COVID-19

โควิดเรื่องร้อน คนไทยแห่แจ้งเบาะแสทำผิด 237 เรื่อง ผ่าน 1111

โฆษกรัฐบาล เผยประชาชน แห่แจ้งเบาะแสทำผิดเกี่ยวกับโควิดผ่าน 1111 จำนวน 237 เรื่อง ทั้งลักลอบเข้าเมืองผิดกฏหมาย บ่อนการพนัน กิจกรรมเสี่ยงแพร่ระบาด

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม รับทราบข้อมูลที่ประชาชนช่วยแจ้งเบาะแส เรื่องแรงงานเข้าเมืองผิดกฎหมาย บ่อนการพนัน และกิจกรรมใด ๆ ที่จะสุ่มเสี่ยงให้เกิดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ผ่าน 1111 ทั้ง 5 ช่องทางแล้วเป็นจำนวน 237 เรื่อง

cell virus ๒๑๐๑๒๓ 0

ทั้งนี้ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รายงานการรับแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิดหรือปล่อยปละละเว้นการกระทำผิดกฎหมาย บ่อน ค้าประเวณี แรงงานผิดกฎหมาย รวมทั้งเรื่องราวร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือ สอบถามข้อมูล เสนอความคิดเห็น หรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับโควิด-19 ผ่านทั้ง 5 ช่องทาง 1111 ได้แก่

  • สายด่วน 1111
  • ตู้ ปณ. 1111 ทำเนียบรัฐบาล
  • เว็บไซต์ www.1111.go.th
  • แอปพลเคชัน PSC1111
  • จุดบริการประชาชน 1111 ทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 7-22 มกราคม 2564 จำนวน 32,245 เรื่อง

สำหรับการแจ้งเบาะแสดังกล่าว แบ่งเป็นเบาะแสแรงงานเข้าเมืองผิดกฎหมาย 25 เรื่อง เบาะแสบ่อนการพนัน 132 เรื่อง เบาะแสการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 80 เรื่อง ส่วนอีกจำนวน 32,008 เรื่องนั้น เป็นการที่ประชาชนได้แจ้งเรื่องร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือ รวมถึงสอบถามข้อมูล เสนอความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะทั่วไปเกี่ยวกับโควิด-19

นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนผู้ให้ข้อมูล/แจ้งเบาะแส วางใจและมั่นใจว่ารัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแส โดยจะปกปิดชื่อผู้แจ้ง กำหนดเป็นเรื่องลับ ไม่ให้ผู้แจ้งต้องได้รับภัยจากการแจ้งเบาะแสหรือการให้ข้อมูล

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรียังเน้นถึงประสิทธิภาพกระบวนการส่งข้อมูลเบาะแส โดยให้แจ้งข้อมูลและเบาะแสการเข้าเมืองผิดกฎหมาย แรงงานผิดกฎหมาย ไปยังคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำความผิดกรณีการเข้าเมืองผิดกฎหมายเป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19

ส่วนข้อมูลและเบาะแสเกี่ยวกับ บ่อนการพนันให้แจ้ง คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำความผิดกรณีสถานที่เล่นการพนันเป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ในส่วนข้อมูลการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 9 พ.ร.บ. ฉุกเฉินฯ จะส่งไปยังส่วนศูนย์ปฏิบัติการด้านความมั่นคง (ศปม.) ซึ่งมีกองบัญชาการทหารสูงสุดและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นหน่วยปฏิบัติ รวมทั้งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กระทรวงมหาดไทย ซึ่งทั้งหมดนี้ให้รายงานผลการดำเนินงานให้นายกรัฐมนตรีทราบในทุกระยะด้วย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo