Economics

เตือนแล้วนะ! ‘ข้าราชการ-รัฐวิสาหกิจ’ กดยกเลิกรับสิทธิ์ ‘เราชนะ’ ด่วน

เตือนแล้วนะ! ‘ข้าราชการ-รัฐวิสาหกิจ’ กดยกเลิกรับสิทธิ์ ‘เราชนะ’ ทันทีที่ระบบเปิดให้ยกเลิก ชี้หากเข้าร่วมโครงการถือว่าเป็นการกระทำผิดวินัย พร้อมเรียกเงินคืน

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า สำหรับโครงการเราชนะ ที่รัฐบาลจ่ายเงินเยียวยา 7,000 บาทต่อรายให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด ซึ่งเปิดให้ผู้เช็คสิทธิ์ผ่าน www.เราชนะ.com นั้น ในกรณีที่เป็นลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราว และรัฐวิสาหกิจ ที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งและเราเที่ยวด้วยกัน และถูกระบุว่า ได้สิทธิ์ “เราชนะ” นั้น ขอให้กดไม่เข้าร่วมโครงการด้วยตนเอง ไม่เช่นนั้นจะถูกเรียกเงินคืนในภายหลัง

เราชนะ

“เมื่อถึงวันที่ 18 ก.พ.2564 จะมีแถบข้อความขึ้นให้บนแอป “เป๋าตัง” และถามว่าท่านยืนยันจะเข้าร่วมโครงการหรือไม่ ผู้ที่เป็นลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราว และรัฐวิสาหกิจ ที่เข้าเกณฑ์ไม่ได้รับเงินในโครงการนี้จะต้องกดไม่เข้าร่วมมาตรการเราชนะ เพราะถ้าหากระบบตรวจพบภายหลังจะมีการเรียกเงินคืน”

ทั้งนี้ เหตุที่ระบบระบุว่า คุณเป็นผู้ได้สิทธิทั้งที่เป็นข้าราชการ หรือ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ส่วนหนึ่งเพราะระบบข้อมูลที่ยังไม่อัพเดท เช่น ในบางราย เพิ่งจะเข้ารับราชการ หรือ เป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ เป็นต้น ขณะเดียวกัน การเชื่อมโยงข้อมูลกับรัฐวิสาหกิจก็ยังไม่สมบูรณ์ ทำให้เราต้องขึ้นในแอปพลิเคชันเพื่อให้ปฏิเสธการเข้าร่วม

ส่วนแนวทางช่วยเหลือกลุ่มลูกจ้างชั่วคราว และลูกจ้างของรัฐและรัฐวิสาหกิจที่มีรายได้น้อยนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้มอบหมายให้กระทรวงการคลังมาดูแลกลุ่มนี้เพิ่มเติมแล้ว ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างหาแนวทางช่วยเหลืออยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในส่วนราชการบางแห่ง ได้มีหนังสือเวียนไปยังข้าราชการด้วยว่า ห้ามเข้าร่วมโครงการเราชนะ หากมีรายใดเข้าร่วม จะมีการตรวจสอบเมื่อพบจะถือเป็นการกระทำผิดวินัย

เราชนะ
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า วันนี้ 5 กุมภาพันธ์ 2564 นับเป็นวันแรก ในการประกาศผลการคัดกรองคุณสมบัติสำหรับกลุ่มประชาชนที่ใช้แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ผ่านโครงการคนละครึ่งและเราเที่ยวด้วยกัน ให้เข้าไปตรวจสอบผลการคัดกรอง ผ่านทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com

จากนั้นจะได้รับการโอนวงเงินสิทธิ์ครั้งแรกในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 จำนวน 2,000 บาท และจะได้รับวงเงินสิทธิ์เพิ่มเป็นรายสัปดาห์ทุกวันพฤหัสบดีจนวงเงินสิทธิ์ครบ 7,000 บาท โดยกลุ่มประชาชนที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลฯ สามารถสะสมวงเงินสิทธิ์ดังกล่าว และสามารถใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564

โดยกลุ่มที่ไม่ได้รับสิทธิ์ แต่มั่นใจว่า ตนเองเข้าข่ายการได้รับเงิน ให้เริ่มยื่นขอทบทวน 8 กุมภาพันธ์นี้ โดยเฉพาะการใช้ฐานภาษีในปี 2562 ทำการประเมิน แต่มีประชาชนได้รับผลกระทบตกงานในปี 2563 ซึ่งการตกงานสำหรับผู้ทำงานในบริษัทเอกชนได้รับการดูแลจากกองทุนประกันสังคมอยู่แล้ว เมื่อการยื่นแบบภาษีในปี 2563 ต้องยื่นแบบในปี 2564 ซึ่งได้ขยายเวลาออกไปและยังยื่นแบบกันไม่ครบ จึงไม่รับรู้ข้อมูลฐานตกงาน รัฐบาลจึงต้องใช้ฐานภาษีปี 2562 ไปก่อน

นายอาคม ยืนยันว่า รัฐบาลจะให้การช่วยเหลือครอบคลุมทุกกลุ่ม กลุ่มที่ 1 ผู้บัตรสวัสดิการฯ 14 ล้านคน กลุ่มที่ 2 คือ ผู้ลงทะเบียน คนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน ที่มีรายได้น้อย ผู้มีอาชีพอิสระ 17 ล้านคน กลุ่มที่ 3 แรงงาน ม.33 “เรารักกัน” 9 ล้านคน รวมทั้งหมดกว่า 40 ล้านคน นับว่าครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย ส่วนกลุ่มที่ 4 เป็นกลุ่มตกหล่นที่มีปัญหานอกเหนือจากนี้ ซึ่งได้เตรียมการรองรับเบื้องต้นเอาไว้แล้ว

สำหรับกลุ่มประชาชนที่ไม่มีมือถือ เตรียมลงทะเบียนผ่าน ธนาคารกรุงไทย เริ่มในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ เพราะขณะนี้ยอดที่ต้องให้การช่วยเหลือไม่มากแล้ว จึงมอบหมายให้ ธนาคารกรุงไทย รับลงทะเบียนเพียงแห่งเดียวไปก่อน โดยจะมีแนวทางการใช้เงินผ่านบัตรพิเศษ เพื่อให้ใช้เงินสดผ่านออนไลน์ผ่านแอปฯ เป๋าตัง

ส่วนกรณีการเยียวยาผู้ประกันตน ตามมาตรา 33 เมื่อหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้ข้อสรุปร่วมกันเรียบร้อยแล้ว กระทรวงแรงงาน เตรียมเสนอ ครม.พิจารณาในวันอังคารนี้ หรืออาจเป็นสัปดาห์หน้า เพื่อช่วยผู้ประกันตนตามมาตรา 33 โครงการ “ม.33 เรารักกัน” ครอบคลุมราว 9 ล้านราย ส่วนจำนวนเงินที่ได้รับ 3,500-4,000 บาทต่อราย เริ่มจ่ายเงินให้ผู้ประกันตนได้ในเดือน มีนาคม 2564 หรือไม่ ต้องรอให้ ครม.พิจารณา

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo