Economics

จับตา SCB ปิดฉาก ‘วินด์ เอนเนอร์ยี’ ดันเข้าระบบ default  

จับตาการแก้ปัญหา วินด์ เอนเนอร์ยี ของแบงก์ไทยพาณิชย์ ในฐานะเจ้าหนี้ กำลังเข้าสู่มุมอับ เหตุมีลูกหนี้บางรายไม่เห็นด้วยกับการขายหุ้นออกให้กับ กัลฟ์ ขณะที่ลูกหนี้จ่อฟ้องแบงก์เพิ่ม คาดหนทางสุดท้ายอาจนำไปสู่ default ปิดฉากการเจรจายืดเยื้อ 

scb1

วิบากกรรมการแก้ปัญหาโครงการปล่อยกู้ของ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB กับ บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด หรือ WEH  เพื่อลงทุนและพัฒนาโครงการพลังงานลม ได้ปล่อยเงินกู้ไปไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท

แต่ความวุ่นวายของบริษัทก็เกิดขึ้น  เนื่องจากมีการฟ้องร้องเกิดขึ้นภายในบริษัท ระหว่างผู้ถือหุ้นด้วยกันเอง ซึ่งกำลังส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคต  ขณะที่ไทยพาณิชย์เองก็มองว่า หากปล่อยให้ธุรกิจดำเนินการต่อไป ท่ามกลางการฟ้องร้องก็อาจจะส่งผลกระทบต่อการให้สินเชื่อได้

ที่ผ่านมาไทยพาณิชย์เข้ามาเป็นผู้จัดการแก้ปัญหาในฐานะเจ้าหนี้ก้อนใหญ่  แน่นอนว่าการจะทำให้การเจรจาสำเร็จ ต้องได้รับความเห็นชอบจาก 3 ฝ่าย ทั้งจาก นพพร ศุภพิพัฒน์ ผู้ก่อตั้งวินด์ เอนเนอร์ยี ที่ถือหุ้นผ่านบริษัทซิมโฟนี่ พาร์ตเนอร์ส จำกัด บริษัท เน็กซ์โกลบอล อินเวสต์เมนท์ส จำกัด และ บริษัทไดนามิค ลิงค์ เวนเจอร์ จำกัด ที่ฮ่องกง ครอบครัวณรงค์เดช และ ณพ ณรงค์เดช รองประธานคณะกรรมการวินด์ ที่สำคัญจะต้องขายได้ในราคาที่เป็นธรรม

เพื่อให้การแก้ไขปัญหาลุล่วง เมื่อประมาณเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ไทยพาณิชย์ในฐานะเจ้าหนี้ ได้เจรจาขอให้ สารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF มาช่วยซื้อหุ้นในส่วนของวินด์ออกไป

sarat
สารัชถ์ รัตนาวะดี

จากนั้นการเจรจาเริ่มเกิดขึ้นระหว่าง สารัชถ์ รัตนาวะดี กับ นพพร ศุภพิพัฒน์ ในฐานะผู้ถือหุ้นวินด์ ส่วนนี้ดูเหมือนไม่ค่อยจะมีความยุ่งยากสักเท่าไหร่

การพูดคุยของทั้งคู่น่าจะมีการพบปะเจรจากันมาอย่างน้อย 2-3 ครั้ง ดูเหมือนเป็นการเจรจาที่มีทางออกด้วยดี แต่การเจรจาเพียงแค่ นพพร ศุภพิพัฒน์ ไม่สามารถทำให้เรื่องยุติได้ อีกฝ่ายที่ต้องเจรจาให้เห็นด้วยนั่นคือ ณพ ณรงค์เดช รองประธานคณะกรรมการวินด์

ณพ” ยื้อสุดฤทธิ์เกมส์ขายหุ้นออก

แต่การเจรจากับ ณพ ณรงค์เดช  ตลอดช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ดูเหมือนยังเลือนลางมากกับข้อสรุปที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากผู้ถือหุ้นอย่าง ณพ ณรงค์เดช   ยังไม่ยอมที่จะเจรจาและขายหุ้นวินด์ออกไป

ณพ ณรงค์เดช  ยังคงมีท่าทีนิ่งเฉย และไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของไทยพาณิชย์ ที่จะให้ขายหุ้นออก แม้ที่ผ่านมา มีความพยายามเจรจาผ่านบุคคลสำคัญๆ ในวินด์อย่าง วิชัย ทองแตง ประธานวินด์ เพื่อจะให้ส่งต่อไปยัง ณพ ณรงค์เดช แต่ก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่ประสบความสำเร็จ

แม้ วิชัย ทองแตง รับปากที่จะไปเจรจาให้ แม้แต่ สารัชถ์ รัตนาวะดี เอง ก็เคยมีการพบปะและเจรจากับ ณพ ณรงค์เดช มาแล้ว แต่ก็ไม่สามารถลงเอยได้ เพราะคุยกันไม่รู้เรื่อง

narong
ณพ ณรงค์เดช

จับตาจุดจบแบงก์ดึงเข้าสู่ default

ฉะนั้นโจทย์ใหญ่ของเรื่องนี้คงจะอยู่ที่ไทยพาณิชย์ ที่จะจัดการกับ ณพ ณรงค์เดช  หลายคนประเมินว่าทางออกสุดท้ายหากยังไม่สามารถตกลงกันได้ สุดท้ายก็จะต้องเข้าสู่การ default หรือผิดนัดชำระหนี้กับบริษัทแม่  เท่ากับเป็นการยึดเบ็ดเสร็จ โดยแบงก์สามารถนำบริษัทออกไปหาผู้สนใจเข้ามาซื้อธุรกิจเองได้ เพื่อนำเงินไปใช้หนี้ให้กับผู้ถือหุ้นที่เป็นปัญหาอยู่ในทุกฝ่าย

ขณะที่การแก้ปัญหาการให้สินเชื่อของไทยพาณิย์กับ วินด์ ต้องยอมรับว่าวันนี้ กำลังสร้างแรงกดดันให้กับผู้เกี่ยวข้องพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบริหารหรือคณะกรรมการบางส่วน ที่สำคัญระยะเวลาในการแก้ปัญหาดูเหมือนจะงวดมากขึ้น กลายเป็นแรงบีบคั้นต่อการดำเนินการอย่างมาก

“นพพร”จ่อฟ้องแบงก์ใหม่ 

แต่ที่จะสร้างความหนักใจให้กับแบงก์เข้าไปอีก ล่าสุดมีข่าวว่า นพพร ศุภพิพัฒน์  เตรียมที่จะยื่นฟ้องแบงก์ด้วย กรณีที่ไปปล่อยกู้ให้กับบริษัทที่มีการโกงหุ้นของเขา

ดังนั้น การแก้ปัญหาของแบงก์ในเรื่องนี้น่าจะยังมีความวุ่นวายอยู่อีกมากมาย  เพราะบริษัทที่แบงก์ให้สินเชื่อไปก่อนหน้านี้ มีแต่ความวุ่นวายไม่ลงตัวกันระหว่างผู้ถือหุ้นด้วยกันเอง แม้แบงก์จะพยายามหาทางออกด้วยการไปหาผู้ซื้อเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น แต่การเจรจาช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมาดูเหมือนไร้ข้อยุติโดยสิ้นเชิง

“ที่ผ่านมาหลังจากแบงก์ดึงเอา สารัชถ์ รัตนาวะดี เข้ามาเป็นตัวกลางในการซื้อหุ้นออกไป สารัชถ์ รัตนาวะดี ก็พยายามเดินสายเจรจาอยู่หลายครั้ง ล่าสุดมีการพูดคุยกับ ครอบครัวณรงค์เดช และ นพพร ศุภพิพัฒน์ แล้ว บางรายมีการลงลึกถึงตัวเลขไปแล้ว มีความเชื่อว่าหากการเจรจาเสร็จสิ้น การฟ้องร้องที่เกิดขึ้นจะนำไปสู่การถอนฟ้อง เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าได้ แต่วันนี้ดูเหมือนเลือนลางมากเมื่อ ณพ ณรงค์เดช ยังไม่เห็นด้วย ดังนั้นหนทางสุดท้ายการจัดการทั้งหมดคงต้องอยู่ที่แบงก์เจ้าหนี้อย่างไทยพาณิชย์นั่นเอง”

nop
นพพร ศุภพิพัฒน์

เอกสาร 100 หน้าแรงกดดันปมแก้วินด์

แต่ที่มีความวิตกกังวลกันมากตอนนี้ ก็เพราะมีมือดีจัดทำเอกสารกว่า 100 หน้า  ที่เขียนรายละเอียดเกี่ยวโยงถึงการให้เงินกู้กับบริษัทก่อนหน้านี้

ส่วนจะพาดพิงใครอย่างไร เนื้อหาน่าจะอยู่ที่ 100 กว่าหน้านั้น ที่สำคัญมีการจัดส่งให้กับผู้หลักผู้ใหญ่ไปแล้ว ตรงนี้เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สร้างความเครียดไม่น้อยให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องในการให้สินเชื่อ

จับตาบอร์ดไทยพาณิชย์ลาออกเพิ่ม

ขณะที่บอร์ดของไทยพาณิชย์  ที่ผ่านมา คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม ได้ลาออกจากตำแหน่งกรรมการธนาคารและกรรมการตรวจสอบ รวมถึงตำแหน่งในคณะกรรมการชุดย่อยทุกชุด ไปแล้ว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม 2561 เนื่องจากดำรงตำแหน่งกรรมการอิสระครบ 9 ปี นี่เป็นการลาออกเนื่องจากครบวาระ 9 ปี ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ได้ประกาศออกมา ให้เป็นไปตามเกณฑ์ของธรรมาภิบาลใหม่ ของสถาบันการเงิน

แต่หากพิจารณาจากการดำรงตำแหน่งของกรรมการไทยพาณิชย์ ยังพบว่ามีอีกหลายคนที่น่าจะครบวาระ 9 ปีแล้ว กรรมการบางคนก็อยู่เกิน 9 ปีก็มี

อย่างไรก็ดี มีข่าวว่าเร็วๆ นี้ จะมีกรรมการของไทยพาณิชย์ที่จะต้องให้ลาออกเพิ่มอีก 1 คน คาดว่าจะมีการประกาศรายชื่อในไม่ช้านี้

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight