ดร.กิตติ โฆษะวิสุทธิ์ ประธานกรรมการ ศูนย์ประสานงานด้านความมั่นคงปลอดภัย เทคโนโลยีสารสนเทศภาคธนาคาร (TB-CERT) ได้ออกมาแนะนำภัยไซเบอร์ เมื่อข้อมูลส่วนตัวรั่วไหลจากผู้ให้บริการ
ด้วยปัจจุบันมีเหตุการณ์ภัยคุกคามทางไซเบอร์เกิดขึ้นมากมาย ทั้งภัยไซเบอร์ที่เกิดขึ้นกับผู้ใช้งานโดยตรง และภัยไซเบอร์ ที่เกิดจากผู้ให้บริการ แต่ส่งผลกระทบวงกว้างมายังผู้ใช้งาน โดยจุดมุ่งหมายหลักของกลุ่มแฮกเกอร์ คือ การพยายามเข้าถึงระบบและข้อมูลสำคัญ
หนึ่งในข้อมูลสำคัญ ที่แฮกเกอร์ให้ความสนใจคือ การเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวหรือการหลอกลวงเอาข้อมูลส่วนตัวของเรา เพื่อนำไปใช้งานเสมือนเป็นเจ้าของข้อมูลนั้นๆ ด้วย
ข้อมูลส่วนตัว หรือข้อมูลส่วนบุคคล เป็นข้อมูลที่บ่งบอกถึงลักษณะเฉพาะของบุคคลนั้น เพื่อเข้าใช้งานบริการของหน่วยงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันการเงิน มักจะใช้ข้อมูลนี้เพื่อประกอบการยืนยันตัวตน
ดังนั้น ข้อมูลส่วนบุคคลจึงมีความสำคัญ เพราะหากมีผู้ไม่หวังดีล่วงรู้ ก็อาจจะใช้สวมรอยในการทำธุรกรรมแทน และสร้างความเสียหายให้แก่เจ้าของข้อมูลได้
หากพบว่ามีข้อมูลส่วนตัวรั่วไหลจากผู้ให้บริการ ควรปฏิบัติดังนี้
- ตรวจสอบ และประเมินความสำคัญของข้อมูล ที่ใช้งานกับผู้ให้บริการรายนั้น
- เปลี่ยนรหัสผ่านที่ใช้ในการเข้าระบบของผู้ให้บริการรายนั้น
- หากมีการใช้รหัสผ่านเดียวกันกับระบบอื่น ๆ เช่น อีเมล เฟซบุ๊ก หรือ ไลน์ ควรเปลี่ยนรหัสผ่านดังกล่าวด้วย
- หลีกเลี่ยงการตั้งรหัสผ่านด้วยข้อมูลส่วนตัว เช่น วัน เดือน ปีเกิด หรือ หมายเลขโทรศัพท์
- ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ขอข้อมูล ระมัดระวังการให้ข้อมูลส่วนตัว ทางช่องทางต่าง ๆ เช่น ผู้ขอข้อมูลหรือโทรศัพท์
- หากสงสัยในการกรอกข้อมูลใด ๆ บนธุรกรรมออนไลน์ หรือเว็บไซต์ ควรติดต่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยตรง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ข้อมูลรั่วไหล’ ซื้อสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซ ดีอีเอส ถกแพลตฟอร์มค้าออนไลน์ แก้ด่วน!
- อ่านที่นี่! แคสเปอร์สกี้ แนะวิธีป้องกัน ข้อมูลลูกค้าซื้อของออนไลน์ รั่วไหล
- โควิด-19 โอกาสทองอาชญากรรมไซเบอร์ ‘สามารถฯ’ เร่งรุกซีเคียวริตี้