COVID-19

3 จุดเสี่ยงโควิด ‘ครอบครัว-ร้านอาหาร-ที่ทำงาน’ เตือนลูกหลานแพร่เชื้อผู้สูงวัย

3 จุดเสี่ยงแพร่โควิด สธ.ชี้ คนในครอบครัว ร้านอาหาร สถานที่ทำงาน ต้องระวังมากขึ้น หลังพบเริ่มแพร่ระบาด เตือนบุตรหลาน นำเชื้อแพร่ต่อผู้สูงวัย ที่มีความเสี่ยงสูง

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดี กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบัน ทำให้สามารถระบุ 3 จุดเสี่ยงแพร่โควิด นั่นคือ การแพร่เชื้อในครอบครัว ในร้านอาหารโดยเฉพาะสถานที่ปิด และการแพร่เชื้อในสถานที่ทำงาน จากกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่ไม่แสดงอาการ

3 จุดเสี่ยงแพร่โควิด

ดังนั้น เมื่อทราบจุดเสี่ยงที่อาจเกิดการแพร่เชื้อโควิดได้ สิ่งสำคัญคือ การรักษามาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด ทั้งการเว้นระยะห่าง การสวมใส่หน้ากากอนามัย เนื่องจากการสอบสวนโรคพบว่า การติดเชื้อในที่ทำงาน มักเกิดขึ้นในช่วงรับประทานอาหารร่วมกัน จึงไม่ควรทานอาหารร่วมกันเป็นกลุ่มใหญ่ และสถานที่ทำงานควรมีมาตรการ ป้องกันการแพร่เชื้ออย่างเข้มงวด

อีกประเด็นสำคัญคือ ครอบครัวที่เป็นจุดเสี่ยง ต้องให้ความสำคัญกับกลุ่มเด็กและผู้สูงวัย ที่ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ติดเชื้อได้ง่าย และมีอันตรายสูงกว่าคนหนุ่มสาว วัยทำงาน เห็นได้จากการติดเชื้อในชุมชุน ในครอบครัว ที่พบการแพร่เชื้อให้ผู้สูงอายุมากขึ้น ดังนั้นขอความร่วมมือลูกหลานที่ไปเยี่ยมผู้สูงอายุ ต้องรักษามาตรฐานการควบคุมโรคไว้อย่างเคร่งครัด

นพ.โอภาส

สำหรับสถานการณ์ผู้ป่วยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อใหม่รายงานเข้ามา 369 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 82 ราย การค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 275 ราย และจากต่างประเทศ 12 รายในสถานกักกันของรัฐ เมื่อรวมผู้ป่วยระลอกใหม่ มีผู้ติดเชื้อแล้ว 8,186 คนเป็นติดเชื้อในประเทศ 3,689 คน เกิดจากการคัดกรองเชิงรุก ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ที่สมุทรสาคร 3,985 คน  และจากต่างประเทศ 515 คน

ขณะเดียวกัน ในวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประชุมทางไกล (VDO Conference) กับทางทีมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร โดยมีท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้สรุปรายงาน นายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้ชื่นชม และขอบคุณทีมงานชาวจังหวัดสมุทรสาคร ที่ร่วมแรงร่วมใจกันดำเนินการอย่างหนัก ในการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก และเชื่อว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ที่จังหวัดสมุทรสาครได้

TH สถานการณ์โควิดในไทย 2

“หากสถานการณ์เป็นแบบนี้ คาดว่า ประมาณ 1-2 สัปดาห์หน้า จะเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้นได้เรื่อย ๆ เป็นลำดับ”นพ.โอภาส กล่าว

นอกจากนี้ ยังพบว่า ภาพรวมจังหวัดจากการพบผู้ติดเชื้อ 61 จังหวัด มีจังหวัดที่เป็นพื้นที่สีเขียว ซึ่งไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในรอบ 7 วัน เพิ่มขึ้นเป็น 32 จังหวัด และจังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อเลย หรือพื้นที่สีขาว อยู่ที่ 16 จังหวัด ทำให้เห็นว่าขณะนี้ สถานการณ์การติดเชื้อ จะมีอยู่แค่ไม่กี่จังหวัด โดยส่วนใหญ่ยังอยู่ในภาคกลาง กรุงเทพฯปริมณฑล และภาคตะวันออก

เมื่อแยกเป็นคลัสเตอร์ สถานการณ์มีดังนี้

จังหวัดสมุทรสาคร เนื่องจากเป็นตลาดกลางที่เกี่ยวข้องกับ การขนส่งอาหารทะเลไปทั่วประเทศ ถ้าไม่นับรวมผู้ติดเชื้อในจังหวัดสมุทรสาคร พบว่า คนที่มาเกี่ยวข้องกับตลาดกลางกุ้ง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการระบาด มีการเชื่อมโยงไปกับจังหวัดต่าง ๆ ทั้งหมด 43 จังหวัดมีผู้ที่ติดเชื้อไม่นับจังหวัดสมุทรสาครที่เกี่ยวกับตลาดกลางกุ้งในการระบาดรอบใหม่ 568 คน

1รายจังหวัด

บ่อนการพนันในภาคตะวันออก มีการระบาดไปหลายจังหวัดและมีผู้ติดเชื้อทั้งหมด 1,491 คน ส่วนใหญ่จะผู้ป่วยที่ค้นหาเจอ จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน

กลุ่มที่เชื่อมโยงกับสถานบันเทิง กลุ่มนี้กระจายก็จะไปหลายจังหวัดเช่นเดียวกัน ส่วนใหญ่ตรวจพบจากการสำรวจกลุ่มเสี่ยง รวมทั้งติดตามผู้สัมผัสที่ใกล้ชิด

สนามไก่ชนจังหวัดอ่างทอง กลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะมีการติดเชื้อในจังหวัดโดยรอบ มีผู้ป่วยจากการสัมผัสผู้ติดเชื้อ 173 ราย

3บ่อน

กรุงเทพมหานคร  ขณะนี้ค่อนข้างทรงตัว และลดระดับลง โดยมีการค้นหาเชิงรุกในชุมชนได้บ้างเป็นกลุ่ม ๆ นะครับ แต่ก็จะไม่ได้มากเท่ากับสมุทรสาคร เนื่องจากทางกรุงเทพฯ จะเป็นการรวมกันเป็นโรงงานใหญ่ ๆ ส่วนใหญ่จะอยู่ทางตะวันตก และสัมพันธ์กับสถานบันเทิง

นพ.โอภาส สรุปการทำงานของแอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” วันที่ 17 มกราคม 2564 พบว่ายอดสะสมตั้งแต่เริ่มโครงการ มีผู้ใช้งาน 5,655,038 คน กิจการร้านค้าลงทะเบียน 365,749 แห่ง ดาวน์โหลดใช้แอพพลิเคชั่น 2,303,623 ครั้ง เป็นการเช็คอินผ่านแพลตฟอร์ม 96% และผ่านแอปพลิเคชั่น 94%

ขณะที่ การใช้งานแอปพลิเคชั่น “หมอชนะ” วันที่ 18 มกราคม พบว่า จำนวนยอดดาวน์โหลด 7.72 ล้านครั้งจำนวนผู้ใช้งาน 6.43 ล้านคน หรือประมาณ 10% ของประชากร อย่างไรก็ตาม อยากให้คนไทยทุกคนโหลด หมอชนะ เพื่อให้ระบบการค้นหาผู้ป่วยมีประสิทธิภาพ และรวดเร็วขึ้น

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo