คนไม่มีสมาร์ทโฟนแห่ลงทะเบียนแล้ว 218,344 คน โดยเปิดให้ลงทะเบียนผ่านสาขา “กรุงไทย” และจุดบริการ จนถึงวันที่ 5 มีนาคม 2564 พร้อมเช็ค วิธียืนยันตัวตนเราชนะ ที่นี่!!
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษก กระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าของการเปิดรับลงทะเบียนโครงการเราชนะ สำหรับประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เช่น ไม่สามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต ไม่มีสมาร์ทโฟนทำให้ไม่สามารถใช้งานแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ หรือผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง รวมถึงผู้ที่ลงทะเบียนด้วยตนเองไม่สำเร็จเนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลไม่ถูกต้อง โดยในสองวันแรกมีประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้ว จำนวน 218,344 คน (ข้อมูล ณ เวลา 17.00 น. ของวันที่ 16 ก.พ.)
ทั้งนี้ ประชาชนที่อยู่ในกลุ่มดังกล่าวที่สนใจและประสงค์จะสมัครเข้าร่วมโครงการ ต้องนำบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด (Smart Card) ไปลงทะเบียนที่สาขาหรือจุดบริการเคลื่อนที่ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ด้วยตนเอง ไม่สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทนได้ เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อยืนยันตัวตน อันจะเป็นการรักษาผลประโยชน์ของผู้ลงทะเบียนเอง และป้องกันไม่ให้มีการสวมสิทธิ์ โดยสามารถลงทะเบียนเพื่อขอคัดกรองคุณสมบัติได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 5 มีนาคม 2564 และไม่มีการจำกัดจำนวนสิทธิ์
นอกจากนี้ ธนาคารกรุงไทยได้จัดระบบการลงทะเบียนโครงการ ที่สาขาจำนวน 1,023 แห่งทั่วประเทศและจุดบริการเคลื่อนที่จำนวน 871 จุดทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่มีความประสงค์จะลงทะเบียน โดยแต่ละสาขาหรือจุดบริการจะแจกบัตรคิวลงทะเบียนตามจำนวนประชาชนที่สามารถรองรับได้สูงสุดในแต่ละวัน
ส่วนประชาชนที่เข้ามาติดต่อขอลงทะเบียนที่เกินจากจำนวนนั้น ธนาคารจะแจกบัตรคิวและนัดหมายเพื่อให้มาลงทะเบียนในวันหลัง โดยจะระบุวันและเวลาที่แน่นอน นอกจากนี้ กระทรวงการคลังได้ขอความร่วมมือกระทรวงมหาดไทยดำเนินการประชาสัมพันธ์เชิงรุกแจ้งข่าวสารของโครงการฯ ให้ประชาชนรับทราบโดยทั่วกัน
สำหรับประชาชนในกลุ่มผู้มีแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และกลุ่มที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ตรวจสอบสถานะแล้วพบว่าไม่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติสามารถยื่นขอทบทวนสิทธิ์ ทางเว็บไซต์ดังกล่าวได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 8 มีนาคม 2564 โดยผู้ที่ยื่นขอทบทวนสิทธิ์ระหว่างวันที่ 8 – 21 กุมภาพันธ์ 2564 จะทราบผลการทบทวนสิทธิ์ในวันที่ 4 มีนาคม 2564 และผู้ที่ยื่นขอทบทวนสิทธิ์ระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ – 8 มีนาคม 2564 จะทราบผลการทบทวนสิทธิ์ในวันที่ 19 มีนาคม 2564
ทั้งนี้ ผู้ที่ไม่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติ เนื่องจากมีเงินได้พึงประเมินในปีภาษี 2562 เกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของปีภาษี 2563 ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตของกรมสรรพากรภายใน 7 วัน นับแต่ยื่นขอทบทวนสิทธิ์ แต่ต้องไม่เกินวันที่ 8 มีนาคม 2564
อย่างไรก็ดี ผู้ที่ยื่นขอทบทวนสิทธิ์ระหว่างวันที่ 8 – 9 กุมภาพันธ์ 2564 จะต้องยื่นแบบฯ ภายในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 โดยผู้ที่ยื่นขอทบทวนสิทธิ์เนื่องจากมีเงินได้พึงประเมินในปีภาษี 2562 เกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนดและยื่นแบบฯ แล้ว จะสามารถทราบผลการคัดกรองได้ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564
