“สิระ” ปูดโทรศัพท์จากดูไบ สั่งผู้นำฝ่ายค้านบรรจุญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ 10 รัฐมนตรี
รายงานข่าวเปิดเผยว่า ก่อนเข้าสู่วาระพิจารณาญัตติขอเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่ออภิปรายทั่วไปโดยลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล จำนวน 10 ราย ในวันนี้ (16 ก.พ.) ที่ประชุมได้ถกเถียงถึงเนื้อหาของญัตติดังกล่าวที่มีเนื้อหากล่าวถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคพลังประชารัฐ ยืนยันต่อการทำหน้าที่ประท้วงฝ่ายค้านที่อภิปรายพาดพิงถึงเรื่องดังกล่าว โดยการหารือประเด็นดังกล่าวใช้เวลายืดเยื้อ เกือบ 1 ชั่วโมง
บรรยากาศตึงเครียดตั้งแต่แรก โดยนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ขอให้ฝ่ายค้านอ่านข้ามข้อความในญัตติฯ เนื่องจากมีบางถ้อยคำพาดพิงสถาบัน ซึ่งอาจจะเกิดปัญหาทำให้การอภิปรายฯ ไม่ราบรื่น
ด้านนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า ในการที่ประชุมตรวจสอบญัตติร่วมกันนั้น นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้าน ได้รับปากที่จะปรับแก้ไขถ้อยคำในญัตติ ตนก็ขอบคุณท่านไปแล้ว แต่พอออกจากห้องประชุมก็มีโทรจากดูไบ คนแดนไกล ไม่มีการแก้ไข และให้บรรจุญัตตินี้ให้ได้
ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงโดยยืนยันว่า ญัตติของพรรคฝ่ายค้านนั้นสามารถบรรจุสู่ระเบียบวาระได้ แต่ในวันที่ตนหารือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตนได้พูดกับนายสมพงษ์ ว่า ข้อความในญัตติที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นข้อกล่าวหารัฐบาลที่รุนแรง อยากให้ปรับปรุง เพราะเชื่อว่าข้อความที่ปรากฎ รัฐบาลไม่อยู่เฉย ต้องอธิบายและชี้แจงทำให้คนชี้แจงอาจตกเป็นจำเลย และผู้กล่าวหาอาจตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาได้ ดังนั้นตน ไม่อยากให้ฝ่ายใดตกเป็นจำเลยของสังคม ทำให้ผู้นำฝ่ายค้านฯ รับไปปรับปรุง ทั้งนี้ตนระบุด้วยว่าแม้ไม่แก้ ก็ยังจะบรรจุให้
“เพื่อไม่ให้ประท้วงโดยไม่จำเป็น ฝ่ายค้านมีสิทธิอ่านญัตติ เพราะเสนอเป็นญัตติมาแล้ว และรัฐบาลมีสิทธิชี้แจงเพราะเป็นคำกล่าวหา ทั้งนี้ในความสัมพันธ์ระหว่างอำนาจของฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติมีโครงสร้างตรวจสอบซึ่งกันและกันสำหรับการประชุมนั้น ต้องเปิดให้อภิปรายและชี้แจง หากรัฐบาลจะตอบเกิน 42 ชั่วโมงต้องให้ เพราะรัฐบาลไม่ถูกจำกัดเวลา ทั้งนี้การประชุมนั้นไม่ใช่ว่าใครโกหกเก่ง คนนั้นจะชนะ ดังนั้นอย่าทักท้วงให้เสียเวลาเพื่อให้กระบวนการของรัฐสภาเดินไปไม่ได้ ทั้งนี้การควบคุมเป็นหน้าที่ของประธานสภาฯ ที่จะวินิจฉัยและคำวินิจฉัยให้ถือเป็นที่สุด ดังนั้นขออย่าให้การทำงานมีปัญหา” นายชวน กล่าว
ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ฐานะผู้เสนอญัตติให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเนื้อหาของญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ชี้แจงยืนยันต่อการทำหน้าที่ประท้วงการอภิปรายที่อภิปรายถึงเนื้อหาที่ขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ คดียุบพรรคไทยรักษาชาติ กรณีส่งบัญชีรายชื่อที่สนับสนุนให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อทำหน้าที่และถือเป็นการเตือนด้วยความหวังดี ทั้งนี้หากตนถูกประธานห้ามประท้วง ตนจะประท้วงประธานถึงการทำหน้าที่ด้วย
อย่างไรก็ตาม ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน กล่าวสนับสนุนการทำหน้าที่ของประธานที่ประชุม ที่วินิจฉัยให้ยุติการอภิปรายในเนื้อหาที่วินิจฉัยแล้วว่าขัดข้อบังคับการประชุม
จากนั้นนายสมพงษ์ ได้อ่านญัตติ และมีการกล่าวถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำให้ถูกนายไพบูลย์ประท้วงว่า นายสมพงษ์ได้พูดถึงสถาบันพระมหากษัตริย์โดยไม่จำเป็น
อย่างไรก็ตามนายชวน ชี้แจงว่า นายสมพงษ์สามารถพูดได้ เป็นเพียงการอ่านญัตติเท่านั้น อย่างไรก็ตาม นายไพบูลย์ยังคงประท้วงต่อว่า หากให้นายสมพงษ์อ่านตามญัตติ จะเป็นการรับรองว่าถูกต้องโดยกฎหมาย แต่นายชวนยืนยันว่าฟังอยู่เหมือนกัน หากต่างจากญัตติจะไม่ให้พูดทันที จากนั้นการอภิปรายจึงดำเนินต่อไป
เวลา 10.35 น.นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฏร ได้ลุกขึ้นอ่านญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นรายบุคคล
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ตั้งวอร์รูมนอกสภาฯ จับตา ‘ฝ่ายค้าน-ก้าวไกล’ สกัด ‘ก้าวล่วงสถาบัน-ป้ายสีรมต.’
- ‘รุ้ง’ แกนนำม็อบเตรียมใจนอนคุก! จี้ปล่อยผู้ต้องหา ‘ม.112’
- ‘เพื่อไทย’ ตอกรัฐบาลกู้เงิน 1 ล้านล้าน แต่แก้ปัญหาไม่เป็น GDP ต่ำสุดรอบ 22 ปี