7 หุ้นกลุ่มปตท. สรุปงบปี 2563 มูลค่าตลาด สูงถึง 2.67 ล้านล้านบาท มากกว่า 1 ใน 6 ของมูลค่าหุ้นทั้งหมดในตลาด พร้อมเช็กราคาเป้าหมายปีนี้
รู้กันไหมครับว่ากลุ่มบริษัทเรือธงด้านพลังงานของกลุ่มปตท. ที่ประกอบด้วยหุ้น PTT, PTTEP, PTTGC, TOP, GPSC, IRCP และ OR ปัจจุบันมีมูลค่าตลาด (Market Cap.) สูงถึง 2.67 ล้านล้านบาท คิดเป็น 15.60% หรือมากกว่า 1 ใน 6 ของมูลค่าหุ้นทั้งหมดในตลาด ทำให้การเคลื่อนไหวของหุ้นกลุ่มนี้เพียงเล็กน้อย นั้นมีผลต่อดัชนี SET Index เป็นอย่างมากเลย
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 กลุ่มปตท. ได้ประกาศผลประกอบการประจำปี 2563 ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ แน่นอนว่าภาพรวมกำไรลดลงตามที่คาดการณ์ไว้แล้ว เนื่องจากราคาขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่ปรับลดลงในปีที่ผ่านมา เพราะความต้องการใช้ที่น้อยลงทั่วโลกจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ที่หยุดชะงัก เช่นเดียวกับกลุ่มโรงกลั่มและปิโตรเคมีที่ส่วนใหญ่จะได้รับผลกระทบจากการขาดทุนสต๊อกน้ำมัน โดยมีเพียงกลุ่มธุรกิจโรงไฟฟ้าเท่านั้นที่ยังสามารถสร้างการเติบโตโดดเด่นในปี 2563
เจาะงบการเงิน 7 หุ้นกลุ่มปตท. ปี 2563
1. PTT – บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
รายได้รวม 1.61 ล้านล้านบาท ปรับลดลง 27% และกำไรสุทธิ 3.77 หมื่นล้านบาท ปรับลดลง 59.4% จากปี 2562
ประกาศจ่ายปันผล 0.82 บาทต่อหุ้น โดยขึ้น XD วันที่ 4 มีนาคม 2564
สรุปประเด็นสำคัญ : บริษัทในกลุ่มในรับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ราคาขายและส่วนต่างราคาน้ำมันสำเร็จรูป-ปิโตรเคมีต่ำลง เช่นเดียวกับปริมาณขายก็ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจด้วย นอกจากนี้ ยังมีการขาดทุนพิเศษ ได้แก่ สต๊อกน้ำมัน และการด้อยค่าสินทรัพย์รวมกันเกือบ 2 หมื่นล้านบาท
2. PTTEP – บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)
รายได้รวม 1.67 แสนล้านบาท ปรับลดลง 15.79% และกำไรสุทธิ 2.26 หมื่นล้านบาท ปรับลดลง 53.55% จากปี 2562
ประกาศจ่ายปันผล 2.75 บาทต่อหุ้น โดยขึ้น XD วันที่ 1 มีนาคม 2564
สรุปประเด็นสำคัญ : การปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ทำให้บริษัทมีรายได้จากการขายลดลงไปถึง 1,003 ล้านดอลลาร์ และมีการรับรู้ขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์จากโครงการมาเรียนา ออยล์ แซนด์ และโครงการเยตากุน
3. PTTGC – บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)
รายได้รวม 3.29 แสนล้านบาท ปรับลดลง 20.23% และกำไรสุทธิ 199 ล้านบาท ปรับลดลง 98% จากปี 2562
ประกาศจ่ายปันผล 1 บาทต่อหุ้น โดยขึ้น XD วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564
สรุปประเด็นสำคัญ : เป็นปีที่บริษัทกำไรลดลงอย่างมาก หลังราคาและปริมาณขายในทุกผลิตภัณฑ์ลดลง แถมยังขาดทุนสต็อกน้ำมันกว่า 8,200 ล้านบาท อย่างไรก็ดีการที่ผลประกอบยังอยู่ในแดนบวกได้ เนื่องจากบริษัทดำเนินการประหยัดค่าใช้จ่ายและลดต้นทุนการผลิตได้อย่างดีเยี่ยม
4. TOP – บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)
