COVID-19

กองทัพ จัดกำลังทางบกเพิ่ม 5 กองร้อย คุมเข้มป้องกันโควิดต่อเนื่อง ทุกพื้นที่

กองทัพ จัดกำลังทางบกเพิ่ม 5 กองร้อย ลาดตระเวนถี่ ทั้งทางบก ทางน้ำ เผยตั้งแต่ ตุลาคม 63 ถึงมกราคมปีนี้ จับผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายกว่า 2,000 คน

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า กองทัพ จัดกำลังทหารจากทุกเหล่าทัพและตำรวจ เพื่อสนับสนุนการป้องกัน และการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดน ได้เพิ่มความเข้มข้นงานข่าวเชิงลึก และกวดขันดำรงความต่อเนื่อง ในการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ทั้งทางบก ทางลำน้ำและทางทะเล

กองทัพ

พร้อมกันนี้ ได้จัดกำลังทางบกเพิ่มเติม 5 กองร้อย เสริมการปฏิบัติของกองกำลังป้องกันชายแดน และเพิ่มความถี่การลาดตระเวน ทั้งทางบกและทางน้ำ โดยกำลังทหารของทั้ง 3 เหล่าทัพ ได้เข้าไปสนับสนุนการปฏิบัติงาน ทั้งในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ( 5 จังหวัด ) พื้นที่ควบคุมสูงสุด ( 23 จังหวัด) รวมทั้งพื้นที่ควบคุมและพื้นที่เฝ้าระวัง โดยจัดตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตามเส้นทางคมนาคมสำคัญ และกวดขันจับกุมกิจกรรมกลุ่มเสี่ยง ที่มั่วสุมกระทำผิดกฎหมาย

ที่ผ่านมา นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 – มกราคม 2564 จากการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด พื้นที่ชายแดน และเส้นทางสำคัญ สามารถจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายได้ 2,043 คน

ขณะเดียวกัน ได้จัดกำลังพลเร่งด่วน สนับสนุนการบริหารจัดการพื้นที่ควบคุมสูงสุด ณ ตลาดกุ้ง และหอพระศรีเมือง จ.สมุทรสาคร จัดยานพาหนะขนย้ายผู้ป่วย สนับสนุนเวชภัณฑ์ป้องกัน รวมทั้งจัดสร้างโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ นอกจากนั้น ได้จัดเตรียมโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ต่าง ๆ รองรับสถานการณ์ในขั้นต้น กว่า 5,700 เตียง

ทั้งนี้ ในการประชุมสภากลาโหมที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธาน พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวขอบคุณและเป็นกำลังใจกับกำลังทหารทุกเหล่าทัพและตำรวจ ที่สนับสนุนมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ที่ผ่านมา

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กำชับว่า จำเป็นต้องคุมเข้มเฝ้าระวังป้องกัน โควิด-19 ต่อเนื่อง ควบคู่กับภารกิจป้องกันชายแดน และความมั่นคงพื้นที่ชั้นใน พร้อมย้ำขอให้กำลังพลทุกนาย ต้องป้องกันและเฝ้าระวังตนเอง ในการทำหน้าที่ เพื่อให้สามารถยืนหยัดสนับสนุนการปกป้องประชาชน และต่อสู้กับความท้าทาย ของภัยคุกคามจากโรคระบาดครั้งนี้ไปด้วยกัน กับทุกหน่วยงาน

พล.ท.คงชีพ กล่าวต่อว่า ตั้งแต่ เดือน มีนาคม 2563 กองทัพยังคงดำรงความต่อเนื่อง ในการสนับสนุนการบริหารจัดการ สถานกักตัวควบคุมโรคของรัฐ ( SQ ) 24 แห่ง จำนวน 7,775 ห้อง และสถานกักกันควบคุมโรคแห่งรัฐทางเลือก ( ASQ ) 123 แห่ง จำนวน 16,450 ห้อง ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ มีคนไทยกลับจากต่างประเทศ ผ่านการคัดกรองแล้วกว่า 1.8 แสนคน พบผู้ป่วย 1,402 ราย

นอกจากนี้ นายกร้ฐมนตรี ยังได้สั่งการ หน.นขต.กห. ผบ.เหล่าทัพ และ ผบ.ตร.ให้ประสานการทำงานกับ กอ.รมน.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับนายทุน และผู้อยู่เบื้องหลังการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ขบวนการค้ามนุษย์และยาเสพติด บ่อนการพนัน รวมทั้งขบวนการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ทั้งนี้ ให้สืบลึกถึงความเชื่อมโยง เอาผิดทางกฎหมาย และเส้นทางการเงิน นำสู่การยึดทรัพย์ทั้งหมด ไม่มียกเว้น พร้อมทั้งให้กำกับดูแลกำลังพลทุกนาย ห้ามเกี่ยวข้องเด็ดขาด

นายกรัฐมนตรี ยังได้ให้ทุกเหล่าทัพ จัดหาและพัฒนาระบบเทคโนโลยีเฝ้าตรวจ แจ้งเตือน เข้ามาช่วยเฝ้าระวัง ป้องกันพื้นที่ชายแดน ทั้งทางบกและทางน้ำ เพื่อให้ครอบคลุม การดูแลความปลอดภัยของประชาชน และภัยคุกคาม ทั้งพื้นที่ชายแดน และพื้นที่ชั้นใน รวมทั้งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของกองกำลังป้องกันชายแดน ที่มีกำลังพลอยู่จำกัด โดยให้ประสานความร่วมมือ กับหน่วยงานต่าง ๆ ในการวิจัย และพัฒนาระบบดังกล่าว ให้มีผลในทางปฏิบัติโดยเร็ว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo