ตระกูล “พูลวรลักษณ์” ผู้บุกเบิกธุรกิจโรงภาพยนตร์มาตั้งแต่ปี 2499 หรือกว่า 60 ปี มีสาขาทั่วกรุงเทพฯและต่างจังหวัด สร้างโรงหนังที่มีชื่อเสียงไว้จำนวนมากในอดีต ไม่ว่าจะเป็น เมโทร แมคแคนนา เพชรรามา เซ็นจูรี่ ศรีตลาดพลู ฮอลิเดย์ เจ้าพระยา เป็นต้น ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลกิจการของ “เจเนอเรชั่นแรก” 4 พี่น้อง “พูลวรลักษณ์” ได้แก่ “เจริญ-จำเริญ-เกษม-จรัล”
มาในยุคเจเนอเรชั่น 2 ตระกูลพูลวรลักษณ์ ที่สานต่อการลงทุนธุรกิจโรงภาพยนตร์ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2538 ภายใต้แบรนด์ “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” รูปแบบ“มัลติเพล็กซ์” คือ “วิชา พูลวรลักษณ์” บุตรชาย “จำเริญ” ปัจจุบันโรงภาพยนตร์เมเจอร์ฯ และแบรนด์อื่นๆ ในเครือ มีสาขาทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัดมากที่สุด ครอบคลุม 53 จังหวัด รวม 115 สาขา จำนวน 747 โรง นอกจากนี้ยังมีสาขาในประเทศลาวและกัมพูชา
“เซ็นจูรี่”ปั้นคอมมูนิตี้ มอลล์ สุขุมวิท 3 พันล้าน
นอกจากนี้ เจเนอเรชั่น 2 ตระกูลพูลวรลักษณ์ ในฝั่งทายาท “เกษม” เป็นอีกครอบครัวที่มีแลนด์แบงก์ทำเลดีและยังมีการลงทุนในธุรกิจโรงภาพยนตร์ภายใต้แบรนด์ “เซ็นจูรี่”
หนึ่งใน 5 พี่น้องและเป็นทายาทคนสุดท้องของ “เกษม” คือ กำพล พูลวรลักษณ์ ได้รับมอบหมายให้ดูแลศูนย์การค้าและโรงภาพยนตร์ เซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่ พลาซ่า ในตำแหน่ง รองประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอกพัฒนกิจ จำกัด
กำพล เล่าว่าธุรกิจโรงภาพยนตร์มีการเปลี่ยนแปลงมาหลายยุค ตามกระแสสังคมที่เปลี่ยนไป การบริหารธุรกิจโรงภาพยนตร์จึงต้องปรับตัวให้เป็นมากกว่า “โรงภาพยนตร์” ด้วยรูปแบบคอมเพล็กซ์ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ส่วนอื่นๆ ของผู้บริโภคในยุคนี้ เช่น ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า ซูเปอร์มาร์เก็ต
หลังจาก 13 ปีก่อนได้เปิดตัวคอมมูนิตี้ มอลล์ และโรงภาพยนตร์ เซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่ พลาซ่า สาขาอนุสาวรีย์ฯ ด้วยงบลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท มีโรงภาพยนตร์ 8 โรง และพื้นที่เช่าร้านค้า ปี 2562 เตรียมรีโนเวทครั้งใหญ่ในรอบ 13 ปี คาดใช้งบประมาณกว่า 100 ล้านบาท
มาในต้นปี 2561 ซึ่งทิ้งช่วงจากสาขาแรกถึง 13 ปี ได้เปิดบริการ เซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่ พลาซ่า สุขุมวิท (อ่อนนุช) ด้วยรูปแบบมิกซ์ยูส บนพื้นที่ 6 ไร่ครึ่ง คอนเซ็ปต์ “คอมมูนิตี้ ไลฟ์สไตล์ มอลล์” ประกอบไปด้วยศูนย์การค้า โรงภาพยนตร์ และโรงแรม 4 ดาว ชั้น 7-35 โดยใช้เชนโรงแรม AVANI Hotel (อวานี โฮเทล) โรงแรมมีจำนวน 385 ห้อง เปิดบริการเดือนกุมภาพันธ์ 2562 รวมการลงทุน 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ศูนย์การค้าและโรงภาพยนตร์ 1,500 ล้านบาท และโรงแรม 1,500 ล้านบาท
เซ็นจูรี่ฯ สุขุมวิท มีพื้นที่กว่า 7 หมื่นตร.ม. พื้นที่พลาซ่า 42,000 ตร.ม. มีพื้นที่ให้เช่า 10,000 ตร.ม. ได้เปิดให้บริการตั้งแต่ต้นปี 2561 ปัจจุบันร้านค้าเช่าให้บริการแล้ว 95% พื้นที่แบ่งเป็น Specialty Store ได้แก่ ท็อปส์ มาร์เก็ต , เพาเวอร์บาย, B2S ร้านหนังสือและสื่อบันเทิงที่, KERRY EXPRESS ร้านส่งพัสดุสุดทันสมัย
Food Avenue & Lobby AVANI Hotel & Connect to BTS ร้านอาหารแบรนด์ดัง ระดับอินเตอร์หลากหลายสไตล์ รวมทั้งร้านกาแฟชื่อดัง พื้นที่ Life Style & Beauty ร้านดูแลผิวพรรณ ความงาม และทันตกรรม และสถาบันการเงินชั้นนำ Movie Theater ประกอบด้วย โรงภาพยนตร์เซ็นจูรี่ 6 โรง ระบบดิจิทัลมาตรฐานโลก
โครงการวางกลุ่มเป้าหมายผู้พักอาศัยในรัศมี 1-2 กิโลเมตร ทั้งคนไทยและต่างชาติที่มีจำนวนกว่า 3 แสนคน ปัจจุบันทำเลอ่อนนุช เป็นพื้นที่กรุงเทพฯฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว เกิดที่พักอาศัยทั้งคอนโด หมู่บ้านจัดสรร สถานศึกษา หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เรียกได้ว่าเป็นพื้นที่ติดกับย่านซีบีดี ปัจจุบันมีผู้เข้ามาใช้บริการวันละ 1.5 หมื่นคน คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกหลังจากโรงแรมเปิดให้บริการในปีหน้า ขณะที่สาขาอนุสาวรีย์ฯ มีผู้ใช้บริการวันละ 3 หมื่นคน
โรงแรมเจาะตลาดไมซ์
การลงทุนโรงแรม อวานี ระดับ 4 ดาวในย่านนี้ มองโอกาสจากทำเลที่อยู่ติดย่านซีบีดี ใช้เวลาเดินทางโดยรถไฟฟ้าบีทีเอส 15-20 นาที ถึงย่านสีลมและสาทร อีกทั้งอยู่ใกล้กับศูนย์แสดงนิทรรศการ ไบเทค และสนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้มีโอกาสเจาะตลาดไมซ์ และนักธุรกิจ นอกจากตลาดนักท่องเที่ยวทั่วไป
อวานี โฮเทล ให้บริการตั้งแต่ชั้น 7-35 แบ่งออกเป็น Dining Room + Ball Rooms บรรยากาศสุดชิคกับบริการโดยเชฟมืออาชีพ ห้องจัดเลี้ยงรับรอง 4 ห้อง หลากหลายขนาด
Swimming Pool + Gym สำหรับสายสปอร์ตตี้ ด้วยสระน้ำดีไซน์เก๋ รวมทั้งพื้นที่โดยรอบเพื่อใช้จัดกิจกรรมต่างๆ รอบสระว่ายน้ำ (Pool Party) พร้อมด้วนอุปกรณ์การออกกำลังกายที่มีมาตรฐานระดับพรีเมียม
สำหรับรายได้หลักมาจากค่าเช่าร้านค้าในพื้นที่ศูนย์การค้า โดยสาขาอนุสาวรีย์ฯ อยู่ที่ปีละ 200 ล้านบาท ส่วนสาขาสุขุมวิท วางเป้าหมายไว้ที่ 200 ล้านบาทเช่นกัน คาดว่าการเปิดเซ็นจูรี่ฯ สุขุมวิท จะส่งผลให้รายได้รวมเพิ่มขึ้น 30% ต่อปี
โมเดลลงทุน “มิกซ์ยูส” โรงหนังแม่เหล็กดึงคน
กำพล กล่าวว่าปัจจุบันครอบครัวยังมีแลนด์แบงก์ในกรุงเทพฯ อีก 3-4 แปลง โดยกำลังอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุน เซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่ พลาซ่า สาขาที่ 3 ในปี 2564 คาดใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี รูปแบบการลงทุนยังคงเป็นโมเดล “มิกซ์ยูส” เหมือนสาขาสุขุมวิท ซึ่งต้องใช้พื้นที่ 5-6 ไร่ ทำให้ต้องใช้เวลาเก็บสะสมพื้นที่บริเวณใกล้เคียง เช่นเดียวกับสาขาสุขุมวิท (อ่อนนุช) ที่ใช้เวลา 2 ปี รวบรวมที่ดินให้ได้ 6 ไร่ครึ่ง
แนวโน้มการลงทุนเซ็นจูรี่ฯ สาขา 3 ซึ่งจะเป็น คอมมูนิตี้ ไลฟ์สไตล์ มอลล์ มีพื้นที่ศูนย์การค้า โรงภาพยนตร์และโรงแรมคาดว่าจะใช้เงินลงทุนใกล้เคียงกับสาขาสุขุมวิท คือราว 3,000 ล้านบาท โดยจะใช้โมเดลมิกซ์ยูส เป็นรูปแบบการลงทุนหลักของ “เซ็นจูรี่” เพราะตอบไลฟ์สไตล์ในยุคนี้ อีกทั้งยังสร้างรายได้หมุนเวียนจากร้านค้าเช่าพื้นที่และโรงแรม
แม้ตระกูลพูลวรลักษณ์ เป็นผู้บุกเบิกธุรกิจโรงภาพยนตร์มากว่า 60 ปี แต่ “เจน 2” มีการลงทุนพัฒนาธุรกิจไปตามความถนัดของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นฝั่งเจน 2 ทายาท “เจริญ” โดย วิชัย พูลวรลักษณ์ ที่มุ่งไปในเส้นทางพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หลังจากขายธุรกิจโรงภาพยนตร์เครืออีจีวี ให้กับคุณวิชา ส่วน วิสูตร พูลวรลักษณ์ โฟกัสเรื่องการสร้างภาพยนตร์
ขณะที่ เจน 2 ทายาท “เกษม” แม้มีการลงทุนโรงภาพยนตร์ “เซ็นจูรี่” แต่ก็ไม่ใช่ธุรกิจหลัก เพราะรายได้หลักมาจากรายได้ค่าเช่าพื้นที่ร้านค้าในโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ โดยมีโรงภาพยนตร์เป็น “แม่เหล็ก” ดึงผู้ใช้บริการ เพื่อทำให้โครงการมีบริการครบทุกด้านของไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในยุคนี้
ส่องธุรกิจเจน 2 ทายาท‘เกษม’
ตระกูล “พูลวรลักษณ์” ครอบครัว “คุณเกษม-คุณอาภรณ์ พูลวรลักษณ์” บริหารธุรกิจภายใต้บริษัท เอกพัฒนกิจ จำกัด มีทายาท 5 คน ประกอบด้วย
- วิโรจน์ พูลวรลักษณ์ ดูแลธุรกิจการผลิตยา บริษัท นิด้า ฟาร์มา อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด
- กิตติพันธ์ พูลวรลักษณ์ ดูแลธุรกิจโรงแรม Jazzotel Bangkok ย่านเหม่งจ๋าย และโรงแรมอาวานี
- เยาวลักษณ์ (พูลวรลักษณ์) แดงประเสริฐ
- อุดมลักษณ์ (พูลวรลักษณ์) นานาวราทร
- กำพล พูลวรลักษณ์ ดูแลธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์ และโรงภาพยนตร์
นอกจากนี้บริษัทเอกพัฒนกิจ ยังมีธุรกิจในเครือ ประกอบด้วย
- คฤหาสน์ให้เช่า ย่านสุขุมวิท 36 การ์เด้น วิลเลจ
- อพาร์ทเม้นต์ 5 แห่ง ประกอบด้วย เอกฤกษ์ อพาร์ทเม้นต์ ซอย บุญปรารภ, เอกมัย อพาร์ทเม้นต์ สุขุมวิท 63, เอกเกษมสมบัติ อพาร์ทเม้นต์ ถนนประดิษฐ์มนูธรรม, ไดมอนด์ อพาร์ทเม้นต์ และ เอกรัตน์ อพาร์ทเม้นต์ ซอยรามคำแหง 53
- ตลาดสด 2 แห่ง คือ ตลาดพรานนก ย่านสี่แยกพรานนก และ ตลาดปัฐวิกรณ์ ย่านนวมินทร์