Politics

‘หมอธีระ’ ย้ำ!! คลายล็อกแล้วอย่าการ์ดตก ระบาดระลอกใหม่ยังไม่สงบ

หมอธีระ เผยยอดติดเชื้อโควิดทั่วโลกล่าสุดอยู่ที่ 103,447,819 คน เสียชีวิต 2,235,594 คน เตือนคลายล็อกแล้วอย่าการ์ดตก ป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะอยู่พื้นที่ใดก็ตาม

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat รายงาน ยอดผู้ติดเชื้อวันนี้ โดยระบุว่า สถานการณ์ทั่วโลก 1 กุมภาพันธ์ 2564 เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 380,810 คน รวมแล้วตอนนี้ 103,447,819 คน ตายเพิ่มอีก 9,040 คน ยอดตายรวม 2,235,594 คน

  • อเมริกา เมื่อวานติดเชิ้อเพิ่ม 104,693 คน รวม 26,736,283 คน ตายเพิ่มอีก 1,624 คน ยอดตายรวม 451,540 คน
  • อินเดีย ติดเพิ่ม 6,480 คน รวม 10,753,351 คน
  • บราซิล ติดเพิ่ม 27,756 คน รวม 9,204,731 คน
  • รัสเซีย ติดเพิ่ม 18,359 คน รวม 3,850,439 คน

หมอธีระ

  • สหราชอาณาจักร ติดเพิ่มอีก 21,088 คน รวม 3,817,176 คน
  • อันดับ 6-10 เป็น ฝรั่งเศส ตุรกี อิตาลี สเปน และเยอรมัน ส่วนใหญ่ติดกันหลายพันถึงหลักหมื่นต่อวัน
  • แถบอเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย อย่างโคลอมเบีย เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ยูเครน แคนาดา รวมถึงอิหร่าน บังคลาเทศ อิสราเอล อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ยังติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น
  • แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็ยังมีติดเชื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง
  • เมียนมาร์ เกาหลีใต้ และไทย ติดเพิ่มหลายร้อย ส่วนจีน ฮ่องกง เวียดนาม และสิงคโปร์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่กัมพูชา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ

…สถานการณ์ในเมียนมาร์ เมื่อวานติดเพิ่มขึ้นอีก 281 คน ตายเพิ่มอีก 6 คน ตอนนี้ยอดรวม 140,145 คน ตายไป 3,131 คน อัตราตายตอนนี้ 2.2%…

วิเคราะห์สถานการณ์…

“หลักวิชาการแพทย์นั้นมีความชัดเจนว่า การระบาดจะมากขึ้นแน่นอน หากมีการพบปะเจอกันมากขึ้น มีการเคลื่อนที่ของประชากรมากขึ้น ระยะเวลาที่จะสัมผัสติดต่อนานขึ้น และจะมากขึ้นอีกหากมีเชื้อโรคที่มีสมรรถนะในการแพร่ที่เร็วขึ้น เช่น พวกเชื้อที่กลายพันธุ์หากมีหลุดเข้ามา” หมอธีระ กล่าว

อุซเบกิสถานนั้น เป็นประเทศที่มีลักษณะการระบาดที่น่าสนใจคือ ระลอกแรกขึ้นพีคเกือบพันคนต่อวันในช่วงต้นสิงหาคม และลดลงมาระดับ 200-400 คนต่อวันอยู่ประมาณ 3 สัปดาห์ และขึ้นพีคที่สองไปราว 750 คนต่อวัน สู้ยาวนานต่อเนื่องอีกสามเดือนกว่าจะกดลงมาต่ำกว่าร้อยต่อวันได้

นั่นคือบทเรียนให้เราศึกษา และสังเกต แม้จะเป็นบทเรียนจากระลอกแรกที่มีสองพีคต่อเนื่องกัน และส่งผลยาวนาน

ยิ่งหากเราเผชิญการระบาด แล้วกดการระบาดได้ไม่เด็ดขาด ครึ่ง ๆ กลาง ๆ เช่น เร่งตรวจให้พอรู้ แล้วก็หยุดหรือตรวจน้อยลง โอกาสกลับซ้ำย่อมมีสูง

หันมามองบทเรียนของประเทศที่เจอระลอกสอง และต่อด้วยการระบาดเพิ่มอีกครั้งกันบ้างว่าเค้าบอกอะไรเรา

หากอัตราการติดเชื้อต่อวันเป็นหลักสิบ โดยเฉลี่ยแล้วจะมีโอกาสเกิดการติดเชื้อทวีคูณเป็นสองเท่าภายใน 10 วัน

หากอัตราการติดเชื้อต่อวันเป็นหลักร้อย หรือหลักพัน โดยเฉลี่ยแล้วจะมีโอกาสเกิดการติดเชื้อทวีคูณเป็นสองเท่าภายใน 16-19 วัน บวกลบได้ราวหนึ่งสัปดาห์

หากอัตราการติดเชื้อต่อวันเป็นหลักหมื่น โดยเฉลี่ยจะมีโอกาสเกิดการติดเชื้อทวีคูณเป็นสองเท่าภายใน 25 วัน บวกลบได้ราวสองสัปดาห์

นอกจากนี้ ช่วงเวลาของการติดเชื้อสูงสุดในการระบาดระลอกสองนั้นยังทำนายระยะเวลาที่มีโอกาสเกิดการระบาดซ้ำได้ด้วย และหากรู้ได้ล่วงหน้า จะได้วางแผนรับมือได้

พอเราเข้าใจเช่นนี้ เราก็จะเข้าใจความคิดของประเทศอื่น ๆ โจทย์หลักที่ทุกประเทศต้องตีให้แตกคือ ตกลงสถานการณ์จริงของประเทศฉันเป็นอย่างไรกันแน่ ?

จึงไม่มีทางเลือกที่จะต้องตรวจให้มากที่สุด ครอบคลุมประชากรให้มาก และต่อเนื่อง ไม่ใช่ตรวจ ๆ หยุด ๆ

ด้วยข้อมูลที่สาธารณะรับทราบกันอยู่ในปัจจุบัน บอกตรงๆ ว่าเราคงไม่ทราบว่าเรามีการติดเชื้อจริงเท่าใดกันแน่ รู้เพียงว่าน่าจะมีคนติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว และ/หรือไม่ได้รับการตรวจอยู่อีกจำนวนไม่น้อย และกระจายอยู่หลายต่อหลายจังหวัด

Best guess ตอนนี้ หากต้องการให้คาดการณ์เพื่อให้พวกเราทุกคนเตรียมตัว ระวังตัวในการใช้ชีวิต และวางแผนการใช้ชีวิต คงจะประเมินว่า โอกาสทวีคูณอาจใช้เวลาราว 3-4 สัปดาห์

ตอนนี้คงประเมินแบบเป๊ะๆ ได้ยากว่าจะเกิดระลอกถัดไปช่วงไหน เพราะระบาดซ้ำของเราครั้งนี้ยังไม่ได้อยู่ในภาวะคงที่เงียบสงบ จำเป็นต้องรอดูช่วงกลางมีนาคมเป็นต้นไปจึงจะพอเห็น

เน้นย้ำว่า ขอให้เราทุกคนใช้ชีวิตอย่างมีสติ ป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะอยู่พื้นที่ใดก็ตามครับ

ใส่หน้ากากเสมอ ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างคนอื่นหนึ่งเมตร เลี่ยงการกินดื่มในร้าน ซื้อกลับบ้านดีกว่า

คอยสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบาย ต้องรีบไปตรวจรักษา อย่าปล่อยไว้ เพราะมีโอกาสแพร่เชื้อให้คนอื่นได้อีกมาก ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาเที่ยว สังสรรค์ ตะลอนหลั่ลล้าครับ

ด้วยรักต่อทุกคน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK