ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า เวสต์เท็กซัส ของสหรัฐ ทะยานสูงขึ้นเกือบ 4% มาอยู่เหนือระดับ 61 ดอลลาร์ในวันนี้ (22 ก.พ.) โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่าตลาดน้ำมันยังคงเผชิญภาวะตึงตัว แม้อุตสาหกรรมพลังงานในรัฐเท็กซัสเตรียมกลับมาผลิตน้ำมันอีกครั้ง
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) กำหนดส่งมอบเดือนมีนาคม ที่ตลาดไนเม็กซ์ ของสหรัฐ ล่าสุดเพิ่มขึ้น 1.98 ดอลลาร์ หรือ 3.34% มาอยู่ที่่ระดับ 61.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า ตลาดน้ำมันจะยังคงเผชิญภาวะตึงตัวต่อไป เพราะแม้อุตสาหกรรมพลังงาน ในรัฐเท็กซัสจะกลับมาผลิตได้อีกครั้ง แต่ก็มีแนวโน้มว่า จะเป็นไปอย่างล่าช้า หลังจากที่สภาพอากาศที่หนาวเย็นได้กระทบต่อการผลิตน้ำมันและก๊าซก่อนหน้านี้
นักวิเคราะห์ระบุว่า การขาดแคลนกระแสไฟฟ้าในรัฐเท็กซัสก่อนหน้านี้ กระทบต่อการกลั่นน้ำมันราว 1 ใน 5 ของสหรัฐ รวมทั้งการผลิตน้ำมันดิบราว 4 ล้านบาร์เรลต่อวัน และการผลิตก๊าซธรรมชาติจำนวน 2.1 หมื่นล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยหนุนจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ประเทศต่าง ๆ เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งจะทำให้มีการเปิดเศรษฐกิจ และเพิ่มความต้องการใช้น้ำมัน
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ในตลาดลอนดอน ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน โดยล่าสุด ยืนอยู่เหนือระดับ 63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากที่ โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป ประเมินว่า ราคาน้ำมันจะทะยานขึ้นไปอยู่เหนือระดับ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
โกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ จะขึ้นไปถึงระดับ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ และไปถึง 75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในไตรมาสถัดไป สูงกว่าที่เคยประเมินไว้ก่อนหน้านี้ถึง 10 ดอลลาร์ จากการคาดการณ์ว่า ความต้องการน้ำมันจะกลับไปอยู่ในระดับเดียวกับช่วงก่อนหน้าการเกิดไวรัสโควิด-19 ระบาด ในปลายเดือนกรกฎามนี้
นักลงทุน ยังจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และชาติพันธมิตร หรือโอเปคพลัส ในวันที่ 4 มีนาคมนี้ โดยคาดว่า ที่ประชุมจะมีมติผ่อนคลายมาตรการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน หลังเดือนเมษายน เนื่องจากขณะนี้ราคาน้ำมันได้ฟื้นตัวขึ้นแล้ว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ผู้ค้าน้ำมันสะเทือน! ‘โอเปค’ ชี้ความต้องการทั่วโลกยังดิ่ง เหตุล็อกดาวน์ต่อเนื่อง
- สนพ.เผยแนวโน้มราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น
- ปตท.ประเมินแนวโน้มน้ำมันขยับขึ้น จากความหวังวัคซีนโควิดหนุนเศรษฐกิจฟื้นตัว