Business

3 ชาติทุ่มงบฟื้น 5 ‘ตึกร้าง’

“ตึกร้าง”จากวิกฤติปี40 ทยอยฟื้นชีพ ได้กลุ่มทุนทั้งในและต่างประเทศ จีน สิงคโปร์ ไต้หวัน และทุนไทยทีเอฟดี แสนสิริ เข้าซื้อซากอาคารร้างมาพัฒนาใหม่ The bangkok insight ย้อนรอยการฟื้นชีพ 5 โครงการร้าง ทำเล สุขุมวิท 27 บางนา-ตราด กม.2 คลองเตย ถ.ศรีอยุธยาและถ.เทียมร่วมมิตร

การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน นอกจากการซื้อที่ดินเพื่อนำมาพัฒนาใหม่แล้ว โครงการก่อสร้างค้าง ที่เคยเป็นอาคารร้างมานานกว่า 20 ปี ปัจจุบันได้รับการเทคโอเวอร์ เพื่อนำมาพัฒนาใหม่หลายโครงการ ทยอยพลิกฟื้นการลงทุนตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันมีอาคารร้างจำนวนหนึ่งได้รับการฟื้นฟูจากนักลงทุนรายใหม่ทั้งกลุ่มทุนไทย และทุนต่างประเทศเข้ามาพัฒนา ซึ่งส่วนใหญ่ใช้โครงสร้างเดิมของอาคารในการนำมาพัฒนาใหม่

ภาพตึกร้างปากซอยสุขุมวิท 27
ตึกร้างบริเวณปากซอยสุขุมวิท 27

สิงคโปร์ฟื้นโรงแรมร้างสุขุมวิท27 เป็น “คาร์ลตัน โฮเทล”

ข้อมูลล่าสุดจากนายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้จัดการอาวุโสแผนกวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งลงพื้นที่เก็บข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของอาคารร้าง จากกลุ่มทุนใหม่ระบุว่า มีหลายโครงการลงทุนที่น่าสนใจ เริ่มจากโครงการแรก อาคารร้างบริเวณ หัวมุมถนนสุขุมวิท ปากซอยสุขุมวิท 27  เป็นโครงการโรงแรมที่หยุดการก่อสร้างลง ล่าสุดได้กลุ่มทุนจากต่างประเทศ คือ กลุ่มคาร์ลตัน โฮเทล จากสิงคโปร์เข้าซื้อ ด้วยมูลค่า 2,500 ล้านบาท เป็นราคาซื้อขาย 2,400 ล้านบาท และค่าภาษีอีก 100 ล้านบาท โดยการซื้อขายดังกล่าวได้ตกลงกันในช่วงครึ่งแรกของปี 2560

โครงการโรงแรมสร้างค้างแห่งนี้ ตั้งอยู่หัวมุมถนนสุขุมวิท บริเวณปากซอยสุขุมวิท 27 ประกอบด้วยที่ดิน 2 ไร่ 2 งาน 34.3 ตารางวา และอาคารโรงแรมความสูง 34 ชั้นที่ยังสร้างไม่เสร็จ เจ้าของเดิม คือ บริษัท กรุงเทพบริหาร จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) โดยโรงแรมดังกล่าวมีห้องพัก 342 ห้อง จะได้รับการพัฒนาโดยก่อสร้างต่อจนแล้วเสร็จในปี 2562 ตามแผนลงทุนใหม่ และคาดว่าจะใช้ชื่อ “คาร์ลตัน โฮเทล”

ภาพตึกร้างย่านบางนา กม.2
ตึกร้างริมถนนบางนา-ตราด กม.2

ทุนจีนฟื้นตึกร้างบางนา-ตราดกม.2ผุด“ไทย-ไชน่าทาวเวอร์”

อีกโครงการ คืออาคารไทยฟา กรุ๊ป บนถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) เป็นอาคารที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 2540 เป็นอาคารสูง 32 ชั้น ริมถนนบางนา-ตราด กม.2 เจ้าของเดิมคือบริษัท ไทยฟา กรุ๊ป จำกัด ซึ่งในขณะนั้นมีแผนก่อสร้างเป็นอาคารสำนักงานสูง 32 ชั้น งานก่อสร้างโครงสร้างและพื้นไปจนถึงชั้น 32 แล้ว เหลือเพียงปิดผนังอาคาร และตกแต่งภายใน ก็จะแล้วเสร็จ

ปัจจุบัน อาคารนี้ได้ถูกขายให้กับกลุ่มทุนจากประเทศจีน คือ บริษัท ไท่ฮั่งไท่ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งมีแผนจะพัฒนาโครงการต่อจนแล้วเสร็จ โดยจะสร้างเป็นอาคารสำนักงานสูง 26 ชั้น กำหนดแล้วเสร็จช่วงปลายปี 2561 และเปลี่ยนชื่อใหม่ เป็นอาคาร “ไทย – ไชน่า ทาวเวอร์” พื้นที่อาคาร 18,600 ตารางเมตร คาดว่าจะใช้รองรับกลุ่มบริษัทของชาวจีน ที่มีโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมย่านบางนา-ตราด หรือในนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก

THE HARBOUR VIEW RESIDENCES ภาพปัจจุบัน
ตึกร้างย่านคลองเตยได้รับการพัฒนาใหม่

ทีเอฟดีฟื้นตึกร้างคลองเตยขึ้น“เดอะ ฮาเบอร์ วิว เรสสิเดนซ์”

โครงการต่อมา คืออาคารร้างที่เป็นตึกแฝดสองอาคาร ในทำเลย่านคลองเตย ได้รับการเทคโอเวอร์จากกลุ่มทุนใหม่ คือ บริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือทีเอฟดี เข้าประมูลซื้อโครงการอาคารร้าง ที่เดิมจะพัฒนาเป็นโครงการริเวอร์วิว เรสซิเด้นท์ มูลค่า 367 ล้านบาท โดยซื้อมาตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ 2558

โครงการนี้ตั้งอยู่บริเวณ ถนน ณ ระนอง เขตคลองเตย ก่อสร้างเป็น 2 อาคาร ความสูง 25 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 2.7 หมื่นตารางเมตร และพื้นที่จอดรถ 1.18 หมื่น ตารางเมตร  เป็นทรัพย์สินที่สร้างค้างมาตั้งแต่ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 เช่นกัน โดยทีเอฟดี ได้นำมาพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียม “เดอะ ฮาร์เบอร์ เรสซิเดนซ์” มูลค่า 1,800 ล้านบาท

HARBOUR VIEW RESIDENCES2
ฮาเบอร์วิว เรสซิเดนซ์

ทุนไต้หวันซื้อยกตึกฮาเบอร์วิวจ่าย 1.6 พันล้านบาท

หลังจากเข้่าเทคโอเวอร์แล้ว แต่ยังไม่ทันเปิดขายเป็นการทั่วไป โครงการนี้ก็สามารถขายยกตึกให้กับ บริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์จากไต้หวันชื่อ บริษัท บลู โอเชี่ยน เรียลเอสเตท จำกัด ในมูลค่า 1,640 ล้านบาท ซึ่งบลู โอเชี่ยนได้นำไปเปิดขายต่อให้แก่ลูกค้าไต้หวัน

โครงการนี้มีกำหนดพัฒนาแล้วเสร็จในปี 2560 หลังจากซื้ออาคารมาแล้ว ยังต้องใช้เงินพัฒนาโครงการอีก 735 ล้านบาท โดยผู้ขายได้วางมัดจำจำนวน 5 ล้านบาทในงวดแรกแล้วเมื่อวันที่ 28 มกราคม และจ่ายงวดที่สอง  77 ล้านบาทในวันที่ 31 มีนาคม 2559 หลังจากนั้นจะทยอยจ่ายอีก 3 งวด ก่อนจะชำระงวดสุดท้าย 697 ล้านบาท ในวันที่ 30 มิถุนายน 2561

sunshine ratchada
ตึกร้างซันไชน์ ทาวเวอร์ถ.เทียมร่วมมิตร

ทุนใหม่ฟื้นซันไชน์ขึ้น“อาร์ติซาน รัชดาฯ”

โครงการร้างอีกแห่งที่ได้รับการลงทุนพัฒนาใหม่ คือ โครงการ ซันไชน์ ทาวเวอร์ (Sunshine Tower) ซึ่งปัจจุบันยังเป็นตึกร้างอยู่แถวถนนประชาอุทิศเหม่งจ๋าย ล่าสุดได้มีผู้เข้ามาลงทุน โดยอยู่ระหว่างการก่อสร้างเป็น โครงการ อาร์ติซาน รัชดาฯ (Artisan Ratchada Condo) โดยเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2560 บริษัท คราวน์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเอฟดี ได้ลงนามในสัญญาร่วมทุน เพื่อจัดตั้ง บริษัท บีจีวาย แอนด์ ทีเอฟดี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด

โดยคราวน์ ดีเวลลอปเม้นท์ฯ ถือหุ้นในสัดส่วน 51% และ บริษัท บิวตี้ ฮอนเนอร์ เอ็นเตอร์ไพร์ช ลิมิเต็ด จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่อยู่ในกลุ่มบริษัท ไรส์แลนด์ จำกัด  ถือหุ้นในสัดส่วน 49%  โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อร่วมลงทุนใน โครงการคอนโดมิเนียมและเรสซิเด้นซ์ระดับพรีเมี่ยม เป็นอาคารพักอาศัยสูง 34 ชั้น จำนวน 4 อาคาร รวมทั้งสิ้น 1,337 ยูนิต มูลค่าโครงการ 6,800 ล้านบาท พัฒนาบนพื้นที่ 8 ไร่ เศษ ขนาดพื้นที่ก่อสร้าง 1.2 แสนตารางเมตร ตั้งอยู่ใจกลางถนนรัชดาภิเษก ใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน ซึ่งถือเป็นทำเลทองที่มีดีมานด์ความต้องการที่อยู่อาศัยสูงมาก และได้เปิดขายโครงการไปแล้วในไตรมาส 1 ของปี 2561 ส่วนการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมส่งมอบได้ในปี 2562

Victory Hight
ตึกร้างโครงการวิคตอรี่ไฮ ถ.ศรีอยุธยา

แสนสิริซื้อวิคตอรี่ไฮขึ้นคอนโดฯใหม่

อาคารสร้างค้างอีกโครงการ วิคตอรี่ ไฮ คอนโดฯ พญาไท (Victory High Condo Phayathai) เป็นอาคารสร้างค้างมาตั้งแต่ปี 2540 ตั้งอยู่บนถนนศรีอยุธยา ซอย 8 ด้านข้างโรงเรียนศรีอยุธยา เจ้าของเดิมเป็นเจ้าของเดียวกับกลุ่มโรงพยาบาลพญาไท ที่ได้ยื่นขออนุญาตก่อสร้างไว้เป็นอาคารสำนักงานให้เช่า แต่ต้องหยุดการก่อสร้างเนื่องจากเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ โดยได้ก่อสร้างไปแล้ว 28 ชั้น ล่าสุดกลุ่มแสนสิริได้เข้ามาซื้อและนำไปพัฒนาต่อ

โครงการดังกล่าว ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 3 ไร่เศษ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ พื้นที่ด้านหน้า เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ เป็นโรงแรมสูง 35 ชั้น จำนวน 450 ห้อง ส่วนอาคารด้านหลัง เนื้อที่กว่า 1 ไร่ เป็นคอนโดมิเนียมสูง 39 ชั้น จำนวน 504 ยูนิต มูลค่า 1,700 ล้านบาท ประกอบด้วยห้องชุดแบบห้องสตูดิโอ พื้นที่ 40 ตารางเมตร ราคา 2.6-3.02 ล้านบาท, พื้นที่ใช้สอย 47, 53 และ 54 ตารางเมตร ราคา 3.05 – 4.07 ล้านบาท ส่วนขนาด 90 ตารางเมตร ราคา 5.85 – 6.79 ล้านบาท และ ห้องแบบดูเพล็กซ์ (Duplex) พื้นที่ 102, 107 ตารางเมตร ราคา 7.14 – 8.02 ล้านบาท

ปัจจุบันมีอาคารร้างจำนวนหนึ่งได้รับการฟื้นฟูจากนักลงทุนรายใหม่ ทั้งกลุ่มทุนไทยและทุนต่างประเทศเข้ามาพัฒนา ซึ่งส่วนใหญ่ใช้โครงสร้างเดิมของอาคารในการนำมาพัฒนาใหม่

Avatar photo