โต๊ะแชร์ มหาสารคาม คลัสเตอร์ใหม่ สธ.เปิดไทม์ไลน์ พบเสี่ยงสูง 78 ราย แพร่เชื้อโควิดแล้ว 8 ราย รอยืนยันผลติดเชื้อเพิ่ม
น.พ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า จากผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่วันนี้ 836 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 832 รายและจากต่างประเทศ 4 ราย โดยการติดเชื้อในประเทศ มาจากจังหวัดสมุทรสาคร 814 ราย กรุงเทพฯ 10 รายราชบุรี 2 ราย และมหาสารคาม 6 ราย เร่งจับตาคลัสเตอร์ โต๊ะแชร์ มหาสารคาม
สำหรับคลัสเตอร์ใหม่ หรือการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน ที่ต้องจับตา คือ คลัสเตอร์ กินเลี้ยงโต๊ะแชร์ ที่จังหวัดมหาสารคาม โดยจากไทม์ไลน์ พบว่า เป็นเพศชาย อายุ 46 ปี เป็นผู้ป่วยรายที่ 2 ของจังหวัดมหาสารคาม มีไทม์ไลน์ ดังนี้
วันที่ 3 มกราคม เดินทางจากกรุงเทพฯ กลับมา มหาสารคาม
วันที่ 10 มกราคม เริ่มมีอาการไข้
วันที่ 18 มกราคม เริ่มมีอาการปวดเมื่อยตามตัว
วันที่ 23 มกราคม มีไข้ปวดเมื่อย พบแพทย์ที่ศูนย์แพทย์
วันที่ 27 มกราคม ไปโรงพยาบาลมหาสารคาม พบผลตรวจเป็นบวก
วันที่ 28 มกราคม พบผู้สัมผัส 110 ราย แบ่งเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 32 ราย เสี่ยงสูง 78 ราย มีผลบวก 5 รายเป็นภรรยา 1 รายและอีก 4 รายจากการกินเลี้ยงโต๊ะแชร์
นอกจากนี้ ยังพบผู้ป่วยเชื่อมโยงที่โรงพยาบาลขอนแก่น และราชบุรี จังหวัดละ 1 ราย
วันที่ 29 มกราคม พบผู้ตรวจหาเชื้อมีผลเป็นบวกเพิ่มอีกจำนวนหนึ่ง รอการยืนยัน
วันที่ 30 มกราคม ตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน
จากกรณีดังกล่าว ผลการสอบสวนโรคพบว่า จาก คลัสเตอร์กินเลี้ยงโต๊ะแชร์ เริ่มจากผู้ติดเชื้อ 1 คน ทำให้เกิดการแพร่ระบาด จากการทานอาหารร่วมกัน ไม่ใส่หน้ากากอนามัย มีการพูดคุยกัน ทำให้เกิดการติดเชื้อในงาน และนำเชื้อไปแพร่ต่อสู่คนในครอบครัว ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ผู้ป่วยจังหวัดราชบุรี ที่นำไปติดเชื้อเด็กหญิงอายุ 4 ขวบ
“การเกิด คลัสเตอร์ กินเลี้ยงโต๊ะแชร์ จะเป็นลักษณะเดียวกับคลัสเตอร์ในร้านอาหาร ที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ สิ่งสำคัญจึงอยู่ที่มาตรการป้องกันตัวเอง ใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อย ๆ และสแกนแอปไทยชนะ ดาวน์โหลดหมอชนะ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ การทานอาหารร่วมกันจำนวนมาก”นพ.เฉวตสรร กล่าว
ส่วนการปูพรมค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก โดยเฉพาะในจังหวัดสมุทรสาคร ตั้งแต่ในช่วงวันที่ 26 มกราคมจนถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พบว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เกิน 750 ตลอดทั้ง 7 วันที่ผ่านมา บางวันขึ้นไปถึง 959 ราย โดยสูงสุดวันที่ 26 มกราคม ซึ่งการพบจำนวนผู้ป่วยมากขึ้น จะนำไปสู่การหามาตรการที่เหมาะสมในการจัดการและป้องกันการแพร่ระบาดในพื้นที่
กรณีการเดินทางข้ามจังหวัด หลังการผ่อนคลายมาตรการนั้น โดยรวมไม่มีข้อห้าม แต่ขอให้ดูประกาศของพื้นที่ปลายทาง เป็นหลักหลัก การที่ให้เป็นแนวนโยบายกว้าง ขึ้นอยู่กับจังหวัดนั้น ๆ ว่าจะมีความเข้มงวดในสถานการณ์ มากน้อยเพียงใด
ตัวอย่างเช่น หากเจอกลุ่มก้อนภายในพื้นที่ของตัวเอง ก็ไม่อยากให้ผู้เดินทางจากจังหวัดอื่น ต้องมาเจอความเสี่ยงด้วย จึงมีการกำหนดที่เข้มงวด หรือหากเดินทาง ในจังหวัดสีแดง ขอให้กักตัวอยู่ที่บ้าน เป็นต้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- โควิด กรุงเทพมหานคร ผลไล่ตรวจเชิงรุก 59 โรงงาน ติดเชื้อ 45 ราย ภาษีเจริญสูงสุด
- ชวนเที่ยว ระยอง พัทยา ‘สาธิต’ ลงพื้นที่ตรวจความพร้อม รับนักเที่ยว ย้ำปลอดโควิด