Politics

‘บิ๊กตู่’ เหน็บเจ็บ! ขยะพิษจากโควิดเยอะแล้ว ขออย่าสร้างขยะสังคม

นายกรัฐมนตรี แจงรัฐบาลจำเป็นต้องควบคุมการนำเข้า “วัคซีนโควิด” เพื่อความปลอดภัย วอน “ขยะพิษ” จากโควิด-19 เยอะแล้ว ขออย่าสร้างขยะสังคม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เยี่ยมชมการนำเสนอผลงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อรองรับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ผลงานวิจัยที่ได้การสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และได้รับรางวัลการวิจัยแห่งชาติ : รางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้น ประจำปีงบประมาณ 2564

โดย นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงเชื้อ “โควิด-19” สายพันธุ์ใหม่จากประเทศอังกฤษ ว่า ต้องระมัดระวัง แต่ไทยถือว่าสามารถควบคุมได้ตั้งแต่ต้นทาง และตรวจสอบคัดกรองได้ดี แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือ พื้นฐานของเชื้อใกล้เคียงกัน แต่สายพันธุ์ใหม่แพร่ระบาดเร็วขึ้น แต่ความรุนแรงของโรคยังเท่าเดิม

นายกรัฐมนตรี

ดังนั้น วัคซีนที่จะใช้ต้องปลอดภัย ซึ่งวัคซีนจากแอสตร้า เซนเนก้า เตรียมผ่านการรับรองมาตรฐาน ทั้งนี้ ทุกวัคซีนสามารถขึ้นทะเบียนรับรองได้ โดยไม่ปิดกั้น แต่มาตรฐานของไทย ต้องผ่านการรับรองมาตั้งแต่ต้นทางก่อน ส่วนการฉีดต้องจัดลำดับตามความสำคัญ โดยระหว่างนี้ให้ศึกษาข้อมูลการฉีดของต่างประเทศ เพื่อเตรียมมาตรการป้องกัน

อย่างไรก็ตาม ในอนาคตอาจจะพิจารณาวัคซีนจากบริษัทอื่นที่มีคุณภาพ และราคาถูกลง มาบริการประชาชน ยืนยันไม่มีการผูกขาด ซึ่งวัคซีนเป็นสินค้าควบคุมดูแลในระยะแรก และใช้เมื่ออยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีการแพร่ระบาด ซึ่งรัฐบาลต้องควบคุม ไม่ใช่ใครจะนำเข้าก็ได้

“ประเทศไทย สั่งนำเข้าวัคซีนจาก “แอสตร้าเซนเนก้า” เนื่องจากบริษัทดังกล่าวขอเข้ามา และเราก็มีความพร้อมของ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ซึ่งบริษัทอื่นเรายังไม่พร้อม ทุกวัคซีนขอขึ้นทะเบียนได้เราไม่ได้ปิดกั้น โดยเขาต้องมีการรับรองมาตรฐานจากต้นทางมาก่อนด้วย และมารับรองมาตรฐานจากเราด้วย สำหรับการฉีดเมื่อได้มา ไม่ได้หมายความว่า คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะอนุญาตได้ในวันนี้พรุ่งนี้ และจะฉีดได้ทันที และวัคซีนก็มาตามการจอง ฉะนั้นจะเร่งฉีดก็ไม่มีวัคซีน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว 

นอกจากนี้ ระหว่างนี้ก็ศึกษาดูว่า ที่เขาฉีดกันไปนั้นเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อเตรียมมาตรการป้องกัน แต่ก็ถือว่าดีที่สุดในขณะนี้ และเราก็น่าจะตัดสินใจได้ถูก ถ้าของคนอื่นเขาได้ผลเราก็ซื้ออีก เราไม่ผูกขาดใครอยู่แล้ว ปีหน้าการผลิตวัคซีน จะมีการแข่งและผลิตกันได้เยอะ จะเป็นการแข่งกันทางการค้า ดังนั้น ต้องมีคุณภาพ ราคาถูก ยอมรับ และวัคซีนก็ต้องฉีดหลายครั้ง หลายปีต่อ ๆ ไป ถ้ายังแพร่ระบาดอยู่คงเหมือนวัคซีนไข้หวัดธรรมดามั้ง เป็นไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่

พล.อ.ประยุทธ์ ได้เน้นย้ำให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย พร้อมสนับสนุนให้คิดคนนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ ขณะที่เครื่องฆ่าเชื้อโควิด-19 โดยละอองนาโน ให้ไปศึกษาเพื่อผลิตเป็นสินค้าทางการค้าและดูว่าสถานที่ใดมีความจำเป็นที่จะต้องใช้งาน

IMG 20210119100612000000

จากนั้น นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะผู้บริหารประชาสัมพันธ์โครงการ “ฮาวทูแยก – แยกอย่างไรไม่ให้ติดเชื้อ” เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนทิ้งขยะติดเชื้อ เช่น หน้ากากอนามัย กระดาษชำระ เสื้อกาวน์จากเม็ดพลาสติก ชุดอุปกรณ์ป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ และ ถุงมือ อย่างถูกต้อง และจะมีระบบนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี ซึ่งโครงการนี้จะนำร่องใน 3 จังหวัดในพื้นที่เสี่ยงคือสมุทรสาคร ชลบุรีและระยอง

โดย พล.อ.ประยุทธ์ ได้โชว์การทิ้งขยะติดเชื้อ และรับมอบถุงขยะสีแดง จำนวน 35,000 ใบ และถังขยะสีแดง จำนวน 300 ใบ สำหรับใช้บรรจุขยะติดเชื้อ พร้อมย้ำว่า การกำจัดขยะต้องมีการบริหารจัดการให้ดี ซึ่งรัฐบาลมีแผนการตั้งโรงงานขยะ แต่ยังมีปัญหาในบางพื้นที่ ที่ประชาชนไม่ยินยอม โดยต้องขอความร่วมมือจากประชาชน เพราะหากไม่มีโรงงานขยะกระจายไปในแต่ละพื้นที่ ก็จะมีปัญหาเรื่องการขนส่งข้ามจังหวัด ซึ่งจะอันตราย ดังนั้นอยากให้มีในทุกจังหวัด หรือทุกภาค เพื่อลดระยะเวลาการขนส่ง ซึ่งท้องถิ่นต้องร่วมมือกัน

“ทุกวันนี้ขยะพิษจากโควิด-19 เยอะอยู่แล้ว ขออย่าสร้างขยะสังคมขึ้นอีก” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ตนมีความเป็นห่วงผู้ปฏิบัติงาน ไม่อยากให้เสี่ยงติดเชื้อ พร้อมขอบคุณทีมแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนที่ปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามนายกรัฐมนตรี ระหว่างเดินขึ้นตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ในเรื่องการผ่อนปรน ผ่อนคลายกิจการและกิจกรรม ว่าในสิ้นเดือนนี้จะมีการผ่อนปรนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ทุกคนจะต้องร่วมมือร่วมใจกันในการฝ่าฟันอุปสรรคนี้ไปให้ได้ และทาง ศบค.ก็มีการประเมินสถานการณ์การติดเชื้อรายวันอยู่แล้ว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo