ประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานี แห่งอิหร่าน เรียกร้อง “โจ ไบเดน” นำสหรัฐกลับสู่ข้อตกลงนิวเคลียร์ ปี 2558 ระบุ สิ้นยุค “ทรราช” แล้ว
ประธานาธิบดีรูฮานี กล่าวระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ ว่า ถ้าหากกรุงวอชิงตัน กลับเข้าสู่ข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 อิหร่านจะปฏิบัติตามคำมั่นที่ให้ไว้ในข้อตกลงอย่างเต็มที่ พร้อมกล่าวอ้างอิงถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ว่า ได้มาถึงจุดสิ้นของยุคทรราชแล้ว และวันนี้ เป็นวันสุดท้าย ของการปกครองอันเลวร้ายของเขา
ผู้นำอิหร่าน ระบุด้วยว่า ตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่ทรัมป์อยู่ในตำแหน่ง ไม่ได้เกิดผลอะไรขึ้นมาเลย นอกจากความอยุติธรรม และการคอร์รัปชัน ที่สร้างปัญหาต่างๆ ให้กับทั้งชาวอเมริกัน และทั่วโลก
ทั้งนี้ ความตึงเครียดระหว่างอิหร่าน และสหรัฐ เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ โดยเริ่มตั้งแต่ที่ทรัมป์ ประกาศนำสหรัฐ ถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ของการเข้าดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐ
ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ฝ่ายเริ่มเลวร้ายลงอย่างต่อเนื่อง และดูเหมือนว่าเกือบจะถึงจุดแตกหัก หลังจากที่สหรัฐลอบสังหาร “กาเซ็ม โซไลเมนี” นายพลชาวอิหร่าน เมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว
ตลอดช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ยังเกิดความวิตกว่า ฝ่ายบริหารของทรัมป์ อาจพยายามกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศ ในช่วงท้าย ๆ ของการอยู่ในตำแหน่งผู้นำสหรัฐ
การที่นายโจ ไบเดน ซึ่งเป็นรองประธานาธิบดีในสมัยรัฐบาลประธานาธิบดีบารัก โอบามา ที่ดำเนินการเจรจา จนบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านได้นั้น ขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ทำให้เกิดความหวังมากขึ้น ที่จะสามารถฟื้นข้อตกลงนี้ขึ้นมาได้อีก
เมื่อปีที่แล้ว ไบเดนเคยให้สัมภาษณ์ว่า เขาอยากที่จะให้สหรัฐ กลับเข้าร่วมข้อตกลงนิวเคลียร์ ปี 2558 กับอิหร่านอีกครั้งหนึ่ง พร้อมวิจารณ์ทรัมป์ว่า มุทะลุ โยนนโยบาย ที่จะทำให้อเมริกาปลอดภัยทิ้งไป แล้วหันไปใช้นโยบายที่จะยิ่งทำให้เกิดภัยคุกคามต่อสหรัฐมากขึ้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘สภาล่างสหรัฐ’ ลงมติจำกัดอำนาจ ‘ทรัมป์’ เรื่องอิหร่าน
- แตกหักพันธมิตร! สหรัฐถอนตัวข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน
- เปิดประวัติศาสตร์ ‘สหรัฐ-อิหร่าน’ ขัดแย้งนานกว่า 65 ปี