“รมช.สาธารณสุข” ลุกแจงกระทู้สดในสภาฯแทน “นายกรัฐมนตรี” ปม “วัคซีนโควิด” ยัน “สยามไบโอไซน์เอนซ์” มีศักยภาพสูง ลั่นรัฐบาลคุมโควิดระลอกใหม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (21ม.ค.) โดยมีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เป็นประธานนั้น นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ตั้งกระทู้ถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึงความชัดเจนในการผลิตวัคซีนของรัฐบาล เนื่องจากมีข้อสงสัยว่า ทำไมรัฐบาลจึงต้องเลือกบริษัทสยามไบโอไซน์เอนซ์เป็นบริษัทผลิตแต่เพียงผู้เดียว
ทั้งนี้ นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงลุกขึ้นชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรี โดยยืนยันว่า การพิจารณาจัดหาวัคซีน โดยสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ได้เจรจากับบริษัทวัคซีนเกือบทุกบริษัทมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2563 แล้ว ซึ่งเป็นการเจรจาช่วงที่แต่ละบริษัทกำลังทดลอง จำเป็นต้องเลือกบริษัทที่อาจสำเร็จที่สุด และการเจรจายังต้องใช้ความสามารถพิเศษ เพราะทั่วโลกต้องการวัคซีนจำนวนมาก
“เราโชคดีที่มีบริษัทสยามไบโอไซน์เอนซ์ ที่เกิดจากวิสัยทัศน์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และมีศักยภาพที่สามารถผลิตวัคซีนให้กับภูมิภาคนี้ได้ ทำให้บริษัทแอสตร้าเซเนก้า ตกลงเซ็นสัญญา ในเงื่อนไขที่ดีกว่าประเทศอื่น ๆ และเป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ เช่นเดียวกับวัคซีนของบริษัทซิโนแวคของจีน” นายสาธิต ระบุ
ส่วนรายละเอียดสัญญาต่าง ๆ ที่อยากทราบ สามารถขอดูรายละเอียดได้จากสถาบันวัคซีน แต่อาจมีข้อยกเว้นข้อมูลของบริษัทคู่สัญญา โดยเฉพาะข้อมูลการทดลองและรายละเอียดต่าง ๆ ในการผลิตวัคซีน ซึ่งเป็นความลับทางธุรกิจของบริษัทคู่สัญญา ไม่สามารถเปิดเผยได้
นอกจากนี้ นายสาธิต ยืนยันว่า รัฐบาลสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้เรียบร้อย โดยได้ติดตามกลุ่มเสี่ยงสูงและเสี่ยงกลางครบ 100% โดยใน 5 จังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงและเข้มข้นนั้น ได้มีการตรวจคัดกรองเชิงรุก หากพบในพื้นที่ที่มีการกระจายของโรค เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะติดตามและสอบสวนโรคให้ได้ภายใน 48 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้แพร่กระจายต่อไปกลายเป็นซุปเปอร์สเปรดเดอร์
“ผมมั่นใจมาตรการที่รัฐบาลเดินหน้าทำได้สำเร็จในพื้นที่ที่เป็นต้นตอการระบาดใน จ.สมุทรสาคร ที่พบผู้ติดเชื้อ ทั้งเสี่ยงสูง และเสี่ยงต่ำนั้นขึ้นอยู่กับการตรวจเชิงรุกและต้องทำให้มากที่สุด เพราะเป็นผู้ป่วยไม่มีอาการ ซึ่งมาตรการของรัฐบาลทำถูกต้องและควบคุมได้ในที่สุด” นายสาธิต กล่าว
สำหรับการจัดการปัญหาบ่อนการพนันและแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นสาเหตุของการแพร่เชื้อระลอกสองนั้น นายสาธิต กล่าวว่า ไม่สามารถตอบแทนได้ เพราะเป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคงดำเนินการ ส่วนเงินเยียวยา 3,500 บาท/คน/เดือนนั้น ต้องสอบถามกระทรวงการคลัง ซึ่งรัฐบาลมีเจตนาดีที่จะเยียวยาคลายเดือดร้อนของประชาชน ส่วนการกักตัวและมาตรการแต่ละจังหวัดอยู่ภายใต้การควบคุมโรคและการดำเนินงานเศรษฐกิจ
ส่วนมาตรการในการให้ความช่วยเหลือภาคธุรกิจและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 นั้นจะต้องพิจารณาทุกกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเท่าเทียมกัน ส่วนในจังหวัดท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบก็มีมาตรการเยียวยาเป็นพิเศษ เช่น ใช้โรงแรมที่ต้องพักกิจการมาเป็นสถานที่กับตัวทางเลือกของผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ เพื่อพยุงกิจการให้สามารถดำเนินการต่อไปได้ และยืนยันว่าทุกมาตรการจะพิจารณาไปควบคู่กันกับจังหวัดอื่น ๆ ด้วย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เช็คที่นี่! กทม.คลายล็อก 13 สถานประกอบการ ฟิตเนส นวด สปา เปิดได้พรุ่งนี้
- ‘ธนาธร’ แถลงเดือดปม ‘วัคซีนโควิด’ ยันปรารถนาดีต่ออนาคตของชาติ!
- ‘กระทรวงคลัง’ แจงยิบปม ‘เราชนะ’ ยันเกษตรกรได้รับเยียวยาด้วย!
