อินโดนีเซียกำลังผงาดขึ้นมาท้าทายสิงคโปร์ ด้านการตั้งศูนย์ข้อมูล ด้วยการดึงดูดยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมอย่าง กูเกิล อาลีบาบา และอเมซอน ซึ่งรายหลังนี้ เสนอที่จะทุ่มเงินเกือบพันล้านดอลลาร์เข้ามาลงทุน
เว็บไซต์นิกเคอิ เอเชียน รีวิว รายงานว่า กูเกิล ยักษ์ใหญ่ด้านอินเทอร์เน็ตจากสหรัฐ ประกาศในเดือนนี้ถึงเรื่องที่อินโดนีเซีย จะกลายเป็นศูนย์กลางบริการคลาวด์แห่งใหม่ของบริษัทในเอเชีย
ริค ฮาร์ชแมน กรรมการผู้จัดการกูเกิล เอเชีย แปซิฟิค ระบุว่า แผนการที่บริษัทวางไว้ สำหรับการตั้งศูนย์ข้อมูลในอินโดนีเซีย ประเทศที่มีประชากรมากสุดเป็นอันดับ 4 ของโลกนั้น จะเริ่มขึ้นในเร็ววันนี้ และว่ากูเกิลจะลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในระยะยาวที่อินโดนีเซีย แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับเม็ดเงินลงทุนแต่อย่างใด
การเคลื่อนไหวดังกล่าวของกูเกิล สะท้อนถึงการที่อินโดนีเซียได้รับความสนใจมากขึ้น ในฐานะทางเลือกในการเข้าลงทุน นอกเหนือจากสิงคโปร์ ซึ่งเป็นประเทศที่มักได้รับความสนใจเป็นอันดับแรกในภูมิภาคนี้ ในเรื่องการเข้าลงทุนบริการคลาวด์ เพราะมีการเชื่อมต่อไฟเบอร์อย่างดี
ก่อนหน้านี้ อเมซอน ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจากสหรัฐ ก็เพิ่งจะประกาศแผนลงทุน 924 ล้านดอลลาร์ที่อินโดนีเซีย ในช่วง 10 ปีข้างหน้า โดยเริ่มแรกจะมุ่งเน้นไปในด้านบริการคลาวด์ ซึ่ง
เวอร์เนอร์ โวเกลส์ รองประธานบริหารอเมซอน ได้กล่าวถึงแผนลงทุนข้างต้นไปเมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา ระหว่างการเข้าพบกับประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ผู้นำอินโดนีเซีย
นางศรีมุลยานี อินทราวตี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า แผนการของอเมซอน คือ การนำ “อเมซอน เว็บ เซอร์วิส” หน่วยงานบริการคลาวด์ในเครือเข้าสู่ตลาดอินโดนีเซีย
ขณะที่ไลนัส ปุก ผู้ช่วยผู้อำนวยการบริษัทคุชแมน แอนด์ เวคฟีลด์ บริษัทให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ ระบุว่า มีแนวโน้มว่า การลงทุนของอเมซอนอาจรวมถึง การเปิดศูนย์ข้อมูลแห่งแรกของบริษัทในประเทศนี้ เพราะธุรกิจคลาวด์ จะต้องอยู่ภายในศูนย์ข้อมูล
เขาบอกว่า แม้จนถึงขณะนี้ อเมซอน ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดแผนการลงทุนทั้งหมด แต่เมื่อพิจารณาถึงขนาดการลงทุน ก็ไม่มีข้อสงสัยเลยว่า จะต้องมีศูนย์ข้อมูลรวมอยู่ด้วย
ทั้งนี้ อินโดนีเซียมีประชากรอยู่ราว 260 ล้านคน และสตาร์ทอัพกำลังเป็นธุรกิจน้องใหม่ที่มาแรง ทำให้กลายเป็นแหล่งลงทุนที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจคลาวด์ และอินเทอร์เน็ต
บริการคลาวด์ จะส่งผ่านอินเทอร์เน็ต เพื่อจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลหรือเรียกใช้แอพพลิเคชัน โดยจะเรียกเก็บค่าบริการตามการใช้งาน ช่วยลดต้นทุนให้กับบริษัทขนาดเล็ก และสตาร์ทอัพ ในการลงทุนฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ของตัวเอง
การเข้ามาในอินโดนีเซียของอเมซอน ยังเกิดขึ้นหลังจากอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจีน เข้ามาเปิดศูนย์ข้อมูลในกรุงจาการ์ตา เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และอ้างว่า หน่วยงานด้านคลาวด์ของบริษัท เป็นแพลตฟอร์มคลาวด์ระดับโลกแห่งแรกในประเทศนี้
ทางด้านบริษัทวิจัยบรอดกรุ๊ป มองว่า แนวโน้มการเข้าลงทุนในอินโดนีเซียดังกล่าว อาจสร้างความวิตกให้กับเจ้าหน้าที่ และธุรกิจต่างๆ ในสิงคโปร์ ที่กำลังพยายามขยายอุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูลของประเทศ
ปัจจุบัน สิงคโปร์ถือเป็นผู้นำในการดึงดูดการลงทุนประเภทนี้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นที่ตั้งของศูนย์ข้อมูลราว 50% ของภูมิภาคนี้
ที่มา: Nikkei Asian Review
