กมธ.คมนาคม ยก 5 เหตุผล ก่อนมีมติเอกฉันท์ ค้านต่อสัมปทาน 30 ปี – เบรกกทม.ชะลอขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว 104 บาท 16 ก.พ.นี้
นายโสภณ ซารัมย์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) คมนาคม แถลงผลการประชุมกมธ. กรณีการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวว่า หลังจากที่กมธ. ได้เชิญส่วนข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวมาชี้แจง 2 ครั้ง ได้ข้อสรุปใน 5 ประเด็น
1. กรอบเวลาในการต่ออายุสัมปทาน ยังเหลือเวลาอีก 9 ปี จึงจะกลายเป็นของรัฐ ซึ่งมีแนวคิดให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) ต่ออายุสัมปทานออกไปอีก เรื่องนี้ยังมีเวลาเพียงพอที่จะหาความชัดเจน และชี้แจงให้กับสังคมได้รับทราบว่า โครงการนี้ยังเป็นโครงการที่มีกำไร แต่ยังไม่คืนทุน
2. ความโปร่งใสในการต่ออายุสัมปทาน มีการอาศัยอำนาจตามตรา 44 ยกเว้นตามกระบวนการพ.ร.บ. ร่วมทุนฯ ซึ่งกมธ. เห็นว่าแม้จะใช้มาตรา 44 ยกเว้นได้แต่เงื่อนไขเวลายังเหลืออยู่ จึงไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนอะไรจะใช้มาตรา 44 ในการยกเว้นตาม พ.ร.บ. ร่วมทุนดังกล่าว
3. ระบบวินัยการเงินการคลัง กระบวนการต่อสัมปทานไม่ได้ยื่น ผ่านตามกระบวนการวินัยการเงินการคลังของรัฐ เมื่อเป็นโครงการขนาดใหญ่ ยิ่งควรจะตรวจสอบได้
4. อัตราค่าโดยสาร ขณะนี้ความเห็นยังไม่ตรงกัน เพราะข้อมูลที่ได้จากการชี้แจงของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผลคือ ไม่สามารถเอาข้อมูลมาแสดงต่อกมธ. ได้ว่าเหตุใดจึงไปจบที่ราคา 65 บาท
5. ความคุ้มทุนและประโยชน์สูงสุดที่ประชาชนและรัฐจะได้รับ จากการที่เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง ตอบไม่ได้ว่าถ้าเราไม่ต่ออายุสัมปทานเราจะเสียประโยชน์หรือได้ประโยชน์อย่างไร
“กมธ. จึงมิติเป็นเอกฉันท์ 2 มติ 1. ไม่เห็นด้วยกับการต่ออายุสัมปทานครั้งนี้ และ 2. กมธ.ขอให้กทม. ชะลอการขึ้นค่าโดยสาร 104 บาท ที่จะมีผลวันที่ 16 ก.พ. 2564 ออกไปก่อน” นายโสภณ กล่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ยื่นหนังสือด่วน! ปลัด กทม.ขอทบทวนค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว
- เปิด 5 เหตุสำคัญ! จี้กทม.ลดค่าโดยสารสายสีเขียว
- เปิดศึกกทม.! คมนาคมค้านค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว 104 บาท ชี้ภาระประชาชน