ปมทุจริตถุงมือยาง ร้อนฉ่ากลางสภา “จุรินทร์” โต้ข้อกล่าวหา ยันไม่เกี่ยวข้อง ลั่นจัดการคนโกงถึงที่สุด ทุกทาง พร้อมโชว์ไทม์ไลน์จัดการคนทุจริต
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ปมทุจริตถุงมือยาง ของ องค์การคลังสินค้า (อคส.) ที่นายประเสริฐ จันทรวงทอง ส.ส.จังหวัดนครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ตั้งประเด็นซักฟอก โดยยืนยันหนักแน่น ว่า ขอปฏิเสธ และไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้องยุ่งเกี่ยว กับโครงการการดำเนินการ แต่อย่างใดทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นแบบทางการ ไม่เป็นทางการ หรือแอบสั่งการในที่ลับ ที่แจ้งใด ๆ ก็ตาม
นายจุรินทร์กล่าวว่า ผู้อภิปรายโกหกหลายประการ ในที่ประชุมสภาฯ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การไม่ตั้งกรรมการสอบ การอายัด การดำเนินคดี การดำเนินการเมื่อทราบเรื่อง และการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ซึ่งทั้งหมดตนได้ดำเนินการการโดยทันทีที่ทราบ
นอกจากนี้ ยังได้ประสานงานเรื่อง ย้ายอดีตรักษาการ ผอ.อคส. ไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยคำสั่งนายกรัฐมนตรี และเรื่องนี้ ตนจะไม่ยอม ไม่ว่าใครทุจริตโครงการ จะจัดการทั้งทางวินัย ทางแพ่ง ทางอาญา จนถึงที่สุด ตราบที่หน้าที่และกฎหมายให้อำนาจ
นายจุรินทร์ได้โชว์ไทม์ไลน์ การจัดการกรณีถุงมือยางเทียม ของ อคส. ดังนี้
วันที่ 14 ก.ย. 2563 ตรวจสอบการทุจริต ได้ทำการสั่งย้าย พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ อดีตรักษาการ ผอ.อคส.
วันที่ 15 ก.ย. 2563 มีการตั้งคณะกรรมการสอบทันที
วันที่ 17 ก.ย. 2563 ได้มีการระงับการซื้อขาย
วันที่ 18 ก.ย. 2563 นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการ อคส.คนใหม่ได้เข้าแจ้งความต่อทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
วันที่ 23 ก.ย. 2563 เข้าแจ้งความต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.)
วันที่ 19 ต.ค. 2563 ปปช.เรียกสอบปากคำ
วันที่ 21 ต.ค. 2563 ดีเอสไอส่งมอบสำนวนให้ ปปช.
วันที่ 29 ต.ค. 2563 ปปช.มีมติอายัดบัญชีเงิน 2,000 ล้าน
นายจุรินทร์ชี้แจงอีกว่า อคส.เป็นรัฐวิสาหกิจ ไม่ใช่ส่วนราชการ ที่รัฐมนตรีจะมีอำนาจไปสั่งการทางนโยบายได้ แต่ อคส. มีกฎหมาย มี ผอ. มีกรรมการ หรือบอร์ดกำกับดูแล คนที่มีหน้าที่วางนโยบายให้ อคส.ไปปฏิบัติ คือ บอร์ด และให้อำนาจบอร์ดเป็นผู้แต่งตั้ง ถอดถอน ผอ. โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดย ครม. มีหน้าที่แต่งตั้งบอร์ด หรือถอดถอนบอร์ด ออกจากตำแหน่ง ไม่ใช่รัฐมนตรี
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า รัฐมนตรีมีอำนาจจำกัด ตามพระราชกฤษฎีกา อคส.ฉบับใหม่ พ.ศ.2535 ที่เอารัฐมนตรีออกจากการเป็นประธานบอร์ด เพราะเดิมรัฐมนตรีเป็นประธานบอร์ด แต่เอารัฐมนตรีออก และให้ผู้ทรงคุณวุฒิเป็นประธานบอร์ด เพื่อให้ผู้มีความรู้ความชำนาญทางธุรกิจ มาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ เพื่อแยกการบริหารกิจการของ อคส. ออกจากการเมือง
“รัฐมนตรี มีอำนาจควบคุมดูแลโดยทั่วไป ไม่ใช่สั่งปฏิบัติราชการเหมือนกรมที่ดูแล จึงมีอำนาจเรียกบอร์ด ผอ. หรือบุคคลใน อคส. มาชี้แจง แสดงความคิดเห็น หรือให้รายงาน นี่คืออำนาจรัฐมนตรี”นายจุรินทร์ กล่าว
ส่วนเรื่องที่จะเสนอ ครม. ให้บอร์ดเสนอผ่านรัฐมนตรี ไปยัง ครม. เพื่อพิจารณาตัดสิน แปลว่า รัฐมนตรี คือ บุรุษไปรษณีย์ โดยให้รัฐมนตรีเป็นตัวผ่านนำเรื่องเข้า ครม. และตามกฎหมาย ให้บอร์ดรายงานเสนอรัฐมนตรีปีละ 1 ครั้งว่าทำไมออกนโยบายและมีนโยบายอะไรบ้าง สรุปรัฐมนตรีมีอำนาจจำกัด บอร์ดมีนโยบายอย่างไรแล้ว รัฐมนตรีจะไปสั่งให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงมิได้
สำหรับ การทุจริตจัดซื้อถุงมือยาง 500 ล้านกล่อง มูลค่า 112,500 ล้านบาท เกิดขึ้นในช่วงที่ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ เป็นรักษาการผู้อำนวยการ อคส. เมื่อเดือน ส.ค. 2563 โดยได้ทำสัญญากับ การ์เดียนโกลฟส์ ผู้ผลิต และผู้ซื้อถุงมือยางจาก อคส. เพื่อไปขายต่ออีก 7 ราย และได้นำเงินของ อคส. 2,000 ล้านบาท จ่ายให้การ์เดียนโกลฟส์เป็นค่ามัดจำสินค้า ทำให้อคส. ได้รับความเสียหาย
ต่อมา ได้ถูกนำมาอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยระบุว่า นายจุรินทร์ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต และมีการเปิดเผยแผนผังผู้ที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ตามผังชี้ว่า นายจุรินทร์เป็นผู้กำกับดูแล มีผู้ที่เกี่ยวข้อง คือ นายสุชาติ เตชจักรเสมา ประธานกรรมการ อคส., พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ อดีตรักษาการ ผอ.อคส., นายเกียรติขจร แซ่ไต๋ ผอ.ฝ่ายขาย อคส., นายศรายุทธ สายคำมี คนสนิท ประธานบอร์ด อคส. และมีบริษัทเอกชนเกี่ยวข้องที่เป็นผู้ขายและผู้ซื้อรวม 8 ราย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- แฉทุจริตถุงมือยาง ‘เพื่อไทย’ ซัด ‘จุรินทร์’ ตั้งคนสนิท คุม อคส. ทำสัญญาลวง
- ทุจริตถุงมือยาง แสนล้าน ‘จุรินทร์’ ลั่น เอาผิดถึงที่สุด ไม่ว่าจะใหญ่มาจากไหน
- อคส.ฉาวโฉ่! สอบข้อเท็จจริงซื้อถุงมือยาง – ผงะพบอีก ‘2 นักบริหารระดับ 8’ ร่วมทุจริต
