คนละครึ่ง “กระทรวงการคลัง” เผยล่าสุดมียอดใช้จ่ายสะสมแล้ว 71,323 ล้านบาท กรุงเทพยังใช้จ่ายสูงสุด เตือนผู้ที่ได้รับสิทธิ รีบใช้จ่ายครั้งแรกภายใน 14 วัน หรือวันที่ 7 ก.พ. ก่อนถูกตัดสิทธิ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการดำเนินโครงการคนละครึ่ง ณ วันที่ 24 มกราคม 2564 มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 1 ล้านร้านค้า และมีผู้ใช้สิทธิแล้วจำนวน 13,655,380 คน โดยมียอดการใช้จ่ายสะสม 71,323 ล้านบาท
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงาน เศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินโครงการคนละครึ่งว่า ณ วันที่ 24 มกราคม 2564 มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 1 ล้านร้านค้า และมีผู้ใช้สิทธิแล้วจำนวน 13,655,380 คน
โดยมียอดการใช้จ่ายสะสม 71,323 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 36,488 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 34,835 ล้านบาท โดยจังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี สงขลา เชียงใหม่ และสมุทรปราการ ตามลำดับ ซึ่งผู้ประกอบการร้านค้ายังคงสมัครเข้าร่วมโครงการได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 รอบเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2564 ที่ได้รับ SMS ยืนยันสิทธิ จะสามารถใช้จ่ายในโครงการได้ระหว่างวันที่ 25 มกราคม – 31 มีนาคม 2564 อย่างไรก็ดี ต้องเริ่มใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ครั้งแรกภายใน 14 วัน หรือภายในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564 มิเช่นนั้นจะถูกตัดสิทธิ์
จึงขอให้รีบดำเนินการยืนยันตัวตน ซึ่งสามารถดำเนินการเองได้โดยง่ายผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” หรือดำเนินการผ่านตู้เอทีเอ็มสีเทาของธนาคารกรุงไทยกว่า 3,300 ตู้ทั่วประเทศ โดยสามารถค้นหาตำแหน่งของตู้เอทีเอ็มสีเทาได้ใน Google Maps โดยพิมพ์คำว่า “ATM กรุงไทย ยืนยันตัวตน” โดยไม่จำเป็นต้องไปยืนยันตัวตนที่สาขาของธนาคารกรุงไทยเพียงช่องทางเดียว ทั้งนี้ สำหรับประชาชนที่ใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งแล้วไม่สามารถใช้สิทธิช้อปดีมีคืนได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในกรณีที่ไม่สามารถยืนยันตัวตน ผ่านแอพพลิเคชั่นได้ หรือ ยืนยันตัวตนไม่ผ่าน สำหรับ ผู้ที่ยืนยันตัวตน โครงการ “คนละครึ่ง” ไม่ผ่าน สามารถดำเนินการเองได้ที่ “ตู้ ATM สีเทา” รุ่นใหม่ของ ธนาคารกรุงไทย โดยไม่ต้องไปที่สาขา โดยทำตามวิธีต่อไปนี้
นำบัตรประชาชนไปทำการยืนยันตัวตนผ่านตู้ ATM กรุงไทย
- เลือกเมนู “ยืนยันตัวตน” (ไม่ต้องใช้บัตร ATM)
- ยืนยัน “การเป็นเจ้าของบัตรประชาชน”
- ยินยอมให้ “เปิดเผยข้อมูลพิสูจน์ตัวตน”
- เสียบบัตรประชาชน รอระบบตรวจสอบข้อมูลยืนยันตัวตนของท่าน
- เมื่อระบบตรวจสอบเสร็จนำบัตรประชาชนออก และดำเนินการต่อบนแอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” เป็นอันเสร็จสิ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง” แล้ว สามารถตรวจสอบดูร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการได้ด้วยการเข้าไปที่เว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com จากนั้นคลิกคำว่า ค้นหาร้านค้า หรือ คลิกที่นี่
ทั้งนี้ สามารถทำการค้นหาได้หลากหลายรูปแบบ ดังนี้
1. ค้นหาจากชื่อร้านค้า ด้วยการเลือกสถานที่ที่คุณต้องการค้นหา
2. ค้นหาจากประเภทร้านค้า ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 4 ประเภทร้านค้าด้วยกัน ได้แก่
- ร้านอาหารและเครื่องดื่ม
- ร้านธงฟ้า
- ร้าน OTOP
- ร้านค้าทั่วไป
เมื่อคลิกเข้าไปที่ประเภทใดประเภทหนึ่งแล้ว จะปรากฎหน้าผลการค้นหา โดยสามารถดูแถบเครื่องมือการค้นหาอย่างละเอียดตามความต้องการทางด้านซ้ายมือของหน้าจอ ยกตัวอย่างเช่น การระบุราคา, ระบุจังหวัด หรือ เลือกประเภทร้านค้าเป็นต้น
3. ค้นหาจากจังหวัด ผู้ที่ลงทะเบียน สามารถเลือกประเภทร้านค้า และจังหวัดที่ต้องการค้นหา หรือ จะเลือกจากแผนที่ซึ่งจะขึ้นว่า แต่ละจังหวัด มีร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมดกี่ร้านค้า ทั้งนี้ เฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการมากถึง 110,798 ร้าน, เชียงใหม่ 27,858 ร้าน, นนทบุรี 25,117 ร้าน, สมุทรปราการ 24,252 ร้าน เป็นต้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- คนละครึ่งรอบเก็บตก ใครยังยืนยันตัวตนเพื่อใช้เงิน 3,500 บาทไม่ได้ อ่านที่นี่!
- คนละครึ่ง 1.34 ล้านสิทธิ สแกนเป๋าตังซื้อของได้แล้ววันนี้ เช็คร้านค้าที่นี่ได้เลย!
- คนละครึ่งเฟส 3 มาแน่! หลังประชาชนกว่า 2 ล้านคนพลาดรอบเก็บตก
