พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เปิดฉากประชุมใหญ่รอบ 5 ปี เลขาธิการพรรค ชื่นชม “พัฒนาเศรษฐกิจเฟื่องฟู” และ “ควบคุมเชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาดได้” ระบุ เป็นความสำเร็จครั้งสำคัญ
วันนี้ (26 ม.ค.) พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เปิดฉากประชุมใหญ่รอบ 5 ปี ซึ่งการประชุมครั้งนี้ กำหนดเวลาไว้ 9 วัน ส่วนใหญ่จะเป็นการประชุมแบบปิด ที่ผู้เข้าร่วมการประชุม จะเลือกคณะผู้นำชุดใหม่ และมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความสำเร็จทางเศรษฐกิจของเวียดนาม
“เหวียน ฝู เจือง” เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม กล่าวระหว่างแถลงเปิดประชุม ชื่นชมความสำเร็จของเศรษฐกิจที่เฟื่องฟู และการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19
“ประเทศของเราพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว และมั่นคง ทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อพรรค ประเทศชาติ และการปกครองแบบสังคมนิยม การเติบโตของเวียดนาม เป็นไปอย่างมีคุณภาพมากขึ้น เศรษฐกิจมีเสถียรภาพ สามารถควบคุมเงินเฟ้อไว้ได้”
เจือง วัย 76 ปี กล่าวปราศรัยเป็นเวลา 75 นาทีต่อที่ประชุม ซึ่งมีสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ 1,600 คน จากทั่วประเทศเข้าร่วมในการประชุม โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ เวียดนาม มีปัญหาสุขภาพหลายอย่าง ทำให้มีความเป็นไปได้ที่เขาจะลงจากตำแหน่ง
แต่ถ้าเขายังคงดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ต่อไป อย่างที่ผู้สังเกตุการณ์ทางการเมืองเวียดนามคาดการณ์เอาไว้ เขาจะดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคยาวนานที่สุด นับตั้งแต่นายเล สวน หรือ เล หยวน เลขาธิการของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ที่อยู่ในตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ตั้งแต่เดือนกันยายน 2503 จนถึงแก่อสัญกรรมในปี 2529 ซึ่ง เล สวน ถือเป็นผู้นำคนสำคัญของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม หลังโฮจิมินห์ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อปี 2512
รู้จัก “พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม”
ทั้งนี้ พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เป็นพรรคการเมืองที่ถูกกฎหมายพรรคเดียวในเวียดนาม เป็นพรรคนิยมลัทธิมากซ์-เลนิน ที่สนับสนุนโดยแนวหน้าปิตุภูมิเวียดนาม
ผู้ก่อตั้งพรรคคือโฮจิมินห์ และชาวเวียดนาม ที่ลี้ภัยในจีนโดยใช้ชื่อพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม โดยมีการประชุมพรรคครั้งแรกที่ฮ่องกงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2472 ซึ่งในการประชุมครั้งนั้น ได้ตกลงรวมพรรคคอมมิวนิสต์อินโดจีน และพรรคคอมมิวนิสต์อันนัม เข้าด้วยกัน
โดยที่กลุ่มนิยมลัทธิมาร์กอีกกลุ่มหนึ่งของเวียดนามคือพันธมิตรคอมมิวนิสต์อินโดจีน ไม่ได้ถูกเชิญให้เข้าร่วมประชุมในฮ่องกง แต่สมาชิกของกลุ่มนี้เข้าเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ภายหลัง
หลังจากนั้นไม่นาน พรรคเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคคอมมิวนิสต์อินโดจีน ภายใต้การนำขององค์การคอมมิวนิสต์สากล การประชุมพรรคครั้งแรก เป็นการประชุมลับที่มาเก๊า เมื่อปี 2478
ในเวลาเดียวกัน ทางมอสโกได้ออกนโยบายต่อต้านลัทธิฟาสซิสต์ และสนับสนุนให้แนวร่วมคอมมิวนิสต์ทั่วโลกทำตาม รวมทั้งต้องการให้ขบวนการคอมมิวนิสต์ทั้งหมดในอินโดจีนเป็นพันธมิตรกัน
อย่างไรก็ตามพรรคนี้สลายตัวไปเมื่อปี 2488 กลายเป็นสมาคมนิยมลัทธิมาร์ก และเวียดมินห์ซึ่งเป็นแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติ
พรรคนี้ก่อตั้งใหม่อีกครั้งในนามพรรคแรงงานเวียดนาม เมื่อปี 2494 ในการประชุมใหญ่ระดับชาติของพรรคครั้งที่ 2 ในสงครามอินโดจีนครั้งแรก การประชุมใหญ่ของพรรคครั้งที่ 3 จัดขึ้นที่ฮานอยเมื่อปี 2503 ซึ่งเน้นการเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์ในเวียดนามเหนือ หรือสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม
รวมทั้งให้มีการสนับสนุนการปลดปล่อยในภาคใต้ การประชุมใหญ่ครั้งที่ 4 มีขึ้นเมื่อปี 2519 หลังสิ้นสุดสงครามเวียดนาม และเปลี่ยนชื่อพรรคเป็นพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม
ส่วนที่มีอำนาจสูงสุดของพรรค คือ คณะกรรมการกรมการเมืองศูนย์กลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ที่นำโดยเลขาธิการใหญ่ คณะกรรมการกรมการเมือง
ศูนย์กลางพรรคเลือกตั้งโดยคณะกรรมการศูนย์กลางพรรค และคณะกรรมการกลางเลือกตั้ง จากการประชุมใหญ่ของพรรค หลังจากการรวมชาติเวียดนาม มีการเพิ่มจำนวนคณะกรรมการศูนย์กลางจาก 77 คนเป็น 133 คน และเพิ่มคณะกรรมการกรมการเมืองศูนย์กลางพรรค จาก 11 เป็น 17 คน จำนวนสมาชิกเพิ่มจาก 760,000 คน เมื่อปี 2509 เป็น 1,553,500 ในปี 2519 คิดเป็น 3.1% ของประชากรทั้งหมด และเป็นเกือบสองล้านคน เมื่อปี 2529
หัวหน้าคณะกรรมการกลางของพรรคระหว่างปี 2494 – 2512 นำโดยโฮจิมินห์ ซึ่งถือเป็นผู้นำสูงสุดของพรรค การประชุมใหญ่ของพรรคมีทุก ๆ 5 ปี การประชุม 4 ครั้งแรกไม่ได้กำหนดเวลาที่แน่นอน เนื่องจากสงครามกับฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เวียดนามสั่งซื้อ ‘วัคซีนโควิด-19’ จากแอสตราเซเนกา 30 ล้านโดส
- ‘สุริยะ’ ถกเอกชนไทยในเวียดนาม เล็งออก ‘แพ็คเกจ’ ดึงทุนนอก
- ‘เวียดนาม’ ประกาศความสำเร็จ GDP ปี 2563 ขยายตัวเฉียด 3% แม้เจอโควิด-19
