ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมิน ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่พ้นจุดต่ำสุด “โรงแรม-ที่พัก” อย่างน้อย 3.7 พันแห่งจ่อไปไม่ไหว เสี่ยง ปิดกิจการ ปีนี้
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยแพร่บทวิเคราะห์ “ท่องเที่ยวปี 2564 ยังไม่ฟื้น ธุรกิจโรงแรมและที่พักยังไม่พ้นวิกฤติ”
ประเด็นสำคัญคือ ในปี 2564 การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศยังเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันการท่องเที่ยวไทยและธุรกิจบริการอย่าง โรงแรม และที่พัก โดยตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย ยังไม่ผ่านพ้นจุดต่ำสุด ขณะที่นักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทยฟื้นตัว แต่ยังอยู่ระดับต่ำ
จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมและที่พักปี 2564 ยังไม่ผ่านพ้นวิกฤติ คาดอุปทาน (Supply) โรงแรมและที่พักประมาณ 20% ในพื้นที่ 20 จังหวัด มีความเสี่ยงที่จะปิดกิจการ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ไม่สามารถควบคุมได้ภายในไตรมาส 1 ของปี 2564
โรงแรม และที่พักที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่เป็นกลุ่มโรงแรมราคาประหยัด (Budget) และโรงแรมระดับกลาง (Midscale) ที่รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่าง กลุ่มแบคแพคเกอร์ (Backpack) และกรุ๊ปทัวร์ (Group Tour)
คาดการณ์ “ตลาดนักต่างชาติ ปี 2564” ยังไม่พ้นจุดต่ำสุด
กรณีที่ 1 สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ดีขึ้น จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 4.5 ล้านคน สร้างรายได้ 3.4 แสนล้านบาท
ภายใต้สมมุติฐาน โควิด-19 ระลอกใหม่ในประเทศควบคุมได้เร็วและไม่มีการระบาดระลอกใหม่ที่รุนแรงอย่างมีนัยยะสำคัญ ขณะที่การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในต่างประเทศดีขึ้นและผลการใช้วัคซีนมีประสิทธิภาพดี การดำเนินนโยบายเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
กรณีที่ 2 สถานการณ์โควิด-19 เลวร้ายลากยาว จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2 ล้านคน สร้างรายได้ 2.2 แสนล้านบาท
ภายใต้สมมุติฐาน การระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ในประเทศกินระยะเวลานาน ประกอบกับในต่างประเทศยังมีการระบาดรุนแรงในหลายประเทศ การดำเนินนโยบายผ่อนปรนนักท่องเที่ยวต่างชาติจำกัดเฉพาะกลุ่มและประเทศ
คาดการณ์ “ตลาดนักท่องเที่ยวคนไทย ปี 2564” การฟื้นตัวยังท้าทาย
กรณีที่ 1 สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ดีขึ้น จำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทย 120 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 6.6 แสนล้านบาท
ภายใต้สมมุติฐาน ทางการสามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในประเทศได้ในช่วง 2-3 เดือนแรกของปี 2564 และไม่มีการระบาดรอบที่ 3 ในและต่างประเทศ เริ่มมีการใช้วัคซีนในประเทศ
กรณีที่ 2 ไวรัสโควิด-19 เสี่ยงระบาดในประเทศอีกรอบ จำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทย 90 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 5 แสนล้านบาท
ภายใต้สมมุติฐาน ความเสี่ยงการระบาดของโควิด-19 ในประเทศ ที่อาจจะเกิดขึ้นเป็นระลอกอย่างมีนัยสำคัญ จนส่งผลกระทบต่อการเดินทางท่องเที่ยวเป็นช่วงๆ
ก่อนโควิด-19 มา “โรงแรม ที่พัก” ก็ล้นตลาด
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้ว่า ก่อนเกิดสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด ธุรกิจโรงแรมและที่พักในประเทศก็มีอุปทานเกิดความต้องการ (Over Supply) อยู่แล้ว
โรงแรม และที่พักที่จดทะเบียนทั่วประเทศมีทั้งหมด 3.04 หมื่นแห่ง แบ่งเป็นโรงแรมราคาประหยัด (Budget) 39.2%, โรงแรมระดับกลาง (Midscale) 32.0%, โรงแรมระดับบน (Upscale) 13.9% และโรงแรมระดับหรูหรา (Upper Upscale-Luxury) 14.9% คิดเป็นจำนวนห้องพักทั่วประเทศรวม 1.12 ล้านห้อง
จะเห็นได้ว่า โรงแรมและที่พักส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Budget และ Midscale โดยราคาห้องพักรายวันเฉลี่ย (ADR) อยู่ที่ประมาณ 1,720 บาทและในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ค่าเฉลี่ยอัตราเข้าพัก (OCC) ทั้งประเทศอยู่ที่ประมาณ 69% สะท้อนว่า ในภาวะปกติธุรกิจโรงแรมและที่พักในประเทศก็ Over Supply อยู่แล้ว
“โรงแรม ที่พัก” 3,700 แห่ง ใน 20 จังหวัดเสี่ยง ปิดกิจการ
โรงแรมและที่พักซึ่งพึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติสูงมีจำนวน 20 จังหวัด โดยมีจำนวนโรงแรมและที่พักรวม 18.4 หมื่นแห่ง คิดเป็นสัดส่วน 60% ของโรงแรมทั้งหมด ขณะที่มีห้องพัก 8.30 แสนหน่วย คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 72.4% ของจำนวนห้องพักทั้งประเทศ
สำหรับ 20 จังหวัดดังกล่าว ได้แก่ ยะลา, ภูเก็ต, พังงา, สุราษฎร์ธานี, นราธิวาส, ชลบุรี, กระบี่, กรุงเทพฯ, สงขลา, สมุทรปราการ, เชียงใหม่, ปทุมธานี, ตราด, ประจวบคีรีขันธ์, อยุธยา, สุโขทัย, เชียงราย, ตรัง, นนทบุรี และสตูล
5 จังหวัดที่มี Supply ห้องพักสูงสุด คิดเป็นสัดส่วน 52% ของจำนวนห้องพักทั่วประเทศ ได้แก่
- กรุงเทพฯ 290,000 หน่วย
- ภูเก็ต 120,000 หน่วย
- ชลบุรี 98,500 หน่วย
- สุราษฎร์ธานี 67,700 หน่วย
- เชียงใหม่ 54,610 หน่วย
ปัจจุบันมี โรงแรม และที่พักประมาณ 50-55% ที่ยังไม่เปิดให้บริการ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มรองรับนักท่องเที่ยวซึ่งส่วนใหญ่เป็น Budget และ Midscale
ในพื้นที่ 20 จังหวัดดังกล่าว มีโรงแรม Budget และ Midscale เป็นกลุ่มเปราะบางสูง โดยคาดการณ์ว่า จำนวนโรงแรมและที่พักที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักและเสี่ยงปิดกิจการน่าจะมีประมาณ 20% หรือ 3,700 แห่ง ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภูเก็ต กรุงเทพฯ พัทยา กระบี่ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์โควิด-19 ลากยาว กลุ่มที่มีผลกระทบมากและเสี่ยงปิดกิจการจะเพิ่มเป็น 28-32%
ขณะเดียวกันมองว่า ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติยังเป็นปัจจัยที่เกิดกดดัน OCC Rate ในปี 2564 และคาดว่า OCC Rate จะอยู่ที่ประมาณ 35-40% ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 สามารถควบคุมได้ภายในไตรมาสแรกของปี 2564
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- โควิดระลอกใหม่ ท่องเที่ยวตกงานกว่า 2 ล้านคน ชงตั้ง ‘ธนาคารแรงงานภาคท่องเที่ยว’
- ป่วยโควิดวันนี้พุ่งสุด 959 ราย ค้นหาเชิงรุกพบมากถึง 848 ติดเชื้อในประเทศ 89 คน
- ลดเงินสมทบประกันสังคม 2 เดือน เยียวยาผู้ประกันตน มาตรา33 สู้ภัยโควิด