Business

เปิดเบื้องหลัง! ฟังแล้วอึ้งทำไม ผู้ประกันตน มาตรา 33 ไม่ได้เยียวยา 7,000 บาท

ผู้ประกันตนมาตรา 33 เปิดเบื้องหลัง! ทำไมได้เงินเยียวยาไม่ถึง 7,000 บาท เท่ากับ”เราชนะ”  แล้วทำไม คนที่มีเงินฝากเกิน 5 แสนบาท ไม่ได้ร่วมโครงการ  

ลงตัวสำหรับผู้ประกันตน มาตรา 33 กับมาตราการจ่ายเงินเยียวยาจากรัฐบาล ในโครงการ “ม. 33 เรารักกัน” ล่าสุด สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ออกมาบอกชัดเจนแล้วว่า หลักเกณฑ์ที่จะจ่ายเงินเยียวจะการจ่ายเงินเยียวยาประชาชนที่อยู่ในระบบประกันสังคม มาตรา 33 สัญชาติไทยเท่านั้น และไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน)  ประมาณ 9.2 ล้านคน จะได้รับคนละ 4,000 บาท จ่ายสัปดาห์ละ 1,000 บาท ผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง และไม่จ่ายเงินสด พร้อมไทม์ไลน์และเงื่อนไข การลงทะเบียน  ดังนี้
  • วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 เสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)
  • วันที่ 16 – 28 กุมภาพันธ์ 2564 ลงทะเบียน โครงการ ม.33 เรารักกัน ผ่านเว็บไซต์ www. ม33 เรารักกัน.com  และตรวจสอบการได้สิทธิ
  • วันที่ 1 – 7 มีนาคม 2564 ตรวจสอบข้อมูลกับฐานข้อมูลและคัดกรองผู้ไดรับสิทธิ
  • วันที่ 8 -14 มีนาคม 2564 ผู้ลงทะเบียนที่ผ่านการตรวจสอบคัดกรองกดยืนยันรับสิทธิผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”
  • วันที่ 15 มีนาคม 2564 ได้วงเงิน 1,000 บาททุกวันจันทร์ (วันที่ 15, 22, 29 มีนาคม และวันที่ 5 เมษายน 2564)
  • วันที่ 31 พฤษภาคม 2564 สิ้นสุดการใช้จ่าย

กว่าจะมีข้อสรุปและลงเอยเพื่อให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 พอใจทั้งในส่วนของจำนวนผู้ที่ได้รับการเยียวยาและจำนวนเงินให้สอดคล้องกันเรื่องนี้ สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงแรงงาน เล่าถึงเบื้องหน้าเบื้องหลัง กว่าจะมาเป็นวันนี้ ภายใต้โครงการ “ม. 33 เรารักกัน” โดยบอกว่า 10 วันที่ได้รับนโยบายจากนายกรัฐมนตรี  ได้จัดการหารือกับรัฐมนตรีว่ากากรระทรวงการคลัง เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. พร้อมกับบอกว่าเบื้องหลังถ่ายทำเรื่องนี้ เป็นการตัดสินใจที่ยากมาก นั่นคือ “ทำอย่างไรให้คน 11 ล้านคน ตามมาตรา 33 พึงพอใจ มีความเป็นพี่น้องและสามัคคีกัน นี่คือ การตัดสินใจที่ยากที่สุด” เพราะเราไม่ได้ดูแลคนแค่หลักแสนหรือหลักล้าน แต่เป็นหลักสินล้านคนซึ่งยากมาก!!

ผู้ประกันตนมาตรา 33

สุชาติ บอกว่า วันที่มีโครงการ“เราชนะ” ออกมาช่วยคน 31 ล้านคน เขารู้เลยว่าสิ่งที่ตามมาคือ ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จะเรียกร้องแน่นอน “พอดีเรื่องนี้ท่านนายกรัฐมนตรีก็คิดเหมือนกัน เลยให้ผมไปหารือกับ เลขาธิการศสช. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ต้องหารือกันให้ตกผนึกจ่ายยังไง มีเหตุผลอย่างไรกับผู้ประกันตนมาตรา 33 มีอยู่ 11 ล้านคน เป็นสัญชาติไทยเท่าไหร่ ไม่ใช่สัญชาติไทยเท่าไหร่ เพราะโครงการนี้ต้องใช้เงินกู้ ไม่ใช่เงินของกองทุนประกันสังคม”

เมื่อตรวจสอบก้พบว่า ผู้ประกันตนมาตรา 33 ไม่ใช่สัญชาติไทยประมาณ 1 ล้านคน ส่วนที่อยู่ในมาตรา33 มีบัตรสัวสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจน เมื่อปี 2560 ขึ้นทะเบียนคนจนเขาให้เกณฑ์เงินเดือน 8 พันบาทต่อเดือน ตรงนี้มีประมาณ 1.4 ล้านคน แต่มีบัตรประมาณ 1 ล้านคน  เหลือคนที่อยู่ในมาตรา 33 ประมาณ 9 ล้านคนเศษๆ

