Economics

ครม. เทเงิน 6.3 พันล้าน ซื้อวัคซีนโควิด-19 ‘แอสตราเซนเนกา’ ฉีดให้คนไทย 50%

ครม. อนุมัติเทงบฯ 6.3 พันล้าน ซื้อ วัคซีนโควิด-19 แอสตราเซนเนกา” เพิ่ม 35 ล้านโดส ตั้งเป้าฉีดให้คนไทย 50% ภายในปีนี้

วันนี้ (2 มีนาคม 2564) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้สั่งจองซื้อวัคซีนโควิด-19 จำนวน 63 ล้านโดสและขณะนี้ได้เริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ได้รับมาในระยะแรก ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา

วัคซีนในส่วนที่เหลือจะถูกจัดส่งมายังจังหวัดต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยภายในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2564 จะมีวัคซีนที่ผลิตในประเทศมาฉีดให้กับประชาชนอย่างกว้างขวางต่อไป

ครม. อนุมัติงบซื้อ วัคซีนโควิด-19

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความครอบคลุมในการให้วัคซีนกับประชาชนในประเทศ วันนี้ (2 มี.ค.) ครม. ได้อนุมัติงบประมาณ 6,387,285,900 บาท จัดซื้อวัคซีน โควิด-19 จาก บริษัท แอสตราเซนเนกา เพิ่มจำนวน 35 ล้านโดส

ถือเป็นเครื่องยืนยันว่าวัคซีนจะถูกจัดส่งให้กับพี่น้องประชาชนคนไทย อย่างครอบคลุมทั่วถึงแน่นอน นอกจากจะครอบคลุมพี่น้องประชาชนคนไทยแล้ว จะครอบคลุมให้กับทุกคนที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินนี้ให้มีความปลอดภัยทุกคนตามหลักขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่บอกว่า จะไม่มีใครปลอดภัยจนกว่าทุกคนปลอดภัย ถือเป็นหลักการที่กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการให้ทุกท่าน โดยเฉพาะคนไทยให้มีความปลอดภัย

สำหรับการเตรียมพร้อมรับการเปิดประเทศ ที่จะมีการเดินทางเข้าออกประเทศนั้น กระทรวงสาธารณสุขได้หารือเรื่อง การออกเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน โดยกรมควบคุมโรค ซึ่งเป็นเอกสารทางราชการที่แนบไปกับหนังสือเดินทาง (Passport) เพื่อแสดงถึงความพร้อมของประเทศไทย ความปลอดภัยของประชาชนคนไทย ที่ได้รับหนังสือรับรองการฉีดวัคซีน โควิด-19

ในเรื่องนี้จะเป็นไปตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อแห่งชาติ โดยในวันจันทร์ที่ 8 มีนาคมนี้ จะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติต่อไป

shutterstock 1800007750

เปิดมติ ครม. อนุมัติงบฯ 6.3 พันล้านกวาด “วัคซีนโควิด-19”

วันนี้ที่ประชุม ครม. มีการพิจารณา เรื่องขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำหรับโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับบริการประชากรในประเทศไทย เพิ่มเติม จำนวน 35 ล้านโดส

ครม. มีมติรับทราบและอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอดังนี้

1.รับทราบรายละเอียดโครงการจัดหาวัคซีนโควิด-19 สำหรับบริการประชากรในประเทศไทย เพิ่มเติม จำนวน 35 ล้านโดส กรอบวงเงินจำนวน 6,387,285,900 บาท

2.ขออนุมัติรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 กรอบวงเงิน 6,387,285,900 บาท สำหรับโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสวัคซีนโควิด-19 สำหรับบริการประชากรในประเทศไทยเพิ่มเติมจำนวน 35 ล้านโดส

วัคซีน โควิด-19

1.รายละเอียดกิจกรรมและค่าใช้จ่าย

  • ค่าใช้จ่ายในการจัดหาวัคซีน จำนวน 35 ล้านโดส วงเงินรวมทั้งสิ้น จำนวน 5,673.67 ล้านบาท ประกอบด้วยค่าวัคซีนโควิด 19 จำนวน 5,302.50 ล้านบาท และเป็นค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม จำนวน 371.17 ล้านบาท
  • ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการวัคซีน และในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมความพร้อมในระดับพื้นที่ เพื่อรองรับการฉีดวัคซีน จำนวน 713.61 ล้านบาท

รวมงบประมาณ จำนวน 6,387,285,900 บาท

2.ระยะเวลาการดำเนินงาน เดือนมิถุนายน ถึง ธันวาคม 2564

3.เป้าหมาย จำนวนวัคซีนที่จัดซื้อเพิ่มเติมกับบริษัท แอสตราเซเนกา จำนวน 35 ล้านโดส

4.ประโยชน์ที่ได้รับ ประเทศไทยสามารถจัดซื้อวัคซีน เพื่อฉีดให้ประชากรไทยครอบคลุมอย่างน้อย 50% ภายในปี 2564 และจะทำให้ลดอัตราป่วย การเสียชีวิต และค่าใช้จ่ายภาครัฐในการดูแลรักษาผู้ป่วยจากโรค โควิด-19 รวมทั้งฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจและสังคมให้กลับสู่สภาวะปกติได้โดยเร็ว

5.ผลผลิต จำนวนวัคซีน 35 ล้านโดส สำหรับประชากรกลุ่มเป้าหมายตามคำแนะนำของคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค จำนวน 17.5 ล้านคน

6.ผลลัพธ์ ประชากรกลุ่มเป้าหมายตามคำแนะนำของคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค

7.ผลกระทบ ลดอัตราป่วย การเสียชีวิต และค่าใช้จ่ายภาครัฐในการดูแลรักษาผู้ป่วยจากโรค โควิด-19 รวมทั้งฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจและสังคมให้กลับสู่สภาวะปกติได้โดยเร็ว

8.หน่วยงานรับผิดชอบ กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo