ผลการศึกษาชี้ บริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีในกัมพูชาได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก แรงหนุนจากอัตราการใช้สมาร์ทโฟนในประเทศที่เพิ่มสูง
รายงานวิจัยเมื่อเร็วๆ นี้เกี่ยวกับระบบนิเวศด้านเทคโนโลยีของกัมพูชา แสดงให้เห็นว่า ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีของกัมพูชา กำลังเฟื่องฟูอย่างมาก ซึ่งในปี 2561 มีสตาร์ทอัพกลุ่มนี้อย่างน้อย 12 ราย ที่ได้นักลงทุนแล้ว
เทคโนโลยีด้านการเงิน หรือฟินเทค กลายเป็นภาคธุรกิจที่ได้รับความนิยมมากสุด ด้วยจำนวนสตาร์ทอัพที่ทำธุรกิจอยู่ 50 ราย โดยมีสื่อดิจิทัล และโฆษณา ตามมาเป็นอันดับ 2 ที่กว่า 40 ราย ส่วนอีคอมเมิร์ซ และโลจิสติกส์ บริการพัฒนา และรูปแบบการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ มีสตาร์ทอัพทำธุรกิจอยู่ในแต่ละธุรกิจราว 30 ราย
ปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้เทคสตาร์ทอัพในกัมพูชา กลายเป็นธุรกิจที่มีอนาคตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึง จำนวนประชากรที่มีอายุน้อย มีสัดส่วนการใช้สมาร์ทโฟนมากกว่า 50% ของประชากรทั้งประเทศ และความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษของประชากรในประเทศที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งค่าบริการการใช้ดาต้าก็มีราคาถูก
ปัจจุบัน เทคสตาร์ทอัพหมายเลข 1 ของกัมพูชา คือ บุ๊คมีบัส (BookMeBus) แอพพลิเคชันที่เปิดทางให้ค้นหาการต่อรถประจำทางได้อย่างง่ายดาย
ยิ่งไปกว่านั้น กัมพูชายังมีกฎข้อบังคับการคุมกระแสเงินทุนน้อย เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคนี้ ทั้งยังมีการเปิดห้องทดลองนวัตกรรมใหม่ และรัฐบาลมีเงินทุนอุดหนุนมากกว่า 10 ล้านดอลลาร์ สำหรับการสนับสนุนนวัตกรรมเทคโลยี
นายเฮง ชัน ปัญหะวุธ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่การเงินบุ๊คมีบัส กล่าวว่า เทคสตาร์ทอัพของกัมพูชายังมีจำนวนจำกัด หากเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านรายต่างๆ
“ถ้าหากสามารถเชื่อมต่อธุรกิจเข้ากับเทคสตาร์ทอัพได้ ก็จะทำให้ธุรกิจมีศักยภาพ และโอกาสขนาดใหญ่อย่างมากในกัมพูชา”
นายเฮง บอกด้วยว่า ปัญหาที่มีอยู่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีกัมพูชา รวมถึง การขาดข้อมูล ความยากลำบากในการเข้าถึงข้อมูล และทรัพยากรบุคคล ทั้งความสนใจต่อนิชมาร์เก็ตยังมีจำกัด
ที่มา: The Phnom Penh Post
