World News

รู้จัก ‘มิน อ่อง หล่าย’ ผู้นำรัฐประหารเมียนมา ยก ‘ป๋าเปรม’ เป็นเหมือนพ่อ

สำหรับบรรดาผู้เชี่ยวชาญ นักสังเกตการณ์ หรือผู้ที่เกาะติดอยู่กับพัฒนาการ ทางการเมือง เมียนมา แล้ว การผงาดขึ้นคุมอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ ของ “พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย” หลังจากที่กองทัพเมียนมา ทำรัฐประหารโค่นรัฐบาลพลเรือน ของ “อองซาน ซูจี” ไม่ใช่เรื่องที่น่าประหลาดใจ หรือเหนือความคาดหมายแต่อย่างใด 

พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่าย ซึ่งปัจจุบันอายุ 65 ปี  ถือว่ามีประวัติที่ไม่ธรรมดา เขาเกิดที่ทวาย ในครอบครัวชนชั้นกลาง บิดาเป็นข้าราชการ ฝ่ายวิศวกรรมโยธา  เขาเข้าเรียนกฎหมายที่มหาวิทยาลัย ก่อนไปสมัครเรียนโรงเรียนทหารชั้นประทวน ระหว่างนั้นเจ้าตัวพยายามสอบเข้าโรงเรียนนายร้อยของพม่าถึง 3 ครั้งจึงจะสอบติด

เขาขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด ตั้งแต่ปี 2554 สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยป้องกันชาติแห่งประเทศพม่า (Defense Services Academy-DSA) ผ่านการเป็นผู้บัญชาการรัฐมอญ เคยดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการกรมทหารภาคสามเหลี่ยมในรัฐฉาน เป็นผู้บัญชาการกองยุทธการพิเศษที่ 2 หน่วยบัญชาการทหารภาครัฐฉาน และรัฐกะเหรี่ยง และเสนาธิการร่วมกองทัพพม่า

มิน อ่อง หล่าย

รายงานของ คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) ระบุว่า นายทหารระดับสูง ของเมียนมารายนี้ เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลัง การละเมิดสิทธิมนุษยชน ชาวโรฮิงญา ในรัฐยะไข่ ทางตอนเหนือของ เมียนมา  ซึ่งอาจเรียกว่า เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และอาชญากรรมสงคราม และเป็นหนึ่งในบรรดาผู้นำทางทหารของ เมียนมา ที่สหรัฐห้ามเข้าประเทศ

ขณะเดียวกัน แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียระดับโลก อย่าง เฟซบุ๊ก และ ทวิตเตอร์ ก็แบน พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่าย และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเมียนมาอีก 19 คน เพื่อยับยั้งความตึงเครียด ของสถานการณ์ความรุนแรงทางเชื้อชาติ และศาสนา ใน เมียนมา เนื่องจากรายงานการสืบสวน ของสหประชาชาติ (UN) ที่ระบุว่า ต้องมีการสอบสวน และดำเนินคดี ผู้นำทางการทหาร จากกรณี ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ชาวมุสลิมโรฮิงญา

นอกจากนี้ นายพลอาวุโสผู้นี้ ยังเกี่ยวข้อง กับกรณีผลประโยชน์ทับซ้อน ของครอบครัว และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Myanmar Economic Holdings Limited (MEHL) ซึ่งถือครอง โดยกองทัพ

สำหรับคนไทยแล้ว พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่าย  ไม่ใช่คนแปลกหน้าแต่อย่างใด เนื่องจากเขาเปรียบเสมือนบุตรบุญธรรม ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษผู้ล่วงลับ

วันที่เดินทางมาประเทศไทย เพื่อมาลงนามแสดงความอาลัย ต่อการจากไปของ พล.อ.เปรม ที่ทำเนียบองคมนตรี  ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของ เมียนมา ได้เผยความรู้สึกตอนหนึ่งว่า เหมือนสูญเสียบิดา

“อายุของ พล.อ.เปรม ห่างจากพ่อของผมเพียง 1 ปี และพ่อของผมได้เสียชีวิตเมื่อปี 2545 และหลังจากนั้น 10 ปี ผมก็ได้พบกับ พล.อ.เปรม”

“เมื่อได้เป็น ผบ.ทสส. แล้วจึงได้เข้าพบ พล.อ.เปรม และได้นั่งเคียงข้างกัน ได้จับมือกัน ถ้ามีเรื่องอะไรที่สำคัญ ก็จะจับมือคุยกัน เปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นทุกครั้ง ที่ได้พูดคุยกัน ผมจึงเปรียบ พล.อ.เปรม เหมือนบิดา”

“คำสั่งสอนต่าง ๆ ของ พล.อ.เปรมก็มีมากมาย  ประกอบด้วย 2 ประเด็น คือ 1. ทางด้านการเมือง ก็จะพูดถึงประชาธิปไตย ก็จะต้องเป็นประชาธิปไตยของประเทศของตนเอง หรือประเทศใคร ประเทศคนนั้น ให้เหมาะสม กับประเทศตนเอง และประเด็นที่ 2 ที่ พล.อ.เปรม พูดอยู่เสมอว่า เราเกิดในแผ่นดินนี้ เราต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน  ถ้าใครไม่ตอบแทนคุณแผ่นดิน คนนั้นถือว่า เป็นคนทรยศ ต่อประเทศชาติ”

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo