ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,478.14 จุด ลดลง 22.37 จุด (-1.49%) มูลค่าการซื้อขาย 89,859.24 ล้านบาท โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,505.47 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,476.50 จุด
นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 2,407.25 ล้านบาท รองลงมาบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 2,173.64 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,966.70 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 6,547.59 ล้านบาท
อินโฟเควสท์ รายงานว่า นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตามตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียติดลบเช่นเดียวกับตลาดยุโรปเทรดบ่ายนี้เคลื่อนไหวในแดนลบเฉลี่ย 1% และดาวโจนส์ฟิวเจอร์สติดลบราว 0.7% คาดรับผลจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) สหรัฐและไทยปรับขึ้นมาเร็ว
ส่งผลให้ตลาดทั่วโลกพักฐานระยะสั้นก่อน เนื่องจากมีผลกระทบต่อกระแสเงินทุน ซึ่งที่จริงการขึ้นรอบนี้ของ Bond yield เป็นการสะท้อนความคาดหวังเศรษฐกิจฟื้นตัว แต่ด้วยความที่ขึ้นมาเร็วทำให้ต้องปรับพอร์ตก่อน
อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป ขณะที่พรุ่งนี้ติดตามการชุมนุมทางการเมืองแยกราชประสงค์นและการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมทั้งทิศทาง Bond yield นอกจากนี้ พรุ่งนี้กระทรวงพาณิชย์จะมีการประกาศตัวเลขส่งออกของไทย ซึ่งตลาดคาดว่าจะเติบโต 2.5%
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (23 ก.พ.) นายณัฐพล กล่าวว่า ตลาดฯ ยังมีลุ้นเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์หลังจากที่ดัชนีฯได้ลงไปลึก พร้อมให้แนวรับ 1,477 ถัดไป 1,460-1,450 จุด ส่วนแนวต้าน 1,480-1,490 ถัดไป 1,500 จุด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เจาะหุ้นบางจาก ‘BCP’ หุ้นน้ำมันที่กำลังปลดล็อกมูลค่า
- หุ้นเอเชีย เปิดตลาดในแดนบวก ขานรับเศรษฐกิจฟื้นตัวหลังโควิด-19 คลี่คลาย
- คาดหุ้นสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบ 1,475-1,530 จุด
