World News

‘ไบเดน’ เครื่องร้อน จี้วุฒิสภา ผ่านร่างกฏหมายเยียวยาโควิด 1.9 ล้านล้านดอลลาร์

ไบเดน ร้องวุฒิสหรัฐ ผ่านร่างกฏหมายเยียวยาผลกระทบ จากโรคโควิด-19 วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ย้ำ ไม่มีเวลาเหลืออีกแล้ว

โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ เรียกร้องให้วุฒิสภา เร่งอนุมัติร่างกฎหมาย เยียวยาผลกระทบจากโรคโควิด-19 วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ที่เพิ่งผ่านการเห็นชอบจาก สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ในวันเสาร์ (27 ก.พ.) ท่ามกลางเสียงคัดค้านจาก สมาชิกพรรครีพับลิกัน

USA covid 19 ๒๑๐๒๒๘

ขณะนี้ ร่างกฎหมายเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19 ถูกส่งไปให้วุฒิสภาพิจารณาแล้ว และหวังว่าจะได้รับการดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพราะเราไม่มีเวลาเหลือพออีกแล้ว

ประธานาธิบดีไบเดน ระบุว่า หากเริ่มดำเนินการตั้งแต่ตอนนี้ ด้วยความเด็ดขาด รวดเร็ว และกล้าหาญ ก็จะขึ้นมาก้าวนำไวรัส และสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ให้ดำเนินต่อไปได้อีกครั้ง นี่ถึงเวลาแล้วที่ต้องลงมือทำ

นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ แสดงความคิดเห็นผ่านทวิตเตอร์ว่า ในฐานะนักเศรษฐศาสตร์และชาวเมริกันคนหนึ่ง ขอปรบมือให้กับสภาผู้แทนราษฎร ที่ให้ความเห็นชอบ ต่อแผนการช่วยเหลือชาวอเมริกันฉบับนี้

ทั้งนี้ บรรดานักเศรษฐศาสตร์ ต่างก็มีมติเห็นพ้องกันในวงกว้างว่า ผู้คนจำนวนมาก ต้องได้รับความช่วยเหลือไปจนกว่าที่สถานการณ์ไวรัสจะควบคุมได้

shutterstock 1608843100 e1604751172717
โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวสุนทรพจน์หลังจากเข้าพิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 46 อย่างเป็นทางการ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงของสหรัฐฯ วันที่ 20 ม.ค. 64

สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ที่มีชื่อว่า “American Rescue Plan”  ครอบคลุมถึงการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจากระดับ 7.25 ดอลลาร์/ชั่วโมงในปัจจุบัน สู่ระดับ 15 ดอลลาร์, เพิ่มวงเงินในการส่งเช็คเงินสดให้แก่ชาวอเมริกันเป็นคนละ 2,000 ดอลลาร์ จากเดิมที่ได้คนละ 600 ดอลลาร์, เพิ่มวงเงินช่วยเหลือคนตกงานเป็น 400 ดอลลาร์/สัปดาห์และให้ขยายโครงการช่วยเหลือไปจนถึงสิ้นเดือนก.ย.

ก่อนหน้านี้ สภาคองเกรสให้ความเห็นชอบ ต่อแนวทางการพิจารณาอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แบบ fast track โดยใช้แนวทางการจัดทำงบประมาณที่เรียกว่า budget reconciliation ซึ่งจะปูทางให้สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสามารถให้การรับรองงบประมาณดังกล่าวด้วยคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งสำหรับการผ่านกฎหมายทั่วไป ทำให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว สามารถผ่านสภาคองเกรส โดยไม่จำเป็นต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรครีพับลิกัน

ส่วนในวุฒิสภานั้น พรรคเดโมแครต และรีพับลิกัน มีคะแนนเสียงเท่ากัน 50-50 เสียง ดังนั้น การที่วุฒิสภาจะให้การอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว จึงจำเป็นต้องอาศัยคะแนนเสียงชี้ขาด 1 เสียงจากนางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งจะลงคะแนนเสียงในฐานะประธานวุฒิสภาโดยตำแหน่ง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo