ตลาดอสังหาฯ ใจกลางลอนดอนให้ผลตอบแทนเพิ่มต่อเนื่อง ผู้ประกอบการคาดปี 64 มูลค่าพุ่ง 16.7% เตรียมเปิดขาย “เซาธ์ ทาวเวอร์ แอท วัน คราวน์ เพลส” เมืองไทยแห่งแรก 10-11 มี.ค.นี้
กลุ่มบริษัทอัลลอย เอ็มทีดี (AlloyMtd) ผู้ดำเนินด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก จากประเทศมาเลเซีย เตรียมเปิดขาย “เดอะ เซาธ์ ทาวเวอร์ แอท วัน คราวน์ เพลส” (The South Tower at One Crown Place) เรสซิเด้นซ์หรูภายในโครงการมิกซ์ยูส “วัน คราวน์ เพลส” ใจกลางลอนดอน โดยเปิดโอกาสนักลงทุนไทยเป็นแห่งแรกในเอเชีย วันที่ 10-11 มีนาคมนี้ ที่ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ
สำหรับ “วัน คราวน์ เพลส” โครงการมิกซ์ยูสหรู ตั้งอยู่บน “ซันสตรีท” (Sun Street) เขตอนุรักษ์ทางประวัติศาสตร์ของ กรุงลอนดอน ประกอบด้วย อพาร์ตเมนต์ที่อยู่อาศัย 246 ยูนิต, โรงแรมบูติค 5 ดาว, พื้นที่อาคารสำนักงานระดับพรีเมี่ยม ขนาด 130,007 ตารางเมตร, พื้นที่ร้านค้า 650 ตารางเมตร และระเบียงจอร์เจีย(Georgian Terrace) อันเก่าแก่ที่ได้รับการบูรณะมาอย่างต่อเนื่องและเป็นส่วนหนึ่งของตัวโครงการฯ โดยราคาเริ่มต้นที่ 39.5 ล้านบาท หรือ 888,000 ปอนด์ สำหรับห้องชุดประเภท 1 ห้องนอน ปัจจุบัน โครงการได้ดำเนินงานรื้อถอน งานก่อสร้าง ฐานราก และงานขุดเจาะชั้นใต้ดินเรียบร้อย คาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถเข้าอยู่ได้ภายในปี 2563
นายเฮนรี่ โรบินสัน กรรมการบริหารและพัฒนาโครงการ วัน คราวน์ เพลส เปิดเผยว่าหลังเปิดตัว “วัน คราวน์ เพลส” เมื่อสามสัปดาห์ก่อนได้รับความสนใจอย่างมาก ซึ่งชี้ให้เห็นว่า โครงการที่พัฒนาขึ้นตอบโจทย์ความชอบนักลงทุนชาวไทยเป็นอย่างดี โดยอพาร์ตเมนต์ชุดนี้มีราคาเริ่มต้นจาก 38 – 377 ล้านบาท สำหรับห้องชุดที่ออกแบบโดย Sophie Ashby
อย่างไรก็ตามคาดว่าโครงการนี้ จะเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับผู้ซื้อ ทั้งที่ซื้อเพื่อลงทุนเอง หรือบุตรหลานที่กำลังศึกษาอยู่ในสหราชอาณาจักร
จากผลวิจัยทิศทางอสังหาริมทรัพย์ในลอนดอน พบว่าจะให้ผลตอบแทนสูงถึง 16.7% รวมถึงอัตราค่าเช่าที่สูงขึ้นถึง 4.66% ซึ่งคาดว่างานพรีเซล ในวันที่ 10-11 มีนาคมนี้ จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนจำนวนมาก
นอกจากนี้ผลการวิจัยของซีบีอาร์อี คาดว่าช่วงปี 2560 – 2564 การเติบโตของเงินทุนในธุรกิจอสังหาฯ จะเพิ่มขึ้นถึง 16.7% ซึ่งนับเป็นผลตอบแทนสูงกว่าสินทรัพย์อื่นๆ เช่น ทองคำ น้ำมัน และตลาดหุ้น
การลงทุนที่อยู่อาศัยในลอนดอน ยังคงมีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าประเภทสินทรัพย์อื่น ๆ ในระยะกลางถึงระยะยาว และพิสูจน์ว่าเป็นการลงทุนที่ยืดหยุ่นและเป็นรูปธรรมมากที่สุด โดยนักลงทุนไทยและนักลงทุนรายอื่นๆ จากทั่วโลกมีความสนใจที่จะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในกรุงลอนดอน เนื่องจากสหราชอาณาจักรเป็นที่พำนักที่ปลอดภัยด้วยระบบกฎหมายที่โปร่งใส มีเขตเวลาที่เหมาะสำหรับการติดต่อสื่อสารและการพาณิชย์ระหว่างประเทศ, อุปทานของที่อยู่อาศัยยังไม่เพียงพอกับความต้องการ, ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอันยาวนานของกรุงลอนดอน และใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากล
โดยเมื่อเร็วๆ นี้ จำนวนนักลงทุนในภูมิภาคเอเชียเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดอันเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินปอนด์ ทั้งนี้ กฎหมายของสหราชอาณาจักรทำให้นักลงทุนต่างชาติสามารถลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้ง่าย การถือครองกรรมสิทธิ์ในสัญญาเช่า (Leasehold) ที่มีความยาว 999 ปี เป็นที่น่าสนใจมาก และมีผลในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหราชอาณาจักร ไม่เพียงแต่ดึงดูดผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัย แต่ยังดึงดูดผู้ซื้อจากทั่วโลกที่เน้นการลงทุนอีกด้วย
ดังนั้นนักลงทุนมีโอกาสได้รับผลกำไรจากการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในลอนดอน โดยเฉพาะผู้ที่ส่งบุตรหลานไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นนักเรียนชาวต่างชาติที่เข้ามาศึกษาในสหราชอาณาจักรมากเป็นอันดับที่ 7 จากทั่วโลก และมักใช้เวลาเรียนอย่างน้อย 4-5 ปี ซึ่งเป็นแรงจูงใจในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยมากกว่าการเช่า นอกจากนี้หลังจากสำเร็จการศึกษาแล้วอสังหาริมทรัพย์เหล่านั้นจะได้รับผลกำไรจากการเติบโตอย่างยั่งยืนของเงินทุนระยะยาวในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงลอนดอน
โครงการ “วัน คราวน์ เพลส” ได้รับการออกแบบโดยนักออกแบบชั้นนำชาวอังกฤษ Kohn Pedersen Fox Associates (KPF) ประกอบด้วย อาคารสูง 2 อาคาร มีชั้นสูงสุดอยู่ที่ชั้นที่ 33 ทั้งสองอาคาร