ชงบอร์ด “รฟม.” อนุมัติขายทรัพย์สินรถไฟฟ้าสายสีเขียวมูลค่า 5.1 หมื่นล้านบาทให้กับ กทม. โดยเตรียมลงนามเอ็มโอยู 3 ฝ่าย เปิดเดินรถ ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการให้ได้ 5 ธันวาคมนี้
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า วันที่ 26 ตุลาคมนี้ คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. มีวาระพิจารณาเรื่องการจำหน่ายและโอนทรัพย์สิน โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ส่วนต่อขยาย) ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และแบริ่ง-สมุทรปราการ ระยะทางรวม 32 กิโลเมตร วงเงิน 51,785 ล้านบาทให้กับกรุงเทพมหานคร (กทม.)
ทรัพย์สินดังกล่าว ประกอบด้วยโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 44,429 ล้านบาท และกรรมสิทธิ์ที่ดินวงเงิน 7,356 ล้านบาท นอกจากนี้ยั งมีทรัพย์สินอีก 50 ล้านบาท ที่ รฟม. ชำระหนี้ไปแล้ว ซึ่งทาง กทม. ก็รับปากว่าจะจ่ายค่าทรัพย์สินก้อนนี้ด้วย
ถ้าบอร์ดเห็นชอบการจำหน่ายทรัพย์สินตามที่เสนอ รฟม. ก็จะส่งเรื่องไปให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา โดยกระทรวงคมนาคม ในฐานะหน่วยงานแม่ของ รฟม. และกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหน่วยงานแม่ของ กทม. จะร่วมกันเสนอเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อให้ รฟม. สามารถจำหน่ายทรัพย์สินไปให้ กทม. และ กทม. สามารถกู้เงินมาซื้อทรัพย์สินดังกล่าวได้
หลังจากนั้น กทม. และ รฟม. ต้องร่วมกันจัดทำบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน เพื่อเตรียมรับโอนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ส่วนต่อขยาย) ซึ่งคาดว่าขั้นตอนทั้งหมดจะแล้วเสร็จในเดือนมีนาคม 2562
นายภคพงศ์ กล่าวต่อว่า แม้ขั้นตอนการรับโอนโครงการจะยาวนานถึงปี 2562 แต่รัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ ตั้งใจจะเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ส่วนต่อขยาย) ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ให้ได้ในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ ดังนั้น รฟม. กทม. และสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) จึงจะลงนามความเข้าใจ (MOU) เรื่องรับโอนหนี้สินและทรัพย์สินโครงการก่อน ในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ เพื่อเปิดให้บริการได้ตามเป้าหมาย
อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมบอร์ดสัปดาห์หน้า คงไม่มีการพิจารณาเรื่องผลการศึกษาและเงื่อนไขการประมูล (TOR) โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ใต้) ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาจนาภิเษก) ระยะทาง 23 กิโลเมตร วงเงิน 1 แสนล้านบาท เนื่องจาก รฟม. จัดทำรายละเอียดไม่ทัน
