ฉลุย! ครม. ไฟเขียว BTS สร้างส่วนต่อขยาย “รถไฟฟ้าสายสีชมพู” เข้า “เมืองทองธานี” วงเงิน 4.2 พันล้าน คาดเปิดวิ่งเดือน ก.ย. 67
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (9 ก.พ.) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุน การออกแบบ และการก่อสร้างงานโยธา การจัดหาระบบรถไฟฟ้า การให้บริการการเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุง โครงการ รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี กรณีโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี
สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี เป็นข้อเสนอของบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) ผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนหลัก
แนวเส้นทางส่วนต่อขยายมีระยะทาง 3 กิโลเมตร มีจุดเริ่มต้นบนถนนแจ้งวัฒนะเชื่อมต่อกับสถานีศรีรัช (PK-10) ของโครงการส่วนหลัก ก่อนเลี้ยวขวาวิ่งเข้าสู่พื้นที่เมืองทองธานีไปตามถนนแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 39 ขนานกับทางพิเศษ (ทางด่วน) อุดรรัถยา ผ่านวงเวียนเมืองทองธานี ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานี MT-01 และวิ่งต่อเนื่องไปยังจุดสิ้นสุดโครงการบริเวณทะเลสาบเมืองทองธานี ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานี MT-02
การก่อสร้าง รถไฟฟ้าสายสีชมพู ส่วนต่อขยาย จะใช้ระยะเวลา 37 เดือน และสามารถเปิดให้บริการได้ในเดือนกันยายน 2567 กรอบวงเงินลงทุน 4,230 ล้านบาท มีผลตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจ (EIRR) 12.9% ผลตอบแทนด้านการเงิน (FIRR) 7.1% ประมาณการผู้โดยสาร ณ ปีที่เปิดให้บริการ 13,785 คน-เที่ยวต่อวัน
โดยหลังจากที่การแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนแล้วเสร็จ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะเจ้าของโครงการ จะดำเนินการจัดกรรมสิทธิ์ และการขอใช้พื้นที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งมอบให้ผู้รับสัมปทานดำเนินการก่อสร้างส่วนต่อขยายตามแผนงานต่อไป
สำหรับสาระสำคัญของการแก้ไขสัญญา รถไฟฟ้าสายสีชมพู ระหว่าง รฟม. และ NBM ประกอบด้วย ประเด็นเรื่องการปรับปรุงรูปแบบสถานีศรีรัช NBM ยอมรับในการดำเนินการก่อสร้างสถานีศรีรัช รวมทั้งส่วนปรับปรุงและรับผิดชอบค่าก่อสร้างที่เกิดขึ้น จากการเปลี่ยนแปลงงานทั้งหมด
ประเด็นเรื่องการจ่ายเงินค่าตอบแทนให้แก่ รฟม. ตามสัญญาร่วมลงทุน ทาง NBM ยังคงชำระค่าตอบแทนให้แก่ รฟม. ตามสัญญาโครงการส่วนหลัก และจะชำระผลตอบแทนเพิ่มเติมกรณีโครงการส่วนหลักและส่วนต่อขยายให้แก่ รฟม. โดยอ้างอิงปริมาณผู้โดยสารในสัญญาโครงการส่วนหลัก
ประเด็นอัตราค่าโดยสารและการปรับอัตราค่าโดยสาร ทาง NBM ยอมรับการกำหนดอัตราค่าโดยสาร และการปรับอัตราค่าโดยสารของโครงการส่วนต่อขยายให้สอดคล้องตามหลักการในสัญญาโครงการส่วนหลัก
ส่วนประเด็นเรื่องการดำเนินโครงการส่วนต่อขยาย จะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อระยะเวลาดำเนินการตามสัญญาโครงการ รถไฟฟ้าสายสีชมพู ส่วนหลัก ทาง NBM ยอมรับให้คงระยะเวลาดำเนินโครงการส่วนหลักในระยะที่ 1 และ 2 ตามสัญญาโครงการส่วนหลัก ถึงแม้จะมีการก่อสร้างของโครงการส่วนต่อขยาย
ประเด็นเรื่องการให้ รฟม. มีส่วนแบ่งผลตอบแทนจากการเชื่อมต่อกับอาคารและพื้นที่ของเมืองทองธานี NBM จะดำเนินการภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยต้องได้รับการอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรจาก รฟม. ก่อน และสิทธิในรายได้จากการพัฒนาเชิงพาณิชย์ รวมถึงการเชื่อมต่อเป็นไปตามสัญญาส่วนหลัก
ประเด็นผู้รับสัมปทาน มีหน้าที่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจากการดำเนินโครงการส่วนต่อขยาย ทาง NBM จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทั้งหมดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต จากการดำเนินโครงการส่วนต่อขยาย
รายงานข่าวเปิดเผยว่า NBM ผู้รับสัมปทาน รถไฟฟ้าสายสีชมพู เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง 3 บริษัทขนาดใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้แก่ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ถือหุ้นในสัดส่วน 75%, บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC สัดส่วน 15% และบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH สัดส่วน 10%
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ชาวนาเฮ! ครม. อนุมัติจ่ายเงินช่วยเหลือ ‘ค่าบริหารและพัฒนาข้าว’ อีกไร่ละ 500 บาท
- ครม. ไฟเขียว ‘ประกันราคาปาล์มน้ำมัน’ 8.8 พันล้าน รองรับกรณีราคาตกต่ำ
- คนกรุงโล่ง! รัฐบาลสั่งเหยียบเบรก เก็บค่าโดยสาร ‘รถไฟฟ้าสายสีเขียว’ 104 บาท