ที่ผ่านมากระทรวงการคลังพบว่า มีประชาชนหรือร้านค้า และผู้ให้บริการรายย่อยที่ใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ผิดวัตถุประสงค์ของโครงการ โฆษกกระทรวงการคลัง จึงขอความร่วมมือร้านค้า ผู้ให้บริการรายย่อยและประชาชนปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขของโครงการ ซึ่งกระทรวงการคลัง ได้ประสานขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการติดตาม ตรวจสอบ และดำเนินการทางกฎหมายในประเด็นดังกล่าวแล้ว
ทั้งนี้ หากตรวจสอบพบว่ามีการกระทำผิดเงื่อนไขจริง จะระงับการใช้เครื่องรูดบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (เครื่อง EDC) หรือแอปพลิเคชันของร้านค้าและผู้ให้บริการรายย่อย ตลอดจนการจ่ายเงินให้กับร้านค้าและผู้ให้บริการรายย่อยทันที และอาจดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สำหรับ ร้านค้าโครงการธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น ร้านค้าในโครงการคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการ รวมถึงผู้ประกอบการ/ร้านค้าและบริการที่เข้าร่วมโครงการฯ ที่ถูกระงับใช้เครื่อง EDC หรือแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” สามารถติดต่อและให้ข้อมูลได้ที่สาขาของธนาคารกรุงไทยหรือส่งข้อมูล รวมถึงชื่อสถานประกอบการ ชื่อและนามสกุลของเจ้าของสถานประกอบการ หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (ถ้ามี) หมายเลขประจำตัวประชาชนของเจ้าของสถานประกอบการ และหมายเลขเครื่อง EDC (ถ้ามี) และหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้ มาที่ [email protected] โดยเร็วเพื่อให้กระทรวงการคลังดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนสำเร็จ สามารถกดยืนยันตัวตน “เราชนะ” ผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” เพื่อรับวงเงินเราชนะ 7,000 บาทง่าย ๆ ได้ดังนี้
ติดตั้งแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง”
1. เปิดแอปฯ APP Store หรือ Google Play หรือ Play Store รองรับโทรศัพท์ที่ใช้ Android 5.0+ ขึ้นไป หรือ iPhone ที่มี iOS 9.0+ ขึ้นไป
2. พิมพ์ค้นหา “เป๋าตัง” ในช่องค้นหา
3. เลือก “GET” หรือ เลือก “ติดตั้ง”
4. ระบุ เบอร์มือถือ
5. ยืนยัน OTP 6 หลักที่ได้รับจาก SMS ตามเบอร์ที่กรอกในหน้าแรก
6. กดเลือกยอมรับเงื่อนไขการใช้บริการ และกด ตกลง
7. ระบุ PIN เป็นตัวเลข 6 หลักเป็นรหัสที่ต้องใช้ในการทำรายการทุกครั้ง
8. ยืนยันการตั้งค่ารหัส PIN 6 หลัก
9 . ผูกบัญชี หรือเปิด G-Wallet โดยคลิกที่เมนู G-Wallet ตามภาพวิธีดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง
ยืนยันตัวตนเพื่อขอรับสิทธิ
1. เลือก G-Wallet เพื่อยืนยันตัวตน
2. เลือกเข้าใช้งาน G-Wallet เพื่อยืนยันตัวตน
3. ยอมรับข้อตกลงการให้ข้อมูล และการให้ความยินยอมข้อมูลส่วนบุคคล
4 .ยืนยันด้วยบัตรประชาชน (กรณียืนยันด้วย Krungthai NEXT ต้องทำการระบุ PIN 6 หลัก และข้ามไปขั้นตอนที่ 6)
5. สแกนและกรอกข้อมูลบัตรประชาชน
6. ยืนยันรหัส OTP (กรณียืนยันด้วย Krungthai NEXT ข้ามไปขั้นตอนที่ 8)
7. สแกนใบหน้า
8. ยืนยันตัวตนสำเร็จ จะแสดงหน้า Home G-Wallet
วิธียืนยันตัวตนเราชนะ ผ่านแอปฯ “เป๋าตัง”
1. เลือกเมนูเราชนะ
2. ยอมรับเงื่อนไขวิธียืนยันตัวตนผ่านแอปเป๋าตัง
3. เลือกจังหวัด ที่เราอยู่ปัจจุบัน
4. ยืนยันจังหวัดวิธียืนยันตัวตนผ่านแอปเป๋าตัง
5. ระบบจะเข้าสู่หน้า “เราชนะ”
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เช็คที่นี่!! เปิดวิธียืนยันตัวตน ‘เราชนะ’ ผ่านแอปเป๋าตังรับเงิน 7,000 บาท
- ไม่ต้องมาต่อคิว! ‘เราชนะ’ เตรียมบุกรับลงทะเบียน ‘คนแก่-ผู้พิการ’ ถึงที่บ้าน
- ‘พนักงานกรุงไทย’ ขอเล่าอีกมุม ‘ดราม่าเราชนะ’ รับมือคนเป็นพันต้องมีผิดพลาดบ้าง