COVID-19

‘ห้องระบายอารมณ์’ ตัวช่วยชาวอเมริกัน คลายเครียด ‘โควิด’

เกือบ 1 ปีเต็มที่ชาวอเมริกัน และทั่วโลกเผชิญกับการถูกจำกัดบริเวณ และปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ช่วงการระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโควิด-19 และทำให้หลายคนประสบกับความเครียดจัด อยากจะลุกขึ้นมาทำโน่นทำนี่ หรือแม้กระทั่งอาละวาด เพื่อระบายอารมณ์อยู่ลึกๆ

เช่นเดียวกับ จอช อิโลฮิม ผู้บริหารในบริษัทประกัน บอกว่า ระหว่างที่เขากำลังจัดการเคลียร์เครื่องพิมพ์เอกสาร และสิ่งของต่าง ๆ จากกองข้าวของรก ๆ ในบ้าน ทำให้เขานึกย้อนถึงการที่เขาเคยสับท่อนไม้ เมื่อครั้งเขาอาศัยอยู่ที่นิวยอร์ก

shutterstock 1115755046

ที่เป็นเช่นนั้น เพราะตั้งแต่ฤดูหนาวปีที่แล้ว เขาและภรรยา ต้องกักตัวอยู่บ้านร่วมกับลูกอีก 4 คน อายุตั้งแต่ 4 ขวบถึง 17 ปี พวกเขาถึงกับต้องหาทางออก กับความเครียดที่ถาโถมนี้ ด้วยการปรึกษานักจิตบำบัด ด้านการแต่งงานและครอบครัว “ยาชิกา บัดดิ” ซึ่งให้คำแนะนำพวกเขาทั้งสอง ให้บำบัดความเครียดด้วยการทำลายข้าวของ ในห้องระบายแค้น หรือห้องระบายอารมณ์

สามีภรรยาคู่นี้ เป็นหนึ่งในชาวอเมริกัน ที่ใช้บริการห้องระบายอารมณ์ ซึ่งได้รับความนิยมมาก่อนการระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นแนวคิดการสร้างห้อง ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้เข้าไปทุบตีทำลายข้าวของภายในห้อง เพื่อปลดปล่อยความเครียด กดดัน ปวดร้าวภายในจิตใจ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สามารถทำร่วมกับเพื่อนฝูงได้

ในมุมมองของ บัดดิ นักจิตบำบัดที่มีประสบการณ์กว่า 13 ปี อธิบายว่า เธอเริ่มใช้ห้องระบายอารมณ์ ที่เธอเรียกว่า Smash RX เพื่อบำบัดอาการเครียด ของผู้เข้ารับการปรึกษามาเกือบ 2 ปีแล้ว และเป็นวิธีการบำบัดเครียดที่ดี ช่วงโควิดระบาดเช่นนี้ จากที่บางครั้งนักจิตบำบัดจะให้ทางเลือกผู้ที่เข้ามาปรึกษา ให้ไปเล่นโยคะ การทำ misting therapy หรือการบำบัดด้วยการใช้ไอน้ำ และคลื่นอัลตราไวโอเล็ตอ่อน ๆ การทำสมาธิ รวมถึงการใช้ห้องระบายอารมณ์

ทอม ดาลี เจ้าของ Break Bar หนึ่งในธุรกิจห้องระบายอารมณ์ ที่ดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี 2558 ในแมนฮัตตัน มหานครนิวยอร์ก บอกว่า ลูกค้าที่แวะมาที่นี่ ต่างบอกว่าเป็นการระบายอารมณ์ที่ดี และเป้าหมายของธุรกิจเขาคือ การสร้างความบันเทิงเท่านั้น

หลังจากการระบาดของโควิด-19 เขาพบว่ามีลูกค้าจองคิวเข้ามาใช้บริการห้องระบายอารมณ์นี้มากขึ้น ในระหว่างที่บาร์ และร้านอาหารของเขา ที่อยู่ใกล้ ๆ กัน ต้องปิดตัวในช่วงโควิด ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่าผู้คนต่างประสบกับความเครียดกันอย่างมาก

ขณะที่ธุรกิจห้องระบายอารมณ์ของบัดดิ ตั้งอยู่ที่เวสต์เลค วิลเลจ ในนครลอสแอนเจลิส โดยราคาเริ่มต้นของการเข้าไปทำลายข้าวของในห้องระบายอารมณ์นี้ เริ่มตั้งแต่ 50 ดอลลาร์ ไปจนถึง 100 ดอลลาร์ โดยสามารถหยิบค้อนใหญ่ ไม้กอล์ฟ ชะแลง และไม้เบสบอล มาทุบทำลายข้าวของต่าง ๆ ตั้งแต่ถ้วยชาม ขวดแก้ว ไปจนถึงคอมพิวเตอร์ เป็นเวลา 30 นาที

ในกรณีของการบำบัดนั้น บัดดิ จะเฝ้าติดตามพฤติกรรมการทำลายข้าวของในห้องของผู้เข้ารับการบำบัด ผ่านกล้องวงจรปิด เผื่อมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น

หลังการบำบัดเสร็จสิ้นลง บัดดิจะเข้าไปทำให้ผู้บำบัดอารมณ์เย็นลง และมีข้อมูลแนะนำในการควบคุมอารมณ์ให้ใจเย็นสงบลง และให้ทุกคนปรับตัว กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง หลังจากก้าวพ้นจากห้องระบายอารมณ์นี้ไปแล้ว

นักจิตบำบัดในลอสแอนเจลิสรายนี้ ได้บอกกับทุกคนที่ได้ใช้ห้องระบายอารมณ์นี้ว่า อย่ามัวแต่คิดวางแผนถึงอนาคตในเดือนหน้า ที่ยังมาไม่ถึง แค่กังวลถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในเดือนนี้ หรือวันนี้ก็พอ และเมื่อผ่านวันนี้ไปได้ ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับวันต่อไป และทุก ๆ วัน หลังจากนั้น

นักจิตบำบัดที่มีประสบการณ์กว่า 13 ปีรายนี้ หวังว่า นักบำบัดอาจเห็นประโยชน์จากการบำบัดรูปแบบนี้ในวงกว้างมากขึ้น แต่นักบำบัดทุกคนไม่ได้เห็นตรงกับบัดดิเท่าไรนัก

เควิน เบนเน็ตต์ นักจิตวิทยา และอาจารย์ด้านจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ระบุว่า เขาไม่เคยเห็นว่า นักจิตบำบัดรายใดจะแนะนำให้คนออกไปทำลายข้าวของในห้องระบายอารมณ์เช่นนั้น โดยเฉพาะกับคนที่มีแนวโน้มมีพฤติกรรมก้าวร้าว จะยิ่งทำให้การบำบัดไม่ได้ผล

เขามองว่าวิธีใช้ความรุนแรงระบายเครียดนั้น เหมือนกับการบำบัดคนติดการพนัน ด้วยการส่งเสริม หรือกระตุ้นให้คนไปเล่นการพนัน

เบนเน็ตต์ เพิ่มเติมว่า แนวคิดนี้อาจมีพื้นฐานมาการบำบัด ที่มีมากว่าร้อยปีก่อน ที่ให้คนปลดปล่อยความก้าวร้าว เกรี้ยวกราด ของตัวเองออกมา เพื่อให้รู้สึกดีขึ้น แต่การศึกษาช่วงทศวรรษ 60 พบว่า ผู้เข้ารับการบำบัดในรูปแบบนี้ แสดงความก้าวร้าวรุนแรง หลังเข้ารับการบำบัด เพราะพวกเขาเรียนรู้ว่า เป็นแค่การแสดงอารมณ์ออกมาเท่านั้น

ที่มา : VOA Thai

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo