กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) กำหนดเรื่องการผลิต การบริการและการบริโภคที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นประเด็นยุทธศาสตร์หนึ่งของหน่วยงาน
โดยขับเคลื่อนการดำเนินโครงการ G-Green ประกอบด้วย โครงการ Green Product , Green Hotel , Green Office , Green National Park , Green Restaurant รวมทั้งได้ขยายสู่โครงการ Green Airport และ Green Coffee Shop มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ผลิต ผู้บริการ และผู้บริโภคปรับพฤติกรรม มุ่งสู่สังคมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ทส. โดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมภาคี ภาคส่วนต่าง ๆ ในการผลิต การบริการ และการบริโภค ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2557
เพื่อให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญ ใส่ใจ และเห็นคุณค่าการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และมีประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงาน คำนึงถึงผลกระทบ ที่จะเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อม ประชาชน และสังคมส่วนรวม ส่งต่อแนวคิดการผลิต การบริการ และการบริโภค ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสู่การปฏิบัติจริง และเห็นผลเชิงประจักษ์
โดยมีกลุ่มเป้าหมายในภาคการผลิต ได้แก่ สถานประกอบการขนาดเล็ก ส่วนของภาคบริการ ได้แก่ สำนักงาน โรงแรม ร้านอาหารอุทยานแห่งชาติ รวมถึงผู้บริโภคระดับประชาชน และใช้เกณฑ์การประเมินที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม G Green เป็นเครื่องมือ มีคณะกรรมการระดับประเทศ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรและหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมตรวจประเมินและรับรอง โดยหน่วยงานที่ผ่านการประเมินจะได้รับตราสัญลักษณ์
G – Green มีอายุการรับรอง 3 ปี แบ่งเป็น 3 ระดับ คือ
- ระดับดีเยี่ยม (G ทอง)
- ระดับดีมาก (G เงิน)
- ระดับดี (G ทองแดง)
ปลัด ทส. กล่าวต่อว่า การขับเคลื่อน G – Green ด้วยวิถีชีวิตใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ให้การรับรองสถานประกอบการ หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน มากกว่า 1,854 แห่ง ครอบคลุม 76 จังหวัด ทั่วประเทศ สามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้เห็นผลอย่างชัดเจน ส่งผลให้เกิดการนำแบบอย่างที่ดี สู่
การขยายผล ไปยังสถานประกอบการ และหน่วยงานอื่น ๆ
มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ร่วมกัน ต่อยอดยกระดับสู่มาตรฐานในระดับสากล ซึ่งตัวอย่างสถานประกอบการ ที่ได้รับการรับรองระดับดีเยี่ยม G ทอง ในประเภทต่าง ๆ เช่น ร้าน โบ.ลาน ได้รับการรับรอง Green Restaurant เป็นร้านอาหารระดับ 5 ดาว ใช้แนวคิดที่ให้ความสำคัญ กับเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับหนึ่ง
ตั้งแต่การคัดแยกขยะจากต้นทาง ด้วยแนวคิด Zero Food Waste และ Upcycling เปลี่ยนของเสียมาใช้ประโยชน์ใหม่ ทำให้ขยะหมดไปโดยไม่ต้องรอรถขยะมาเก็บทุกวัน แม้แต่ก้านผักโหระพาก็มาใช้ปรุงกลิ่นน้ำดื่ม เพื่อใช้บริการในร้าน แนวคิดต่าง ๆ ถูกนำถ่ายทอดส่งต่อถึงพนักงานทุกคน สู่การปฏิบัติ
ส่วน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้รับการรับรอง Green Office ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2558 มุ่งมั่นการจัดซื้อสินค้า และบริการ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การจัดการขยะ โดยมีเป้าหมาย zero waste to landfill ปัจจุบันสามารถลดขยะได้ 90% คัดแยกขยะในสำนักงานได้ละเอียดกว่า 70 ประเภท
นอกจากนี้ ยังขยายผลเชิญชวนองค์กรพันธมิตร ชุมชนบนถนนรัชดาภิเษก ร่วมมือกันในการจัดการขยะภายใต้โครงการ Care the Whale ขยะล่องหน ขับเคลื่อนการจัดการสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน
ขณะที่ โรงแรม Sivatel ได้รับการรับรอง Green Hotel เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว โรงแรมใหญ ที่มุ่งหน้าสู่ความยั่งยืน การบริหารจัดการโรงแรม ใช้แนวคิดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ใส่ใจเรื่องพนักงาน วัตถุดิบอาหารที่ปลอดภัย ลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้น 12,000 กิโลกรัมต่อวัน ได้เกินกว่าครึ่งหนึ่ง และปลูกจิตสำนึกผู้มาใช้บริการให้สำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม
ร้าน MATA COTTON จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับการรับรอง Green Product ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน ในการผลิต ฟอกย้อม ทอ และแปรรูปสิ่งทอ มีนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและมีการดำเนินงานชัดเจนเป็นรูปธรรม อีกทั้งยังได้พัฒนาการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพ ลดการใช้น้ำ และลดการใช้สีย้อมเกินความจำเป็นในกระบวนการผลิต
การจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดี ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชน
Goldy Herb บริษัท จี เอซ ซัพพลาย จำกัด กรุงเทพมหานคร อีกผลิตภัณฑ์ธรรมชาติจากสบู่สมุนไพร ที่ได้รับการันตีด้วยการรับรอง Green Product รางวัล G ทอง ในปี 2564 มีการกำหนดนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม และดำเนินการตามเป้าหมายที่ชัดเจน ควบคุมคุณภาพผลิตตามมาตรฐาน มีระบบการจัดการน้ำเสียจากกระบวนการผลิต และป้องกันผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม และมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการผลิตสู่มาตรฐานสากล
ปลัด ทส. กล่าวทิ้งท้ายว่า การให้ความรู้ สร้างความตระหนักตั้งแต่ผู้บริหารจนถึงพนักงานทุกระดับ ให้เห็นถึงความสำคัญการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการผลิตและการบริการ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เน้นส่งเสริมการมีส่วนร่วม ในทุกระดับ ถือเป็นหัวใจสำคัญต่อผลสำเร็จในการขับเคลื่อนงาน G-Green ทิศทางการเปลี่ยนแปลงสู่วิถีใหม่ จึงเป็นวิถีที่ไม่ละเลยความรับผิดชอบต่อสังคม และส่วนรวม เป็นการเพิ่มภาพลักษณ์องค์กรในการเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อม
การเพิ่มโอกาสการเข้าถึงและขยายตลาดสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้กับผู้บริโภค และที่สำคัญสามารถลดต้นทุนจากการใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม โทรศัพท์ 0 2298 5653, 0 2278 8400 ต่อ 1661 หรือทาง Facebook Fanpage กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม และ เว็บไซต์กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม www.deqp.go.th
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ชิงเงินแสน! ‘กรมส่งเสริมคุณภาพและสิ่งแวดล้อม’ ชวนประกวดคลิปวิดีโอ ‘วันคุ้มครองโลก’
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม! โค้กปรับใช้ ‘ขวดพลาสติกรีไซเคิล 100%’ ในสหรัฐ
- โครงการผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชน แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและได้พลังงาน