COVID-19

แฉทุจริตถุงมือยาง ‘เพื่อไทย’ ซัด ‘จุรินทร์’ ตั้งคนสนิท คุม อคส. ทำสัญญาลวง

แฉทุจริตถุงมือยาง เพื่อไทย จัดหนัก จุรินทร์ ละเลยให้เกิดการทุจริต ตั้งคนสนิทคุมบอร์ด อคส. ทำสัญญาลวง เร่งเซ็นสัญญาซื้อจาก การ์เดียนโกลฟ์

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย เปิดฉากอภิปรายไม่ไว้วางใจ วันที่ 3 แฉทุจริตถุงมือยาง โดยกล่าวหาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กรณีปล่อยปะละเลย ให้เกิดการทุจริตการจัดซื้อถุงมือยาง ขององค์การคลังสินค้า(อคส.)

ถุงมือยาง

นายประเสริฐ กล่าวอภิปรายว่า การทุจริตจัดซื้อถุงมือยางของ อคส. จำนวน 500 ล้านกล่อง วงเงิน 112,500 ล้านบาท มีการแบ่งแยกหน้าที่กันทำ โดยมีตัวละครสำคัญคือ นายสุชาติ เดชจักรเสมา ประธานกรรมการอคส. ซึ่งเป็นคนสนิทนายจุรินทร์ และอดีตผู้ช่วยนายบัญญัติ บรรทัดฐาน

ทั้งนี้พบว่า นายสุชาติ มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ โดยแจ้งต่อ ป.ป.ช. มีรายได้ 5แสนบาทต่อปี แต่มีทรัพย์สิน 170 ล้านบาท มีนาฬิกาปาเต๊ะหลายเรือน ทำให้เห็นว่า ความสัมพันธ์ของรายได้กับทรัพย์สิน ไม่สัมพันธ์กัน

นอกจากนี้ ยังมีตัวละครสำคัญคือ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยารัตน์ อดีตรักษาการ ผอ.อคส. นายศรายุทธ์ สายคำมี อดีตผู้สื่อข่าว และคนสนิทประธาน อคส. นายธณรัสย์ หัดศรี กรรมการบริษัท การ์เดียนโกลฟ์ จำกัด ที่เคยมีประวัติคดีฉ้อโกงหลายคดี

เปิดจุดเริ่มต้นสัญญาลวง ถุงมือยาง 2 พันล้าน

จุดเริ่มต้นของกรณีนี้ มาจากคนสนิทประธาน อคส. มีหนังสือถึงนายรุ่งโรจน์ วันที่ 25ส.ค. 2563 ระบุว่า มีบริษัท เคเนตลอว์ออฟฟิศ ขอซื้อถุงมือยางจาก อคส. เพื่อนำไปส่งให้ประเทศสหรัฐ และยุโรป จำนวน500 ล้านกล่อง ราคากล่องละ 230 บาท อคส. จึงมีการเจรจากับบริษัท การ์เดียนโกลฟ์ จำกัด ผู้ผลิตถุงมือยาง เสนอขายถุงมือยาง 500 ล้านกล่อง ราคากล่องละ 225บาท แต่ขอให้ชำระเงินล่วงหน้าก่อน 2000 ล้านบาท

หลังจากที่บริษัท การ์เดียนโกล์ฟ เสนอตัวขายถุงมือยางให้ อคส. แล้ว อคส. ยังได้ไปทำสัญญาขายถุงมือยางให้ 7 บริษัท จำนวน 826 ล้านกล่อง ราคากล่องละ 220 บาท รวมมูลค่า 186,100ล้านบาท โดยทั้ง 7 บริษัท ล้วนไม่ใช่บริษัทที่มีวัตถุประสงค์ทำธุรกิจถุงมือยาง และไม่มีการเรียกหลักประกันการซื้อขาย

จากการตรวจสอบพบว่า มีถึง 3สัญญา ที่ทำสัญญาลวง เพื่อสร้างข้อมูลเท็จ ว่ามีคำสั่งซื้อจาก 3บริษัท จำนวน 652 ล้านกล่อง 149,000ล้านบาท เพื่ออ้างว่า อคส. มีความจำเป็นเร่งด่วน ต้องจัดหาถุงมือยางจำนวนมาก เพื่อไปขายให้ 3 บริษัทเหล่านี้ ตามออเดอร์ที่สั่งมา จึงจำเป็นต้องเร่งเซ็นสัญญากับบริษัท การ์เดียนโกลฟ์ จำกัด อย่างรวดเร็ว

ประเสริฐ จันทรรวงทอง

 

ทั้งนี้ มีข้อมูลจาก กมธ.พาณิชย์ สภาผู้แทนราษฎร ตั้งข้อสังเกตว่า มีการนำชื่อบริษัทมาอ้าง เพื่อเป็นกลอุบายการทำสัญญาเท่านั้น โดยหลังจากทำสัญญาขายถุงมือยางให้ 7 บริษัทแล้ว อคส. รีบเร่งทำสัญญาจ้างบริษัท การ์เดียนโกล์ฟ ผลิตถุงมือยาง เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2563 จำนวน 500 ล้านกล่อง มูลค่า 112,500 ล้านบาท

ขณะที่ รายละเอียดการทำสัญญากับ บริษัท การ์เดียนโกล์ฟนั้น มีความน่าสงสัย คือ อคส.ต้องชำระเงินล่วงหน้า 2,000 ล้านบาทให้ผู้ขายภายใน 3 วัน นับจากวันทำสัญญา และในสัญญาข้อ 7 ระบุว่า ให้ผู้ขายวางหลัก ประกันสัญญา 200 ล้านบาท มามอบให้อคส.ภายใน 7 วัน

ดังนั้น จึงเท่ากับว่า เมื่อบริษัท การ์เดียนโกล์ฟ รับเงินจาก อคส. ไป 2,000 ล้านบาทแล้ว ก็นำเงิน 200 ล้านบาท มาทอนคืนให้ อคส. เป็นค่าหลักประกันสัญญา และยังเหลือเงินทอนอีก 1,800 ล้านบาท ผิดวิสัยการค้าที่ไม่มีใครทำกัน

อีกทั้งสัญญาข้อ 1 ยังระบุว่า เป็นการซื้อถุงมือยางไนไตร แต่สัญญาข้อ 10 บอกให้ผู้ขายส่งมอบถุงมือยางไนไตร และถุงมือยางลาเท็กซ์ ทั้งที่ 7 บริษัทที่สั่งซื้อถุงมือยางจาก อคส. ไม่ได้สั่งถุงมือยางลาเท็กซ์

ตั้งคำถาม จ่ายเงินทั้งที่ยังไม่ได้รับสินค้า

“นี่คือเหตุผลที่กล่าวหาว่า การทำสัญญาซื้อขายถุงมือยางเป็นสัญญาลวง ฉากบังหน้า เพื่อนำเงิน 2,000 ล้านบาท ของ อคส. ออกจาก อคส. ซึ่งสัญญาดังกล่าว อคส. เสียเปรียบอย่างยิ่ง เพราะจ่ายเงินก่อนทั้งที่ยังไม่ได้รับสินค้า ถือเป็นสัญญาอัปยศ ไม่มีใครหน้าโง่ทำสัญญาแบบนี้”นายประเสริฐ กล่าว

ขณะเดียวกันยังพบว่า สัญญามีข้อพิรุธหลายประการ เพราะบริษัท การ์เดียน โกล์ฟฯ เพิ่งจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2563 ก่อนหน้าทำสัญญาแค่ 2 เดือน มีทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท ไม่มีประสบการณ์ผลิตถุงมือยาง แต่สามารถทำสัญญามูลค่า 112,500 ล้านบาทได้ อีกทั้งนายธณรัสถ์ หัดศรี กรรมการบริษัท เคยต้องคดีอาญา ฐานฉ้อโกงถึง 5 คดี

นายประเสริฐ ยังตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า อคส. ทำสัญญาจ้างผลิตถุงมือยางราคากล่องละ 225บาท แต่เอาไปขายให้ 7 บริษัท ในราคาขาดทุน กล่องละ 210 บาท จะทำไปทำไม และจะหาถุงมือยางจากไหน ถึงจะได้ครบ เพราะคำสั่งซื้อถุงมือยางจาก 7 บริษัท จำนวน 826ล้านกล่อง แต่กำลังการผลิตถุงมือยางในประเทศ มีไม่เกิน 300 ล้านกล่อง

“ขณะนี้เงิน 2,000 ล้าน ได้หายไปจากบัญชีของ อคส. ถือว่าเป็นการกระทำการทุจริตอย่างหน้าด้าน ไร้ยางอาย ปล้นชาติ จึงไม่อาจไว้วางใจให้นายกฯ และนายจุรินทร์ บริหารราชการแผ่นดินต่อไป”นายประเสริฐ กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo