ตลาดหุ้นสหรัฐ มีแนวโน้มที่จะเปิดตลาด วันอังคาร (10 เม.ย.) ด้วยการทะยานสูงขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ให้คำมั่นถึงการลดภาษีนำเข้า ช่วยบรรเทาความวิตกของนักลงทุนในเรื่องที่ว่าความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐ จะรุนแรงขึ้น
ในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งแรก นับแต่เกิดข้อขัดแย้งด้านการค้ากับรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐนั้น ผู้นำจีน ได้ให้คำมั่นถึงการเปิดเศรษฐกิจประเทศ พร้อมบอกว่า จีนจะขยายเพดาน เปิดให้ต่างชาติเข้ามาถือหุ้นในอุตสาหกรรมรถยนต์ ต่อเรือ และอากาศยานมากขึ้น อย่างเร็วสุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ถ้อยแถลงดังกล่าวของนายสี ช่วยหนุนตลาดหุ้นทั่วโลก ที่ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีน และสหรัฐ มาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งบรรดานักลงทุนต่างกังวลว่า มาตรการปกป้องทางการค้า อาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
นักวิเคราะห์ระบุด้วยว่า หุ้นสหรัฐจะเจอกับบททดสอบครั้งสำคัญในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า จากการที่บริษัทต่างๆ เริ่มรายงานผลประกอบการไตรมาสแรก โดยคาดว่า ผลกำไรของบริษัทที่จดทะเบียนในดัชนีหุ้นเอส แอนด์ พี 500 จะเพิ่มขึ้น 18.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งจะเป็นการทะยานขึ้นครั้งใหญ่สุดในรอบ 7 ปี
ตลาดยังจับตามองการเข้าให้ปากคำต่อสภาคองเกรสของนายมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอเฟซบุ๊ก ในวันที่ 10-11 เมษายนนี้