จากตัวเลขตรงนี้ก็ได้หารือกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถ้าโครงการ”เราชนะ” จ่าย 7,000 บาท แต่ถ้าจะจ่ายให้ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ด้วยเงินจะพอไหม แต่มีเกณฑ์ของโครงการ “เราชนะ” อยู่ว่ามีรายได้ไม่เกิน 300,000 บาทต่อปี ตรงนี้ถ้าเราตัดฐานเงินเดือนที่ไม่เกิน 25,000 บาท ถ้าทำอย่างนี้มีเงินพอจ่ายคนละ 7,000 บาท แต่จะมีคนได้รับอยู่เพียง 5-6 ล้านคน อีก 2 ล้านคนที่เหลือเงินเดือนเกิน 25,000 บาท เราจะทำอย่างไร และนี่คือโจทย์ใหญ่มาก ต้องคำนึงว่าคนอยู่ออฟฟิศเดียวกัน สิ่งสำคัญที่สุดของคนอยู่ออฟฟิศเดียวกันคือฐานเงินเดือน ที่จะไม่ให้ใครรู้ว่าได้เงินเดือนกันเท่าไหร่ ถ้าทำอย่างนี้จ่าย 7,000 บาทได้ แล้วอีก 4 ล้านคน ทำอย่างไรถ้าเราใช้ฐานรายได้ไม่เกิน 300,000 บาท

ผู้ประกันตนมาตรา 33

ผู้ประกันตนมาตรา 33 ได้ไม่ถึง 7 พันบาท

สุชาติ บอกว่าเพื่อให้เรื่องได้สรุปเร็วที่สุด เขาก็ได้คุบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เลขาธิการสศช.คือคุยก่อนไปพบนายกรัฐมนตรีตอนเช้าวันรุ่งขึ้น แต่คืนก่อนไปพบนายกรัฐมนตรี ก็ได้คุย (ทางโทรศัพท์) กับรองนายกฯ สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์  คุยกันว่าจะไปซ้ายหรือไปขวา ถ้าไปซ้ายจ่ายตนละ 7,000 บาท แต่ได้แค่ 5 ล้านกว่าคน แต่ถ้าไปขวาได้ครบทุกคนถือว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน เพื่อหาคำตอบให้ได้ก่อนพบนายกรัฐมนตรี เพื่อที่จะไปซ้ายหรือไปขวา เมื่อพบนายกรัฐมนตรี ท่านก็บอกเลยว่า เราต้องให้เขาสามัคคีรักกันต้องให้ทั้งหมด ตรงนี้เลยเป็นที่มาของ ” ม. 33 เรารักกัน” ท่านนายกรัฐมนตรีพูดไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

แต่ถ้าเอารายได้ 300,000 บาทต่อปี มาจับปัญหาคือ จะเกิดความแตกแยกทันที “ผมก็เลยขออนุญาตท่านนายกฯ ตัดรายได้เกิน 3 แสนบาทออก เป็นประเด็นเอาออก คงเหลือเงินฝากเกิน 5 แสนบาท ผมคิดว่าตัวเลขเกิน 5 แสนบาท เงินฝากคงมีไม่กี่แสนคน (ดูที่สิ้นสุด 31 ธ.ค.2563) ผมคิดว่าคนที่มีเงินเดือน 1 แสนบาทขึ้น คงมีไม่มาก คนที่อยู่ในมาตรา 33 ถ้าเป็นบริษัทระดับซีอีโอเงินเดือ 2-3 แสนบาท ก็มีแค่คนเดียว ฉะนั้นถ้าเงินเดือน 6-7 หมื่นบาทค่าใช้จ่ายก็ต้องตามมา”

เมื่อเป็นอย่างนี้ ก็เลยมีที่มาว่ากระทรวงการคลังจะกันเงินก้อนหนึ่งประมาณ 4 หมื่นล้านบาท ให้ ตัวเลขจึงมาตกผนึกที่ 4,000 บาท จะได้ทั้งหมด 10 ล้านกว่าคน เป็นตัวเลขที่โอเค ท่านนายกรัฐมนตรีฟันธงมาแล้ว วันที่ประชุมร่วมกัน  แจกให้อาทิตย์ละ 1,000 บาท  และนี่คือ เหตุผล ที่ไปที่มา ทำไมผู้ประกันตน ถึงได้รับเงินเยียวยาไม่ถึง 7,000 บาท 

โครงการ “ม.33 เรารักกัน” จะแจกเงินผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง เพราะเงินมาจากก้อนเดียวกันกับโครงการ”เราชนะ” ใช้จ่ายเหมือน “เราชนะ” ได้ทั้งหมด  ดังนั้นจ่ายเงินให้อย่างเร็ว ก็คงต้นเดือนมีนาคม2564 หรืออย่างช้าก็กลางเดือนมีนาคม ตอนนี้อยู่ระหว่างจัดทำเอกสารเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) อย่างเร็วก็อังคารนี้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight