Economics

ชงบอร์ดทอท.เชือด ‘รปภ. ตบนักท่องเที่ยวจีน’ 2 ผู้บริหารพ้นผิด

ชงผลสอบ “รปภ. ทำร้ายนักท่องเที่ยวจีน” เข้าบอร์ด ทอท. วันพรุ่งนี้ (24 ต.ค.) คาด 2 ผู้บริหารสนามบินดอนเมืองพ้นผิด ได้กลับไปทำงานตามปกติแล้ว ด้านเจ้าหน้าที่ รปภ. มีความผิดจริง ระบุโดนโทษอาญาจำคุก 2 เดือน พร้อมจ่อโดนไล่ออก

การบิน ๑๘๑๐๒๓ 0081

แหล่งข่าวจากสำนักงานใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ทอท. จะเสนอผลการสอบสวน กรณีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) สนามบินดอนเมืองทำร้ายนักท่องเที่ยวจีนเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2561 ต่อที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) พิจารณาในวันพรุ่งนี้ (24 ต.ค.) โดยขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของผลสอบสวน เพราะบอร์ดยังไม่ได้ให้ความเห็นชอบ

สำหรับเจ้าหน้าที่ รปภ. ที่ก่อเหตุทำร้ายนักท่องเที่ยวจีน ล่าสุดวานนี้ (22 ต.ค.) ยังไม่มีคำสั่งไล่ออก โดยอยู่ระหว่างการพักงาน และรอผลการสอบสวนอย่างเป็นทางการ แต่ยอมรับว่านาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ อดีตผู้อำนวยการสนามบินดอนเมืองในช่วงที่เกิดเหตุ ได้กลับไปปฏิบัติหน้าที่พนักงานตามปกติแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ ผลสอบสวนจึงน่าจะระบุว่า นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ไม่มีความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ดังกล่าว

แหล่งข่าวจากสนามบินดอนเมือง เปิดเผยว่า นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ อดีตผู้อำนวยการสนามบินดอนเมือง และผู้อำนวยการฝ่ายรักษาความปลอดภัยของสนามบินดอนเมือง ถูกสั่งพักงานเพื่อดำเนินการสอบสวนเป็นเวลาประมาณ 3 สัปดาห์ แต่ล่าสุดผู้บริหารทั้ง 2 รายได้กลับเข้าทำงานตามปกติแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ (22 ต.ค.) เนื่องจากผลการสอบสวนระบุว่าผู้บริหารทั้ง 2 รายไม่ได้มีข้อบกพร่องต่อหน้าที่อย่างมีนัยยะสำคัญ

sutee
นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์

ปัจจุบันนาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ได้ย้ายไปปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสนามบินสุวรรณภูมิตามมติบอร์ดทอท.ที่อนุมัติไว้ก่อนหน้านี้ ด้านผู้อำนวยการฝ่ายรักษาความปลอดภัยสนามบินดอนเมืองก็ย้ายไปเป็นผู้อำนวยการฝ่ายรักษาความปลอดภัยที่สนามบินเชียงใหม่ตามมติบอร์ดฉบับเดียวกัน

คาดเจ้าหน้าที่รปภ.ถูกไล่ออก-โดนโทษอาญา

สำหรับเจ้าหน้าที่ รปภ. ที่ก่อเหตุทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวจีนนั้น ผลการสอบสวนระบุว่ามีความผิดจริง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีอาญาข้อหาทำร้ายร่างกาย มีทั้งโทษจำและปรับ ซึ่งเบื้องต้นมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ รปภ. คนดังกล่าวจะถูกลงโทษจำคุกเป็นเวลา 2 เดือน

นอกจากนี้คาดว่าทอท. จะลงโทษด้วยการไล่ออก เนื่องจากเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวเป็นลูกจ้างชั่วคราว ถ้าหากกระทำผิดกฎหมายอาญาหรือเป็นฝ่ายกระทำผิดจริง ก็สามารถลงโทษสูงสุด คือไล่ออกได้ทันที

รื้อใหญ่ทั้งระบบ แก้ไขข้อบกพร่อง

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ ทอท. พบข้อบกพร่องในดำเนินงานด้านการรักษาความปลอดภัยหลายด้าน ซึ่งเดิมไม่ทราบว่ามีข้อบกพร่องเหล่านี้ บริษัทจึงต้องหามาตรการปรับปรุงการทำงานได้ดีขึ้น ดังนี้

  1. กำชับให้เจ้าหน้าที่ รปภ. ปฏิบัติงานตามคู่มืออย่างเคร่งครัดมากขึ้น โดยตามปกติคู่มือจะกำหนดให้ต้องมีเจ้าหน้าที่ รปภ. 2 คนในกรณีเข้าไประงับเหตุต่างๆ แต่ในเหตุการณ์ดังกล่าวรปภ. ที่มีอาวุโสมากกว่าติดภารกิจเรื่องการตรวจวัตถุต้องสงสัย ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ รปภ. ที่มีอาวุโสน้อยกว่าต้องไปปฏิบัติภารกิจระงับเหตุผู้โดยสารและเกิดการทำร้ายร่างกายตามมา
  2. เพิ่มเจ้าหน้าที่ รปภ. ที่มีความรู้ด้านภาษาและผ่านการอบรมหลักสูตรการเจรจาต่อรอง เพื่อให้สามารถสื่อสารกับชาวต่างชาติ และช่วยเจรจาบรรเทาเหตุการณ์ต่างๆ ให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด เช่น ช่วงไหนที่มีนักท่องเที่ยวจีนใช้บริการในสนามบินดอนเมืองมาก ก็จะเพิ่มเจ้าหน้าที่รปภ. ที่มีความสามารถด้านภาษาจีน โดยยอมรับว่าที่ผ่านมาสนามบินดอนเมืองละเลยประเด็นนี้
  3. ตรวจสุขภาพกายและสุขภาพจิตของเจ้าหน้าที่รปภ. ให้พร้อมต่อการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ รปภ. ได้รับค่าจ้างไม่มาก ประมาณ 14,000 บาทต่อเดือน ส่งผลให้ต้องทำงานล่วงเวลา (OT) หรือเข้ากะถี่เพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น โดยที่ผ่านมา ทอท. ก็ดูแลการทำงานของเจ้าที่ รปภ. ให้สอดคล้องกับกฎหมายแรงงานเท่านั้น แต่ตอนนี้คงต้องเพิ่มจัดกิจกรรมสันทนาการอย่างเพียงพอ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เครียดจนเกินไป และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็จะควรเข้าพบจิตแพทย์เพื่อดูแลสุขภาพจิตใจ เพราะเป็นอาชีพที่ต้องเจอกับผู้โดยสารและผู้คนตลอดเวลา อาจทำให้เกิดความเครียดสะสมได้don2
  4. ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดอบรมหลักสูตรการเข้าควบคุมตัวแก่เจ้าหน้าที่ รปภ. และให้ความรู้เรื่องกฎหมายเพิ่มเติม จากเดิมมีแค่การฝึกอบรมหลักสูตรป้องกันตัวจากทหาร เนื่องจากหลักสูตรดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะช่วยให้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้อย่างถูกต้องวิธีและถูกต้องตามกฎหมาย โดยเป็นการถอดบทเรียนจากเหตุการณ์นี้ ที่ผู้โดยสารชาวจีนพุ่งเข้าใส่เจ้าหน้าที่ รปภ. ในลักษณะผลักหรือชก แม้เจ้าหน้าที่ รปภ. จะหลบทัน แต่ได้ชกสวนกลับตามสัญชาติญาณและอารมณ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
  5. จัดทำข้อตกลงร่วมกันระหว่าง ทอท. กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ในกรณีที่มีการเชิญเจ้าหน้าที่รปภ. ของสนามบินเข้าไปช่วยดูแลในเขตของ ตม. ได้แก่ด่าน ตม. และห้องควบคุมพิเศษสำหรับส่งชาวต่างชาติออกนอกประเทศ โดยถ้าหากเหตุการณ์เช่นนี้ เจ้าหน้าที่ รปภ. ของสนามบินก็จะเข้าไปในฐานะผู้ช่วยตำรวจตม. เท่านั้นและจะต้องมีเจ้าหน้าที่ ตม. อยู่ด้วยทุกครั้ง เพราะถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีกฎหมายของตม. ดูแล
  6. จัดทำหลักปฏิบัติที่ชัดเจน ในกรณีชาวต่างชาติที่ไม่ผ่านด่าน ตม. และต้องถูกส่งตัวออกนอกประเทศไทยว่า จะมีหลักปฏิบัติอย่างไร โดยจัดทำเป็นขั้นตอนและคำอธิบายให้ชาวต่างชาติอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันความสับสนเหมือนกรณีที่เกิดขึ้น
  7. ปรับกระบวนการรายงานเหตุการณ์ต่างๆ ในสนามบินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะถ้ามีการรายงานเหตุการณ์ทันที ก็จะทำให้ป้องกันไม่ให้ปัญหาบานปลาย

อย่างเช่นกรณีนี้ ถ้ามีการรายงานเหตุการณ์ต่อผู้อำนวยการสนามบินดอนเมือง ก็จะมีการรายงานต่อสำนักงานใหญ่ ทอท. และกระทรวงคมนาคม จากนั้นรายงานไปยังกระทรวงต่างประเทศ และสถานกงสุลจีนตามลำดับ ซึ่งคาดว่าช่วยป้องกันและบรรเทากระแสความไม่พอใจในประเทศจีนลงได้บ้าง

don1

แต่เหตุการณ์นี้กลับไม่มีการรายงานให้ผู้อำนวยการสนามบินดอนเมืองรับทราบ เนื่องจากผู้เกี่ยวข้องเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กและผู้โดยสารได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว เพราะปกติสนามบินดอนเมืองจะมีการรายงานเฉพาะเหตุการณ์ใหญ่ๆ เช่น เครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่ง (Run Way) หรือผู้โดยสารทะเลาะวิวาทจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นต้น

โดยกว่าผู้อำนวยการสนามบินดอนเมืองทราบเหตุการณ์นี้ก็เป็นเวลา 19.00-20.00 น. ของวันที่ 28 กันยายน 2561 เนื่องจากมีการเผยแพร่คลิปวิดิโอลงในโซเชียลมีเดียของประเทศจีน จนกลายเป็นเรื่องโด่งดัง และทำให้ชาวจีนบางส่วนเกิดกระแสความไม่พอใจตามมา

อย่างไรก็ตาม ในเช้าวันที่ 29 ตุลาคม 2561 หรือเช้าวันถัดไป สนามบินดอนเมืองก็ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าหารืออย่างเร่งด่วนในช่วงเช้าและแถลงข่าวในช่วงบ่ายเวลา 14.00 น. เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างรวดเร็วที่สุด เพราะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight