบาทขอประกัน แจงใกล้สอบ – เจ็บป่วย

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นางสุรีรัตน์ ชิวารักษ์ มารดาของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน ผู้ต้องหาคดีหมิ่นเบื้องสูง และร่วมกันชุมนุม เดินทางมายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวนายพริษฐ์ ที่ไม่ได้รับการประกันตัวคดีชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร และคดีชุมนุมม็อบเฟสต์ โดยเตรียมหลักทรัพย์จำนวน 1 ล้านบาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ที่ก่อตั้งโดยนายอานนท์ นำภา มายื่นคำร้องต่อศาลประกันตัวแบ่งเป็น 2 คดี คดีละ 500,000 บาท

เพนกวิน 43641

ต่อมาศาลอาญา มีคำสั่งขอประกันตัวของนายพริษฐ์โดย พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้ผู้ร้อง เคยยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว และศาลนี้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ผู้ร้องอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์ก็มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวเช่นกัน โดยให้เหตุผลเกรงว่า จำเลยจะไปก่อเหตุร้ายอีก หลังจากนั้นผู้ร้องได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว และอุทธรณ์คำสั่งขอปล่อยชั่วคราวอีกหลายครั้งต่อศาล เห็นว่า การที่ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว และได้ให้เหตุผลไว้แล้วศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลชั้นต้นย่อมเป็นการยุติว่า คำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ของศาลชั้นต้นนั้นถูกต้องแล้ว 

แม้กฎหมายจะอนุญาตให้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวใหม่ได้ แต่การยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวใหม่ เพื่อจะมีผลให้ศาลเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมได้นั้น ต้องปรากฏว่า เป็นกรณีที่มีพฤติการณ์แห่งคดีได้เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าในเหตุลักษณะคดี เช่น มีการรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว ปรากฎพยานหลักฐานเพิ่มเติมตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญามาตรา 108 อนุสอง หรือมีพฤติการณ์เกี่ยวกับจำเลยอันแสดงว่า จำเลยนั้นจะไม่หลบหนี หรือไม่สามารถไปก่อเหตุร้ายอื่นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น หากไม่มีข้อเท็จจริงในทางคดีที่เปลี่ยนแปลงไป ย่อมไม่มีเหตุที่ศาลจะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเป็นอย่างอื่น

ทั้งนี้ ศาลหาจำต้องระบุเหตุผลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 108/1 ใหม่ไม่เพราะเท่ากับจะเป็นการคัดลอกข้อความที่ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ได้เคยมีคำสั่งไว้แล้ว ยิ่งเมื่อศาลนี้ ได้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว และศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามต่อเนื่องกันมาหลายครั้ง หากศาลจะมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งโดยไม่มีเหตุย่อมเป็นการวินิจฉัยคดีตามอำเภอใจย่อมไม่เป็นแนวทางที่ชอบด้วยกฎหมาย

ส่วนที่ผู้ร้องอ้างว่า นายพริษฐ์ จำเลยที่ 1 อาจเจ็บป่วย เพราะมีโรคประจำตัวนั้น ขณะนี้ยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1 มีอาการเจ็บป่วยจริง จนถึงขนาดไม่สามารถรักษาพยาบาลภายในเรือนจำได้ ส่วนที่จำเลยที่ 1 เป็นนักศึกษานั้น มีเพียงเหตุผลให้คาดคะเนได้ว่า จะไม่สะดวกในการศึกษาเล่าเรียนเท่านั้น ยังไม่มีข้อเท็จจริงชัดเจนว่า จะกระทบต่อการเรียนของจำเลยที่ 1 อย่างชัดเจนร้ายแรงอย่างไร

สำหรับการดูแลครอบครัว และการประกอบอาชีพของจำเลยอื่น ก็เป็นเหตุความขัดข้องทั่วไปของบุคคล ซึ่งต้องคดียังไม่มีข้อเท็จจริงที่เป็นรูปธรรมว่า จำเลยทั้งหมดได้รับความเสียหายเป็นพิเศษ จนถึงขนาดที่จะมีผลเพราะให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมที่ศาลเคยสั่งไว้โดยชอบแล้ว ยกคำร้อง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo