ตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา ข่าวการเข้ามาซื้ออสังหาฯของลูกค้าชาวจีน ปรากฎตามสื่อต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง และมีจำนวนไม่น้อยที่เข้ามาซื้อแบบเหมาฟลอร์ หรือแม้กระทั่งเหมาตึกไปขายต่อ โดยผ่านบริษัทตัวแทนขายชาวจีน ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯหลายราย ให้ความสำคัญกับตลาดจีน ถึงขั้นไปโรดโชว์ขายโครงการที่ประเทศจีน หลายคนอาจสงสัยจีนเข้ามาซื้ออสังหาฯไทยทำไม ต้องการย้ายมาอยู่ในประเทศไทยหรือ คำตอบที่ได้จากตัวแทนขายคือ เขาซื้อเพื่อการลงทุน และหวังผลกำไรจากการปล่อยเช่า หรือขายต่อ
ความเคลื่อนไหวนี้ กำลังถูกจับตามอง ในกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาฯด้วยกัน แม้กระทั่งตัวแทนขายเองลึกๆ ก็อดหวั่นใจไม่ได้ว่า ตลาดนักลงทุนจีน อาจสร้างปัญหาในอนาคตได้
นายวิทย์ กุลธนวิภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แคปปิตอล วัน เรียลเอสเตท จำกัด บริษัทที่ปรึกษาทางด้านอสังหาริมทรัพย์ ชั้นนำในเมืองไทย และผู้เชี่ยวชาญในการบริหารตลาดคอนโดมิเนียมในโซนสุขุมวิท กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศจีนมีบทบาทบนเวทีโลก โดยที่ประเทศไทยจะหลีกเลี่ยงการลงทุนจากประเทศจีนไม่ได้เลย
โดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่มีการเข้ามาลงทุนและซื้อโครงการที่อยู่อาศัย ซึ่งเติบโตจากภาคการท่องเที่ยวจากกลุ่มชาวจีนที่เข้ามาในไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโครงการคอนโดมิเนียม เป็นประเภทที่อยู่อาศัยที่ให้สิทธิ์ต่างชาติครอบครองได้ในสัดส่วนไม่เกิน 49% และถือเป็นมาตรการที่ช่วยป้องกันการเกิดฟองสบู่ ป้องกันการสร้างดีมานด์เทียม
อย่างไรก็ตาม สำหรับลูกค้าต่างชาติรายย่อย โดยเฉพาะลูกค้าชาวจีนที่มาซื้อโครงการของบริษัท จ่ายเงิน 30% แล้วยังคงมาโอนตามปกติ บางกรณีซื้อยกล็อตไปให้บริการเป็นโรงแรมก็มี
แต่มีข้อที่ควรเป็นกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เอเยนต์จีนเข้ามาซื้อเหมา เพื่อนำไปขายต่อ โดยชำระเงินเพียงบางส่วน และยังไม่ทราบว่าจะขายได้หมดจริงหรือไม่ รวมทั้งการโอนกรรมสิทธิ์ จะทำให้ตลาดเกิดความผิดปกติทางด้านดีมานด์ที่ไม่สะท้อนความเป็นจริง และทำให้ผู้พัฒนาโครงการต่างๆ ประเมินตัวเลขการขายจริงผิดพลาด
มีการเร่งเปิดโครงการเพราะหวังให้เอเจนต์มาซื้อเหมา และผลสุดท้าย จะทำให้เกิดห้องเหลือขาย เพราะเอเยนต์ขายได้ไม่หมด ทำให้เกิดห้องรอขายสะสมในตลาดมากขึ้นซึ่งเป็นผลเสีย
สิ่งที่ผมไม่เห็นด้วย จากประสบการณ์โอกาสขายไม่หมดก็ดี เหลือราว 10-15% กลายเป็นโอเวอร์ซัพพลาย กลายเป็นไขมันในตลาด
นายวิทย์ กล่าวว่า ตอนนี้เรากำลังไปมุ่งเรื่องการสร้าง Backlog แต่ไม่ได้เรื่องรายได้ จึงอยากให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ยกระดับมาตรฐานวิชาชีพนายหน้าและตัวแทน(โบรกเกอร์) ขายอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน เนื่องจากประเทศไทย ยังไม่มีการรับรองเรื่องกฎหมายด้วยการออกสิทธิบัตร หรือ ไลเซนส์ (License) ตัวแทนขายอสังหาฯ ซึ่งการมีไลเซนส์ จะช่วยแก้ปัญหาอย่างเช่น คนขายที่เป็นชาวจีนให้อยู่บนมาตรฐานเดียวกัน
