COVID-19

‘วัคซีนไมตรี’ การทูตแบบอินเดียในยุค ‘โควิด’

ในการริเริ่มมาตรการทางการทูต ที่ผิดแผกไปจากเดิมนั้น รัฐบาลอินเดียได้บริจาค “วัคซีนโควิด-19” หลายล้านโดส ให้กับประเทศเพื่อนบ้าน ในเอเชียใต้ การเคลื่อนไหวที่นักวิเคราะห์ ระบุว่า มีเป้าหมายเพื่อ ยกระดับบทบาทของอินเดียบนเวทีโลก และต้านทานการขยายอิทธิพลในเอเชียใต้ของจีน

วัคซีนโควิดที่อินเดียบริจาคให้กับประเทศเพื่อนบ้าน เป็นวัคซีนของบริษัทแอสตราเซเนกา ที่ผลิตจากโรงงานในอินเดีย โดยได้จัดส่งไปให้กับ เนปาล ภูฏาน บังกลาเทศ เมียนมา มัลดีฟ มอริเชียส และซีเชลส์ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา  ทั้งยังเตรียมส่งให้กับศรีลังกา และอัฟกานิสถานต่อไป หลังจากที่รัฐบาลทั้ง 2 ประเทศนี้อนุมัติแล้ว

shutterstock 1729886449

อย่างไรก็ตาม ปากีสถาน ซึ่งถือเป็นคู่แข่งสำคัญของอินเดียในภูมิภาคนี้ ไม่ได้รับวัคซีนบริจาคนี้ ซึ่งโฆษกกกระทรวงต่างประเทศอินเดีย ระบุว่า จนถึงขณะนี้ ยังไม่ได้รับคำร้องของวัคซีนที่ผลิตในอินเดีย จากปากีสถานแต่อย่างใด

ศรีราม ชอเลีย นักวิเคราะห์จากวิทยาลัยกิจการระหว่างประเทศจินดัล กล่าวว่า อินเดียใช้ “การทูตวัคซีน” ในการพัฒนาภาพลักษณ์ และขยายอำนาจทางการทูตบนเวทีโลก เพื่อให้ได้รับการยอมรับ ในฐานะหนึ่งในประเทศผู้นำด้านวัคซีนโควิด

“อินเดียต้องการที่จะชี้ให้เห็นว่า ในด้านของการผลิตเวชภัณฑ์นี้ อินเดียมีความสามารถที่แท้จริง ที่จะแข่งขัน และเหนือกว่าจีน แตกต่างจากในด้านอื่นๆ อย่าง การทหาร และเศรษฐกิจ ที่จีนมักจะผงาดขึ้นมาบดบังอินเดียอย่างต่อเนื่อง”

“เรื่องนี้ถือเป็นการส่งสารออกไปในวงกว้างว่า ทุกคนสามารถพึ่งพาอินเดียได้ เป็นการส่งสารว่า อินเดียไม่ได้สร้างปัญหา แต่เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหา”

ที่ผ่านมา จีนได้บริจาควัคซีนที่ผลิตในจีน ให้กับอินโดนีเซีย และตุรกีไปแล้ว และมีแผนจะบริจาคให้อีกหลายประเทศในเอเชีย แอฟริกา และอเมริกาใต้ แต่ดูเหมือนวัคซีนของจีน จะได้รับความเชื่อมั่นน้อยกว่าวัคซีนแอสตราเซเนกา ที่อินเดียเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ และส่งไปยังหลายประเทศทั้งในรูปแบบของการบริจาค และการซื้อขาย

ปัจจุบัน อินเดียคือผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดในโลก และถือเป็นแนวหน้าในการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ให้กับประเทศรายได้ต่ำ และปานกลาง โดยมี สถาบันเซรัมแห่งอินเดีย  ที่ร่วมมือกับ บริษัทแอสตราเซเนกา ในการผลิตวัคซีนโควิดในอินเดีย

โครงการบริจาควัคซีนของอินเดียภายใต้ชื่อ “#VaccineMaitri” หรือ “Vaccine friendship” มีขึ้นท่ามกลางเสียงวิจารณ์เรื่องความไม่เท่าเทียมด้านวัคซีนระหว่างประเทศร่ำรวยทางตะวันตก กับประเทศยากจน ทำให้อินเดียได้รับความชมเชยอย่างมาก จากประเทศที่กำลังประสบปัญหาการเข้าถึงวัคซีนโควิด

shutterstock 1150277489

เมื่อเร็วๆ นี้ นายกรัฐมนตรีนเรนธรา โมดี ของอินเดีย ทวีตข้อความว่า จะเน้นมอบวัคซีนให้กับประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียใต้ เป็นอันดับแรก ๆ ภายใต้นโยบาย Neighborhood First

นายโมดี กล่าวว่า ในฐานะผู้ผลิตยารายใหญ่ของโลก อินเดียจะรับบทบาทนำในด้านการจัดหาวัคซีนโควิด-19 โดยขณะนี้มีวัคซีนจาก 2 บริษัท ที่ผ่านการรับรองจากรัฐบาลอินเดีย และพร้อมที่จะนำไปใช้ในการปกป้องมนุษยชาติแล้ว

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา บริษัทต่าง ๆ ในอินเดียได้เพิ่มกำลังการผลิต เพื่อตอบสนองความต้องการอันล้นหลามต่อวัคซีน

สถาบันเซรัมแห่งอินเดีย มีวัคซีนแอสเตราเซเนกาสำรองไว้แล้วมากถึง 80 ล้านโดส โดยมีกำลังผลิตอยู่ที่ 50 ล้านโดสต่อเดือน และจะมอบวัคซีนเหล่านี้บางส่วนให้กับโครงการริเริ่มโคแว็กซ์ (COVAX) ที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การอนามัยโลก (WHO) เพื่อแจกจ่ายวัคซีนโควิดให้กับประเทศยากจน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo