ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (19 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ทะยานสูงขึ้น ท่ามกลางการรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบรรดาธนาคารรายใหญ่ ขณะนักลงทุน รอฟังสุนทรพจน์ของ “เจเน็ต เยลเลน” ว่าที่รัฐมนตรีคลัง เพื่อแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและค่าเงินดอลลาร์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 30,976.51 จุด ทะยานขึ้น 162.25 จุด หรือ 0.53% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,793.19 จุด บวก 24.94 จุด หรือ 0.66% และดัชนีแนสแด็กที่ 13,106.56 จุด ปรับขึ้นมา 108.06 จุด หรือ 0.83%
ตลาดได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารรายใหญ่ ๆ ของสหรัฐ รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง เช่น แบงก์ ออฟ อเมริกา ธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ ในแง่ของมูลค่าสินทรัพย์ เปิดเผยว่า ในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว ธนาคารมีรายได้ 20,200 ล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.07 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะกำไรอยู่ที่ 59 เซนต์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 55 เซนต์/หุ้น
แบงก์ ออฟ อเมริกา ยังส่งสัญญาณ ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จากการที่ผู้บริโภคใช้จ่ายมากขึ้น กิจกรรมการลงทุนยังคึกคัก และลูกค้าก็ยังคงมีความต้องการเงินกู้
ส่วน โกลด์แมน แซคส์ ธนาคารรายใหญ่อีกรายหนึ่งของสหรัฐ เปิดเผยว่า ธนาคารมีผลประกอบการในไตรมาส 4 ที่ 2.08 ดอลลาร์/หุ้น และรายได้ที่ 11,740 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยได้แรงหนุนจากธุรกิจซื้อขายหุ้น และวาณิชธนกิจ ซึ่งมีผลประกอบการแข็งแกร่ง แม้จะเกิดแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
วันนี้ ตลาดยังจับตาท่าทีของนางเยลเลน ว่าที่รัฐมนตรีคลังคนใหม่ของสหรัฐ ซึ่งมีกำหนดแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการเงินของวุฒิสภาสหรัฐ เพื่อแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและค่าเงินดอลลาร์
ในร่างแถลงการณ์ ที่เผยแพร่ออกมานั้น นางเยลเลน ระบุว่า มูลค่าของดอลลาร์ และสกุลเงินอื่นๆ จะถูกกำหนดโดยตลาด โดยตลาดจะปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของภาวะเศรษฐกิจ และจะส่งผลต่อการปรับตัวของเศรษฐกิจโลก
ว่าที่ขุนคลังสหรัฐ ยังแสดงความเชื่อมั่นว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ที่นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เสนอมานั้น เป็นมาตรการที่จะช่วยเหลือประชาชนให้สามารถรับมือกับวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
“ดิฉันเชื่อว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับนี้จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบเป็นเวลานานจากการแพร่ระบาด เศรษฐกิจสหรัฐจำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟู เพื่อให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า คนงานชาวอเมริกันสามารถแข่งขันกับชาติอื่นๆในตลาดโลกได้”
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ไบเดน’ ทุ่ม 57 ล้านล้าน ดันเศรษฐกิจอเมริกัน-สู้โควิด
- คาด ‘เศรษฐกิจโลก’ ขยายตัว 4% เงื่อนไขวัคซีนโควิด-19 พร้อมใช้วงกว้าง
- ครม.รับทราบภาวะเศรษฐกิจไทย คาดใช้เวลาฟื้นตัวไม่น้อยกว่า 2 ปี