เปิดไทม์ไลน์ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกาใต้ รายแรกในไทย ชี้ไวรัสกลายพันธุ์แอฟริกาใต้ ทำประสิทธิภาพวัคซีนลดลง
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ล่าสุด พบชายไทย อายุ 41 ปี ติดเชื้อโควิด-19 โดย เดินทางกลับมาจากแอฟริกา และตรวจพบเชื้อโควิด สายพันธุ์แอฟริกาใต้ (South African Variant) มีโรคประจำตัวเป็น หืดความดันโลหิตสูง โดยทำธุรกิจรับซื้อพลอย ในแทนซาเนีย นาน 2 เดือน ระหว่างที่อยู่ในแทนซาเนีย ได้เข้าร่วมงานเลี้ยง โดยมีผู้เข้าร่วมงาน ไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย
สำหรับไทม์ไลน์ของผู้ป่วยรายดังกล่าว มีดังนี้
วันที่ 29 มกราคม เดินทางจากแทนซาเนียมาไทย โดยต่อเครื่องที่ เอธิโอเปีย คัดกรองอาการป่วย ณ ด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ สนามบินสุวรรณภูมิ ไม่มีไข้และอาการป่วย จากนั้น เดินทางไปกักตัวในสถานกักกันของรัฐ
วันที่ 3 กุมภาพันธ์ เก็บตัวอย่างส่งตรวจเชื้อโควิด ครั้งที่ 1 พบผลบวกติดเชื้อ
วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ส่งตัวไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลของรัฐ มีไข้ต่ำ ไอ รักษาในห้องแยกโรค
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ทีมสอบสวนโรค ส่งตัวอย่างตรวจระบบสายพันธุ์ของโควิด เนื่องจากเดินทางมาจากแอฟริกา เพื่อเฝ้าระวังสายพันธุ์ใหม่ ที่ศูนย์สุขภาพโรคอุบัติใหม่สภากาชาดไทย ซึ่งมีการถอดรหัสพันธุกรรม พบเป็นสายพันธุ์ South African Variant
ทีมสอบสวนโรค กรมควบคุมโรค ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบบริเวณสถานกักกันโรค และโรงพยาบาลที่เกี่ยวข้อง พบทุกคนที่เกี่ยวข้อง ใส่เครื่องป้องกันหรือชุด PPE โดยมีการตรวจเจ้าหน้าที่ 41 รายทุกคน ให้ผลลบทั้งหมด
ปัจจุบัน ไวรัสโควิด สายพันธุ์แอฟริกาใต้ ยังไม่มีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างในประเทศไทย โดยเป็นการตรวจพบจากผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศและเข้าสู่สถานกักกันของรัฐ เนื่องจากส่วนใหญ่ ระบาดอยู่ในแอฟริกายุโรป
อย่างไรก็ตาม ต้องมีการติดตาม และจับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสายพันธุ์นี้ ส่งผลต่อประสิทธิภาพวัคซีนที่อาจจะลดลง
สำหรับประเทศที่มีรายงานพบโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกาใต้ ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศแถบแอฟริกา ยุโรป ออสเตรเลีย และอเมริกา ได้แก่ แอฟริกาใต้ 735 ราย, สหราชอาณาจักร 131 ราย, เบลเยี่ยม 48 ราย, โมซ โมซัมบิก 41 ราย, บอสวานา 32 ราย, ฝรั่งเศส 31 ราย, เนเธอร์แลนด์ 31 ราย, มายอต 27 ราย, สวิสเซอร์แลนด์ 21 ราย, ออสเตรเลีย 15 ราย, เยอรมนี 10 ราย, ไอร์แลนด์ 10 ราย และสหรัฐ 8 ราย
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข จะวางแนวทางการคัดกรอง ผู้เดินทางจากประเทศ ที่มีเชื้อกลายพันธุ์ South African Variant ได้ปรับให้มีความไวมากขึ้น เช่น การเก็บตัวอย่างทันที ที่ถึงประเทศไทย คัดกรองผู้ที่มีอาการ และประวัติเสี่ยงเข้าโรงพยาบาลทันที รวมทั้งมีระบบเฝ้าระวังสายพันธุ์ใหม่ที่ทันเวลา ก่อนที่ผู้เดินทาง จะออกจากโรงพยาบาล
นพ.โอภาส กล่าวว่า การกลายพันธ์ุของเชื้อไวรัสโควิด-19 ต้องจับตา 3 ประเด็น ได้แก่
- การกลายพันธุ์แล้วทำให้แพร่เชื้อได้ง่ายขึ้น สายพันธุ์ที่กำลังจับตาดู คือ สายพันธุ์ของอังกฤษ ซึ่งเมื่อมีการติดเชื้อแล้ว จะแพร่ระบาดได้ง่ายขึ้นกว่าปกติ เป็นสาเหตุที่ทำให้ประเทศยุโรป และหลายประเทศมีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วมากขึ้น
- การกลายพันธุ์แล้ว ทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดน้อยลง ซึ่งขณะนี้สายพันธุ์ที่ทั่วโลกจับตาดู คือสายพันธุ์แอฟริกาใต้ ซึ่งมีข้อมูลเบื้องต้นพบว่า อาจทำให้วัคซีน มีประสิทธิภาพลดน้อยลง
- การกลายพันธุ์แล้วทำให้โรครุนแรงมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบว่า ไม่มีสายพันธุ์ไหนที่ทำให้โรครุนแรงมากขึ้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ติดโควิดทั่วโลก ทะลุ 109 ล้านราย ‘หมอธีระ’ จับตาโควิดกลายพันธุ์ 3 สายพันธุ์
- คลัสเตอร์ตลาดพรพิพัฒน์ ติดเชื้อ 182 ราย ลาม 8 จังหวัด แม่สอดยังพบผู้ป่วยเพิ่ม
- โควิดระบาดรอบใหม่ จากแรงงานเถื่อนทะลัก ผลโพลซัด เจ้าหน้าที่ ‘บกพร่อง’
