แอสตราเซเนกา ดีที่สุดเวลานี้ สธ.แจงไม่ผูกขาด พร้อมรองรับถ่ายทอดเทคโนโลยี ด้าน อย.ระบุยังไม่มีการขึ้นทะเบียนวัคซีนรายใด รอเอกสารเพิ่มจากแอสตราเซเนกา
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยกรณีข่าว รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุขจัดหาวัคซีนโควิด-19 ล่าช้า ราคาแพง และ ติดต่อเพียงบริษัทเดียว ของ แอสตราเซเนก้า และสยามไบโอไซเอนซ์ ว่า รัฐบาลมองว่า วัคซีน เป็นหนึ่งในกระบวนการควบคุมโรค ซึ่งมีการคณะกรรมการจัดหาวัคซันเพื่อคนไทย และมีคณะทำงานย่อย มีการศึกษาข้อมูแลละติดตามมาตลอด
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า ขณะนั้น ยังมีข้อมูลที่จำกัด แต่เชื่อว่าการตั้งเป้าปี 2564 จากการทดลองในเฟส 3 น่าจะได้วัคซีนมาฉีดคนไทย 50% ซึ่งกระบวนการจัดหามีเจรจาหลายบริษัท แต่ไม่ได้แจ้งประชาชน เนื่องจากเป็นข้อจำกัด และข้อตกลงระหว่างกัน ที่ไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ การจัดหานั้น อาจจะมีความล่าช้าไปบ้างเล็กน้อย เนื่องจากต้องพิจารณาความเป็นไปได้กับทางวัคซีน และยืนยันว่าไม่ได้ล่าช้ามาก
ด้าน นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวว่า การใช้วัคซีน โควิด-19 ในภาวะเร่งด่วน และในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน การที่สถาบันวัคซีนร่วมกันจัดหาวัคซีน และจองล่วงหน้า ใช้ข้อมูลประกอบกัน และพิจารณารูปแบบวัคซีนที่วิจัยพัฒนาอยู่ว่า มีแนวโน้มจะใช้ได้กับไทยหรือไม่ ไม่ใช่การพิจารณาแค่ชื่อบริษัท หรือตามตัววัคซีนอย่างดียว
สำหรับกรณีของ แอสตราเซเนก้า ไม่ใช่การจองซื้อวัคซีนทั่วไป แต่ต้องการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตให้ไทย ในช่วงเวลาเร่งด่วนจึงต้องมีความพร้อมที่สุด มีความสามารถ มีคุณสมบัติ พบว่ามีสยามไบโอไซเอนซ์ พร้อมที่จะรองรับการถ่ายทอดจากมหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ด แม้แต่องค์การเภสัชกรรมของไทย ยังไม่มีศักยภาพเพียงพอ เพราะใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่
นอกจากนี้ การที่ไทยมีข้อตกลงในลักษณะนี้ ก็มีหลายประเทศอื่น ๆ อยากได้ข้อตกลงนี้กับไทย มีผู้พยายามแข่งให้บริษัทแอสตราเซเนก้า คัดเลือก แต่ทีมไทยแลนด์ ทั้ง สธ. และสถาบันวัคซีน และเอสซีจี และรัฐบาล ได้เจรจาและแสดงให้เห็นว่า ศักยภาพของสยามไบโอไซเอนซ์ ที่ปรับศักยภาพการมาเป็นการผลิตวัคซีน ซึ่งรัฐสนับสนุน 500 ล้านบาท และเอสซีจีอีก 100 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อเครื่องมือ จนเข้าคุณสมบัติ เป็นความพยายามทีมไทยแลนด์ ไม่ใช่แค่ชั่วข้ามคืนที่จำสเร็จ แต่เป็นการวางรากฐานเดิมมาแล้ว
ทั้งนี้ มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า การจัดหาวัคซีนครั้งนี้ เป็นการสนับสนุนบริษัทที่ขาดทุน ซึ่งขอยืนยันว่า เป็นไปตามหลักปรัชญารัชกาลที่ 9 ซึ่งไทยวางรากฐานแล้ว มีคน มีต้นทุนที่วางไว้ 10 กว่าปี และการที่เข้าถึงวัคซีน 26 ล้านโดส และเจรจาอีก 35 ล้านโดส เป็นการหาวัคซีนให้เพียงพอกับคนไทย
ขณะที่ นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ประเด็นที่ระบุว่า อย. พิจารณาขึ้นทะเบียนวัคซีน โควิด-19 ของบริษัทแอสตราเซเนกาแล้ว ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการขึ้นทะเบียนวัคซีนในไทย โดย แอสตราเซเนกาอยู่ระหว่างการขอเอกสารเพิ่มเติม
ส่วนการขึ้นทะเบียนได้ ก็ไม่ได้แปลว่า จะมีวัคซีนหรือไม่มีวัคซีนเข้ามาในไทย ขึ้นอยู่กับว่าทางบริษัท ว่าจะนำเข้ามาจำหน่ายในไทยหรือไม่ แต่หากเอกชน หรือผู้นำเข้ารายใด ที่ต้องการที่จะนำวัคซีนเข้ามาใช้ ก็ต้องมาขออนุญาตเป็นผู้แทนจำหน่ายจาก อย. โดยระบุให้ชัดว่า จะมีการนำวัคซีนจากบริษัทใดเข้ามา พร้อมทั้งนำเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องวัคซีนเข้ามายื่นด้วย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ฟิลิปปินส์’ จ่อซื้อวัคซีนโควิด-19 จาก ‘แอสตราเซเนกา’ บริษัทเดียวกับไทย
- ทำไมต้องวัคซีน ‘แอสตราเซเนกา’ ที่กระทรวงสาธารณสุขเลือกให้คนไทย?
- ‘แอสตราเซเนกา’ ขึ้นทะเบียน ‘วัคซีนโควิด’ กับไทยแล้ว คาด ให้ใช้ฉุกเฉินสัปดาห์นี้