บริษัทวิจัยชี้ “จีน” จ่อแซงหน้าสหรัฐ ขึ้นแท่นตลาด “Internet of Things” ใหญ่ที่สุดปี 67 ครองสัดส่วน 1 ใน 4 ของโลก
รายงานจากอินเตอร์เนชันแนล ดาต้า คอร์ปอเรชัน (International Data Corporation) บริษัทวิจัยตลาดระดับโลก ระบุว่า จีนจะแซงหน้าสหรัฐขึ้นแท่นเป็นตลาดอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (Internet of Things: IoT) ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2567
รายงานระบุว่าการใช้จ่ายด้าน IoT ของจีนคาดว่าจะอยู่ที่ราว 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 9 ล้านล้านบาท ภายในปี 2567 โดยอัตราการเติบโตต่อปีจะอยู่ที่ 13% ในอีก 5 ปีข้างหน้า
International Data Corporation ระบุว่าในปี 2567 การใช้จ่ายในด้านนี้ของจีนจะคิดเป็น 26.7% ของการใช้จ่ายของทั่วโลกในภาคส่วนเดียวกันนี้ ตามมาด้วยสหรัฐซึ่งอยู่ที่ 23.8% และยุโรปตะวันตกที่ 23.4%
ในบรรดา 20 อุตสาหกรรมที่รายงานดังกล่าวระบุถึง ภาคการผลิตและภาคการใช้จ่ายด้าน IoT ของรัฐบาลและผู้บริโภค จะคิดเป็นมากกว่าครึ่งหนึ่งของยอดการใช้จ่ายรวมของตลาดภายในปี 2567
โจนาธาน เหลียง (Jonathan Leung) นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสจาก International Data Corporation กล่าวว่าจีนเผชิญกับภาวะหยุดชะงักในตลาด IoT เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) และทุกอุตสาหกรรมได้ลดการใช้จ่ายด้านนี้ในช่วงต้นปี 2563
“ขณะที่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีนเป็นไปในทิศทางที่ดี เราคาดว่าตลาดจะฟื้นตัวกลับมาในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เนื่องจากผู้ประกอบการจะเริ่มเข้าใจถึงบทบาทอันสำคัญของ IoT ในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด รวมถึงความสามารถของ IoT ในการบรรเทาภาวะชะงักงันของตลาดด้วย” เหลียงกล่าว
ที่มาสำนักข่าวซินหัว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- โควิดสะเทือน ‘งานตรุษจีน’ นครสวรรค์ เลิกแห่กลางคืน พบโควิดโผล่อีก 1 ราย
- ล้ำ! โรงงานจีนเริ่มผลิต ‘รถยนต์ 5G ไร้คนขับ’ เพื่อใช้งานเชิงพาณิชย์
- สำเร็จครั้งแรก!! บริษัทญี่ปุ่นทดลอง ‘รถบินได้’ ตั้งเป้าเปิดตัวปี 66