รายได้รวม 2.42 แสนล้านบาท ปรับลดลง 32.81% และพลิกขาดทุน 3,301 ล้านบาท
ประกาศจ่ายปันผล 0.70 บาทต่อหุ้น โดยขึ้น XD วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564
สรุปประเด็นสำคัญ : เป็นหนึ่งในสองบริษัทของกลุ่มที่ขาดทุนในปี 2563 เพราะเจอผลกระทบเต็มจากค่าการกลั่น และรายได้การขายที่ลดลง รวมถึงการขาดทุนสต็อกน้ำมันอีกกว่า 7,300 ล้านบาท
5. IRPC – บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)
รายได้รวม 1.74 แสนล้านบาท ปรับลดลง 27.35% และพลิกขาดทุน 6,151 ล้านบาท
ประกาศจ่ายปันผล 0.06 บาทต่อหุ้น โดยขึ้น XD วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564
สรุปประเด็นสำคัญ : เรียกว่าขาดทุนหนักที่สุดของกลุ่มปตท. สาเหตุมาจากขาดทุนสต็อกน้ำมัน บุ๊กค่าเสื่อมราคา และผลกระทบจากมาตรฐานบัญชีใหม่ ขณะที่รายได้จากการขายก็ลดลงตามราคาและปริมาณขายที่หดตัวลงด้วย
6. GPSC – บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน)
รายได้รวม 6.87 หมื่นล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 4.51% และกำไรสุทธิ 8,791 ล้านบาท ปรับลดลง 19.30% จากปี 2562
ประกาศจ่ายปันผล 1 บาทต่อหุ้น โดยขึ้น XD วันที่ 3 มีนาคม 2564
สรุปประเด็นสำคัญ : เป็นหนึ่งเดียวของกลุ่มที่ทำกำไรพุ่งจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีกำไรเพิ่มเติมจากการบันทึกผลงานของ GLOW เข้ามาเต็มปีหลังควบรวมกิจการ ประกอบกับต้นทุนก๊าซธรรมชาติและถ่านหินที่ปรับตัวลดลง ทำให้โรงไฟฟ้ามี margin ที่สูงขึ้นนั่นเอง
7. OR – บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)
รายได้รวม 4.28 แสนล้านบาท ปรับลดลง 25.70% และกำไรสุทธิ 7,058 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 85% จากปี 2562
ประกาศจ่ายปันผล 0.10 บาทต่อหุ้น โดยขึ้น XD วันที่ 16 มีนาคม 2564
สรุปประเด็นสำคัญ : รายได้รวมและกำไรสุทธิชะลอตัวลง ซึ่งมาจากทั้งธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน และ Non-Oil ที่มียอดขายน้อยลง จากผลกระทบโควิด-19
เช็กราคาเป้าหมายหุ้นกลุ่มปตท.ปี 2564
รวบรวมราคาเป้าหมายของ 7 หุ้นกลุ่มปตท. จาก IAA Consensus ณ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2564
จุดสังเกตคือแม้ปี 2563 ผลประกอบการของกลุ่มปตท. จะชะลอตัวลง แต่ก็เนื่องจากสาเหตุพิเศษ คือ เหตุการณ์โควิด-19 ซึ่งเกิดขึ้นได้ยากอีกในอนาคต ดังนั้น นักวิเคราะห์หลายฝ่ายจึงยังให้ราคาเป้าหมายที่มีอัพไซด์อยู่พอสมควร เพราะมองว่าธุรกิจกลุ่มนี้มีโอกาสกลับมาได้ไม่ยาก เมื่อความต้องการน้ำมันกลับมาสู่จุดเดิม และที่สำคัญทุกบริษัทในเครือปตท. ก็ยังประกาศจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นทั้งหมด
หมายเหตุ | บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาชี้นำหรือแนะนำให้ซื้อ ถือหรือขายหุ้นแต่อย่างใด ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- วัดพลังหุ้นค้าปลีกน้ำมัน ‘OR vs PTG’
- PTT กำไรสุทธิปี 63 ร่วง 59.4% จากรายได้ลดเกือบทุกกลุ่มธุรกิจ
- ‘IRPC’ แจงผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 63 กำไร 1,608 ล้าน พิจารณาเสนอจ่ายปันผล 0.06 บาท/หุ้น