ถือเป็นความสำเร็จอย่างมากสำหรับแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดชื่อดังอย่างแมคโดนัลที่ออกมาประกาศตัวเลขอัตราการดาวน์โหลดแอพพลิเคชันว่าเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าตัวในไตรมาส 3 ของปีนี้
โดยหากย้อนเทียบกับเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา จะพบว่าเป็นหนังคนละม้วน เมื่อมีรายงานว่า แมคโดนัลด์ไม่ได้รับความร่วมมือมากนักจากความพยายามเสนอแอพพลิเคชันแก่ลูกค้า หลังจากพยายามผลักดันแอพดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2560 รวมถึงการทรานสฟอร์มองค์กรไปสู่ดิจิทัล ผ่านการติดตั้งตู้คีออสสำหรับสั่งซื้ออาหารก็ถูกมองว่าเป็นการลงทุนที่สร้างแค่ความว้าวเท่านั้นด้วย
แต่ภาพ และการยอมรับของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในวันนี้ได้ทำให้แมคโดนัลด์สามารถอวดกับนักลงทุนได้ว่า บริษัทมีฐานข้อมูลการสั่งซื้อและพฤติกรรมของลูกค้าจำนวนมากจากยอดการดาวน์โหลดแอพพลิเคชันกว่า 60 ล้านครั้งในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา
สตีฟ อีสเตอร์บรูค ซีอีโอของแมคโดนัลด์เผยว่า ยอดการดาวน์โหลดของแอพที่ต่ำมากในช่วงเดือนมีนาคมนั้น ได้ทำให้ทางบริษัทกลับไปปรับปรุงในหลายด้าน ทั้งการพัฒนาแอพพลิเคชันให้มีความเสถียร สามารถอำนวยความสะดวกในการใช้งานได้ รวมถึงต้องสามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีในการสั่งอาหารได้ด้วย
ขณะที่ด้านพนักงานก็ได้รับการฝึกอบรมใหม่ ให้สามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับแมคโดนัลด์ยุคดิจิทัลด้วยเช่นกัน
ผลก็คือในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา บริษัทพบว่ายอดลูกค้าเข้าใช้บริการในร้านของแมคโดนัลด์ลดลง แต่รายได้ก็ยังเติบโต เนื่องจากผู้ใช้บริการส่วนหนึ่งหันไปสั่งซื้อผ่านแอพและพึ่งอูเบอร์อีทส์ที่แมคโดนัลด์จับมือไว้เป็นพันธมิตรในการจัดส่ง ซึ่งหลังจากนี้ ทางบริษัทบอกว่าจะหากิจกรรมการตลาดมาเสริมบริการเดลิเวอรี่มากขึ้น และจะออกแบบแพกเกจที่ช่วยรักษาอุณหภูมิให้เบอร์เกอร์ในระหว่างจัดส่งด้วย
สอดคล้องกับข้อมูลจาก SimilarWeb ที่พบว่า ในช่วงซัมเมอร์นั้น มีผู้เปิดใช้แอพของแมคโดนัลด์บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เพิ่มขึ้นจาก 20% ต่อวันเป็น 40% เลยทีเดียว
การเติบโตบนดิจิทัลของแมคโดนัลด์ได้ถูกนำไปเปรียบเทียบกับคู่แข่งตลอดกาลอย่างเบอร์เกอร์คิง ที่เปิดตัวแอพพลิเคชันในสหรัฐอเมริกาไปแล้วเช่นกัน โดยเบอร์เกอร์คิง เผยว่า มีผู้สนใจดาวน์โหลดไปแล้วกว่า 2 ล้านครั้งในไม่กี่สัปดาห์หลังการเปิดตัว และคงใช้เวลาระยะหนึ่งกว่าจะสามารถเปรียบเทียบกันได้
แต่ทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นว่า หากแบรนด์เห็นความสำคัญของผู้บริโภค ลงทุนพัฒนาโปรดักซ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างจริงจัง ก็จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นได้เอง ซึ่งหากทำได้ถึงระดับนั้นแล้ว บริการอื่น ๆ เช่น เดลิเวอรี่ ก็จะมาขอพ่วงเองถึงที่
ความสำเร็จของแมคโดนัลด์ในวันนี้จึงสอดคล้องกับผลการสำรวจของ E-Poll Market Research ที่พบว่า มากกว่า 53% ของผู้บริโภคเลือกจะสั่งซื้ออาหารผ่านแอพของแบรนด์มากกว่าจะสั่งซื้อผ่านผู้ให้บริการเดลิเวอรี่ โดยมีประมาณ 31% สั่งผ่านอูเบอร์อีทส์ หรือ 17% สั่งผ่าน DoorDash สตาร์ทอัพด้านเดลิเวอรี่ของสหรัฐอเมริกา
